นับตั้งแต่ที่ชูเหยาหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จี้หลิงชวนเหมือนหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณและได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย จากนั้นเขาก็ได้เริ่มดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เขาเลยสักคน!
จู่ๆจี้หลิงชวนก็มาให้ลู่เฉิงฮ่าวหาผู้หญิงให้ ลู่เฉิงฮ่าวรู้สึกได้ถึงพฤติกรรมที่แปลกไปของจี้หลิงชวน และเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดในวันนี้แล้ว ดูเหมือนเพื่อนรักของเขาคนนี้จะต้องตกหลุมรักใครเข้าแล้วอย่างแน่นอน
ลู่เฉิงฮ่าวมีความสุขมากแทนจี้หลิงชวนมาก เพราะตั้งแต่ชูเหยาหายตัวไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจี้หลิงชวนใช้ชีวิตเหมือนเป็นพระภิกษุสงฆ์ยังไงยังงั้นแหละ
คงจะดีไม่น้อยถ้ามีใครคนหนึ่งที่เข้ามาดูแลจี้หลิงชวนอยู่ใกล้ๆ
ชูเหยาหายตัวไปโดยอย่างไร้ร่องรอย บางทีเธออาจตายไปแล้วก็เป็นได้ เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งที่จะให้จี้หลิงชวนรอชูเหยาไปตลอดชีวิต!
ในขณะที่ลู่เฉิงฮ่าวกำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆน้ำเสียงแสนเย็นชาของจี้หลิงชวนก็ดังก้องขึ้นอีกครั้ง : "ช่วงนี้นายมีปาร์ตี้ในแวดวงเพื่อน ๆนายไหม?”
เมื่อลู่เฉิงฮ่าวได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดแล้วนั้น ในใจก็เกิดความสงสัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น เขารีบตอบกลับจี้หลิงชวนด้วยท่าทางงงงวยว่า:“มีสิ แวดวงเพื่อนของฉันจัดปาร์ตี้ทุกวัน แล้วนายถามทำไม ?นายจะมาร่วมงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ
แต่ประโยคสุดท้ายนั้นลู่เฉิงฮ่าวแค่ถามเขาอย่างติดตลกเท่านั้น
ในอดีตลู่เฉิงฮ่าวเพิ่งเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ชายเจ้าสำราญ เขาก็เคยเชิญชวนจี้หลิงชวนเพื่อนรักของเขาเข้าร่วมด้วย แต่จี้หลิงชวนก็ปฏิเสธเขาทุกครั้งโดยไม่ลังเล หลังจากนั้นมาลู่เฉิงฮ่าวก็ไม่เคยชวนจี้หลิงอีกเลย
ปกติจี้หลิงชวนไม่ชอบงานสังสรรค์และงานเลี้ยงเหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันดีอยู่แล้วในแวดวงสังคมชนชั้นสูงในเมืองหรง
ในวินาทีถัดมา น้ำเสียงที่เย็นชาของจี้หลิงชวนก็ดังก้องขึ้นในหูของลู่เฉิงฮ่าว :“ถ้าเช่นนั้น วันนี้เป็นวันรวมตัวปาร์ตี้ เดี๋ยวเรียกลูกชายคนสุดท้องของตระกูลฉู่มาเข้าร่วมปาร์ตี้ครั้งนี้ด้วยนะ”
“หา……อะไรนะ……นายพูดว่าอะไรนะ? จี้หลิงชวน สิ่งที่นายพูดนั้นหมายความว่าอย่างไรกัน?”ลู่เฉิงฮ่าวดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ของจี้หลิงชวน จี้หลิงชวนหมายความว่าต้องการให้เขาเข้าร่วงงานปาร์ตี้ในครั้งนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ? เมื่อฟังจากที่จี้หลิงชวนพูดราวกับว่าเขาก็ต้องการมาเข้าร่วมงานปาร์ตี้ครั้งนี้ด้วยยังไงยังงั้นแหละ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อารมณ์ไหน จี้หลิงชวนถูกผีเข้าสิงเหรอ หรือว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกกันแน่?
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินน้ำเสียงตกใจของลู่เฉิงฮ่าว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า: “มันก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ!”
ลู่เฉิงฮ่าวยังคงไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก เขาตอบต่อว่า: "มันง่ายมากถ้าจะเข้าร่วมงานปาร์ตี้ เดี๋ยวฉันจะโทรเรียกคนเอง แต่นี่นายหมายความว่านายก็ต้องการมาเข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยใช่ไหม?”
“แน่นอน ฉันต้องเข้าร่วมแน่นอน!” จี้หลิงชวนตอบโดยตรง ถ้าครั้งนี้เขาไม่เข้าร่วมเกมมันจะเริ่มได้อย่างไรกันล่ะ?
ในขณะที่พูดอยู่นั้นจี้หลิงชวนก็กลัวลู่เฉิงฮ่าวที่วางใจอะไรไม่ค่อยได้ เขาพูดเน้นย้ำอีกรอบว่า :“ต้องจำไว้นะนายต้องเชิญลูกชายคนสุดท้องของตระกูลฉู่มาให้ได้ !”
ถ้าฉู่จือหยวนไม่มาเข้าร่วมงานปาร์ตี้ งานในปาร์ตี้ก็คงจะไม่สนุกแล้วล่ะ
ในที่สุดลู่เฉิงฮ่าวก็จับประเด็นได้แล้ว และถามด้วยความสงสัยในทันทีว่า:“ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลฉู่ ? บริษัท sheng xu Group แห่งนั้นเหรอ?”
"อืม ถูกต้องแล้ว"
ลู่เฉิงฮ่าวยังคงจำลูกชายคนสุดท้องของตระกูลฉู่ได้ดี เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด จู่ ๆ เขาก็สงสัยขึ้นมาทันที: “ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลฉู่ก็ต้องเป็นฉู่จือหยวนนะสิ ?ทำไมครับคุณชายใหญ่จี้ ฉู่จือหยวนคนนั้นทำอะไรให้คุณชายไม่พอใจอย่างนั้นเหรอครับ?”
จากที่ลู่เฉิงฮ่าวรู้จักจี้หลิงชวนมานานหลายปีแล้ว ถ้าหากว่าฉู่จือหยวนไม่ได้ทำอะไรให้จี้หลิงชวนโกรธเคือง คนอย่างจี้หลิงชวนคงไม่รู้หรอกว่ามีฉู่จือหยวนคนนี้อยู่ในเมืองหรงด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...