อันที่จริงเป็นเพราะเมื่อวานนี้ทั้งสองคนทะเลาะกันรุนแรงมากไปหน่อย ดังนั้นมู่ซีซีจึงต้องการหาข้ออ้างที่จะออกไปข้างนอกเพราะกลัวว่าเมื่ออยู่บ้านแล้วจะรู้สึกอึดอัด
หลังจากที่ถูกจี้หลิงชวนจับได้คาหนังคาเขา ใบหน้าที่สวยงามของมู่ซีซีก็เปลี่ยนไปรู้สึกอับอายอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่มู่ซีซีอึดอัดจนทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะพูดอะไรอยู่นั้น จี้หลิงชวนก็ได้ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดแล้วพูดขึ้นว่า: "คุณขึ้นไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวไปร่วมงานเลี้ยงกับผมหน่อย”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูด แววตาของเธอก็แสดงความประหลาดใจออกมาและถามออกไปโดยไม่รู้ตัว: “ไปร่วมงานเลี้ยงอะไรคะ?”
“มันเป็นแค่งานเลี้ยงสังสรรค์การรวมตัวเล็กๆ ระหว่างเพื่อนของผมเท่านั้น คุณรีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเราก็จะออกเดินทางทันที”
จี้หลิงชวนพูดอย่างรวดเดียวจบเพื่อไม่อยากให้เธอซักไซร้
เมื่อมู่ซีซีฟังมันเป็นเวลาหลายสิบวินาที เท้าของเธอยังคงยืนอยู่กับที่ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอมองไปที่จี้หลิงชวนและกล่าวว่า "คุณจี้……จี้หลิงชวนคะ ฉันไม่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ไหมคะ?”
เพื่อนของจี้หลิงชวนมู่ซีซีไม่รู้จักสักคน สิ่งที่มู่ซีซีกลัวที่สุดคือการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับคนแปลกหน้านั้นมันต้องรู้สึกอึดอัดและทำตัวไม่ถูกอย่างแน่นอน
“ไม่ได้!คุณต้องไปเข้าร่วม” จี้หลิงชวนยังไม่ทันคิดก็ตอบปฏิเสธคำพูดของมู่ซีซีโดยตรง
จี้หลิงชวนยื่นคำขาดยังไงก็ต้องพามู่ซีซีไปร่วมงานเลี้ยงนี้ให้ได้ มู่ซีซีไม่สามารถต่อต้านได้และทำได้เพียงเลือกที่จะประนีประนอมพร้อมกับพยักหน้าตอบว่า :“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ"
หลังจากพูดจบมู่ซีซีก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบนทันที มู่ซีซีเดินไปที่ห้องแต่งตัว เธอเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าออก และเหลือบมองเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้านั้น
เสื้อผ้าของมู่ซีซีนั้นเธอซื้อเองทั้งหมด ส่วนมากนั้นเป็นเสื้อผ้าราคาถูก ส่วนใหญ่เป็นเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้น เหลือบมองเธอเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ที่ตัวเองสวมใส่อยู่
เห็นได้ชัดว่าจี้หลิงชวนไม่ชอบชุดของเธอมาก ดังนั้นจึงให้เธอขึ้นมาเปลี่ยนชุด
มู่ซีซีควานหาเสื้อผ้าอยู่ในตู้เสื้อผ้าเป็นเวลานาน และในที่สุดก็พบกระโปรง เธอเปลี่ยนกระโปรงและเปลี่ยนรองเท้าผ้าใบสีขาวจากนั้นมูซีซีก็ลงไปชั้นล่าง
ทันทีที่เธอลงบันไดไปชั้นล่าง มู่ซีซีรู้สึกว่าแววตาที่จี้หลิงชวนจ้องมองที่ตัวเธอนั้นเป็นแววตาไม่สบอารมณ์
จี้หลิงชวนมองการแต่งตัวของมู่ซีซี คราวนี้มันก็ไม่ใช่เสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์อีกแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าการแต่งตัวก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่นักหรอก
กระโปรงยาวสีน้ำเงินอ่อนถึงเข่า ก็ไม่รู้ว่าไปค้นเจอมันจากมุมไหน เมื่อสวมใส่แล้วดูน่าเกลียดมากเลย และมันได้บดบังความงามของมู่ซีซีไปจนหมด
จี้หลิงชวนจ้องมองด้วยอาการที่ไม่สบอารมณ์ เขาเม้มริมฝีปากและไม่พูดไม่จา และบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะหนึ่ง
โชคดีที่ป้าหลิงที่กำลังยุ่งอยู่ในครัวด้านข้างเดินออกมา เดินไปหาทั้งสองคนและทำลายความเงียบลงโดยพูดขึ้นว่า:“คุณชายคะ คุณหนูมู่คะ อาหารเช้าพร้อมแล้ว ?จะทานตอนนี้เลยไหมคะ ?”
ทันทีที่ป้าหลิงพูดจบ ท้องของมู่ซีซีก็ร้องโครกครากด้วยความหิว
เมื่อคืนมู่ซีซีถูกจี้หลิงชวนลงโทษทั้งคืน จนหมดเรี่ยวแรง เวลานี้เธอหิวจนทนแทบไม่ไหวแล้ว
เมื่อฟังเสียงท้องของตัวเองร้อง มู่ซีซีรีบเอามือไปกุมท้องด้วยความเขินอาย หน้าตาที่ขาวผ่องดุจหิมะก็ค่อยๆแดงก่ำขึ้น
จี้หลิงชวนเหลือบไปที่ท้องแบนราบของมู่ซีซีด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็หันไปมองป้าหลิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับพยักหน้า
ป้าหลิงรู้ทันที จึงรีบกลับไปเตรียมอาหารเช้า
ทันทีที่ป้าหลิงจากไป จี้หลิงชวนก็พูดกับมู่ซีซีก่อนว่า: "ทานข้าวเช้ากันก่อน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...