ขอเพียงมู่ซีซีและฉู่จือหยวนคบกัน ไม่ช้าก็เร็วคนฉลาดอย่างจี้หลิงชวนต้องระแคะระคายและจับได้อย่างแน่นอน จากนั้นก็ต้องได้เห็นธาตุแท้ของมู่ซีซีเป็นแน่!
มู่อวี๋เฟยรอคอยวันที่จี้หลิงชวนเกลียดมู่ซีซี
แต่สิ่งที่มู่อวี๋เฟยไม่คาดคิดก็คือ จี้หลิงชวนรู้เรื่องนี้เร็วกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้ อีกทั้งเขายังรู้ความจริงก่อนที่มู่ซีซีจะตอบตกลงคบกับฉู่จือหยวนเสียอีก
ผลลัพธ์ที่มู่อวี๋เฟยได้คาดการเอาไว้ก่อนล่วงหน้านั้น มันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่มู่อวี๋เฟยยังคงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างจี้หลิงชวนและมู่ซีซี
เวลานี้เมื่อคุณแม่มู่ได้ยินคำพูดที่มู่อวี๋เฟยพูดออกมา เธอก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เธอกัดฟันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโห: “ใช่! นังมู่ซีซีนังเด็กสารเลว ! ถ้าไม่ใช่เพราะแก เราจะมาตกระกำลำบากแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ ! แม่ไม่ควรเลี้ยงไว้ แม่น่าจะบีบคอมันให้ตายๆไปเลยตั้งแต่ตอนนั้นซะ! เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมันคนเดียวที่เป็นตัวซวย !!!"
“ใช่ค่ะ! คุณแม่คะ ตอนนั้นคุณไม่ควรให้นังมู่ซีซีมันเกิดออกมาลืมตาดูโลกเลยนะคะ!” ถ้าคุณแม่ไม่คลอดมู่ซีซีออกมา ตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่าคนที่ตระกูลจี้เลือกนั้นอาจเป็นเธอก็ได้ ! ! !
ในเวลานี้คุณแม่มู่เกลียดชังมู่ซีซีอย่างยิ่ง จู่ ๆเมื่อได้ยินมู่อวี๋เฟยพูดเช่นนี้ คุณแม่มู่รีบตอบกลับด้วยมู่อวี๋เฟยโดยไม่ทันคิดว่า:“แม่ไม่เคยคลอดมู่ซีซีนังสารเลวนั้น !”
ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของคุณแม่มู่ก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบเอามือปิดปากของตัวเองไว้ แววตาของเธอนั้นบ่งบอกว่าเธอรู้สึกเสียใจที่พูดออกไปโดยไม่คิด
เมื่อกี้เธอพูดเร็วเกินไป! และเธอลืมไปว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมาอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นลูกสาวของเธออย่างมู่อวี๋เฟยก็ตาม พูดไม่ได้จริงๆ
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ด้านข้าง เธอตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณแม่มู่เพิ่งพูด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองไปที่คุณแม่มู่อย่างไม่กล้าเชื่อว่ามันจะเป็นความจริง หลังจากผ่านไปสิบกว่าวินาที ทันทีที่เธอได้สติกลับคืนมา เธอรีบคว้าแขนคุณแม่มู่ด้วยดวงตาเบิกกว้างด้วยความสงสัยแล้วถามอย่างรวดเร็วว่า:“ คุณแม่คะ เมื่อกี้นี้คุณแม่พูดว่าอะไรนะคะ ?คุณแม่ไม่ได้คลอดมู่ซีซี ?จริงๆเหรอคะ ?มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของคุณแม่ใช่ไหมคะ?”
ยิ่งมู่อวี๋เฟยถามเยอะเท่าไหร่ในใจของเธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณพ่อและคุณแม่ของเธออย่างแน่นอน
อันที่จริงมู่อวี๋เฟยรู้อยู่แก่ใจว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอปฏิบัติต่อเธอและมู่ซีซีต่างกันขนาดไหน ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกพอใจอย่างมาก เธอเพียงรู้สึกว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเธอนั้นรักเธอที่สุด คุณพ่อและคุณแม่ไม่เคยรักมู่ซีซีน้องสาวที่เกิดมาเพื่อแย่งความรักของเธอสักนิด
ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตมู่อวี๋เฟยเกลียดมู่ซีซีมาก และเธอไม่เคยยอมรับว่ามู่ซีซีเป็นน้องสาวของตน
นอกจากนี้โดยปกติแล้วคุณพ่อมู่และคุณแม่มู่นั้นมักจะเพิกเฉยต่อมู่ซีซี ดังนั้นมู่อวี๋เฟยก็ยิ่งได้ใจและไม่ชอบขี้หน้ามู่ซีซีมากขึ้นไปอีก และเธอก็มักจะรังแกกลั่นแกล้งมู่ซีซีอยู่ตลอดเวลา!
ตอนนี้ หลังจากที่ได้ยินประโยคคุณแม่มู่เพิ่งหลุดปากพูดเมื่อกี้นี้ ยิ่งทำให้มู่อวี๋เฟยเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณพ่อกับคุณแม่ปฏิบัติต่อเธอและมู่ซีซีมีแตกต่างกันมากขนาดนั้น
เป็นเพราะว่าคนหนึ่งเป็นลูกแท้ๆ อีกคนหนึ่งเป็นลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง คิดว่าหากเป็นคนอื่นก็คงจะปฏิบัติแบบนี้เช่นกัน
เมื่อคุณแม่มู่ต้องเผชิญกับคำถามของมู่อวี๋เฟย คุณแม่มู่ก็แสดงอาการตื่นตระหนกและมีพิรุธออกมาทางสายตา เธอมองดูรอบๆ อย่างช่วยไม่ได้และมองไปทางคุณพ่อมู่ที่กำลังหลับอยู่บนเตียงเหล็กเตียง
และเมื่อคุณแม่มู่หวนนึกย้อนน้ำเสียงที่ถูกคุณพ่อมู่ข่มขู่อย่างน่ากลัวนั้น : “แม่จะเล่าอะไรให้หนูฟังนะ ถ้าหนูกล้าเอาเรื่องที่มู่ซีซีไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเราไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้แล้วล่ะก็ หากมีใครรู้เรื่องนี้เข้าแล้ว เราสองคนแม่ลูกต้องตายแน่เลย! และถ้าแม่รู้ว่าลูกนำเรื่องนี้ไปบอกให้คนอื่นรู้ แม่จะเล่นงานแกนะ เข้าใจไหม!”
เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณพ่อมู่แล้ว คุณแม่มู่ก็รู้สึกตื่นตระหนกจนสั่นไปทั้งตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...