เวินจิ่งโกรธไม่น้อย!
ยังไงก็ตาม เขาก็เป็นแพทย์ศัลยกรรมประสาท และเขามีมีดผ่าตัด!
ไม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังได้รับปริญญาเอกด้านการแพทย์และเภสัชศาสตร์อีกด้วย ไม่เพียงแต่สนใจในด้านการแพทย์เท่านั้นแต่ยังสนใจเรื่องยาอีกด้วย และตอนนี้เขาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็เพื่อศึกษาต่อด้านยา
แต่ตอนนี้จี้หลิงชวนคนร้ายกาจโทรหาเขาตอนกลางดึกและถามเขาว่าจะรักษาอาการปวดท้องของหญิงสาวในช่วงมีประจำเดือนได้อย่างไร?
เวินจิ่งรู้สึกว่าเขาโดนสบประมาท!
จี้หลิงชวนไม่ได้คาดหวังว่าเพื่อนของเขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นนี้ เขาถือโทรศัพท์แน่นและพูดไม่ออก
เดิมทีจี้หลิงชวนคิดว่าเวินจิ่งเป็นหมอ เขาก็น่าจะรู้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้น เหมือนว่าเวินจิ่งจะมีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ อายุเพียง27ปีเขาก็ได้เป็นถึงศาสตราจารย์แล้ว
ในอีกด้านหนึ่งเวินจิ่งที่อารมณ์ฉุนเฉียวอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อได้สติ เขาก็จับประเด็นได้ นัยน์ตาคล้ายดาวสีน้ำเงินเข้มสว่างขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ อาการงัวเงียของเขาหายไปเกือบครึ่ง เขาถือโทรศัพท์แน่นด้วยความสงสัย "จี้หลิงชวน...แกคงไม่ได้มีแฟนแล้วหรอกใช่ไหม!"
เมื่อเวินจิ่งกล่าว ความคิดในสมองของเขาก็โลดแล่นอย่างรวดเร็ว
ตอนแรกสิ่งที่เขาคิดก็คือชูเหยาที่หายตัวไปนั้นกลับมาแล้ว?
แต่ความคิดนี้ก็ถูกเวินจิ่งทำลายล้างไป!
เป็นไปไม่ได้! หากว่าชูเหยากลับมาแล้ว เกรงว่าจี้หลิงชวนนั้นจะโทรบอกพวกเขาเหล่าพี่น้องเป็นสายแรกด้วยความดีอกดีใจ!
ดังนั้นความเป็นไปได้สุดท้าย นั่นคือ จี้หลิงชวนพบแฟนใหม่!
จี้หลิงชวนไม่คิดว่าเวินจิ่งจะถามประโยคนี้ สีหน้าของเขาตกใจเล็กน้อย ภายในความคิดของเขาอดไม่ได้ที่จะฉายภาพที่เขาเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วเห็นมู่ซีซีที่ผมนุ่มสลวยนั้นชี้ฟู เธอก็มีอาการงัวเงียและดูน่ารัก มุมริมฝีปากของเขาโค้งงอเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจ
วินาทีถัดมา จี้หลิงชวนได้ยินเสียงของตัวเองพูดและตอบรับว่า "อืม เป็นแฟน"
เวินจิ่งได้ยินจี้หลิงชวนที่ตอบรับ จากนั้นเขาก็นึกได้ว่าไม่กี่วันก่อนลู่เฉิงฮ่าวมาพูดคุยกับเขาบอกว่าข้างกายจี้หลิงชวนนั้นมีหญิงสาวแล้ว ในตอนนั้นเวินจิ่งคิดว่าลู่เฉิงฮ่าวพูดจาไร้สาระ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง!
หลังจากที่ตื่นตระหนกแล้ว การแสดงออกของเวินจิ่งก็สงบลง ความคิดของเวินจิ่งในตอนนี้ก็เหมือนกับลู่เฉิงฮ่าวในตอนนั้น เขายินดีกับจี้หลิงชวนเป็นอย่างมาก
การเลิกราในปีนั้นของจี้หลิงชวนและชูเหยามันขมขื่นจนเกินไป
เป็นไปได้ยากที่เวินจิ่งจะไม่สนใจในคำถามที่จี้หลิงชวนเพิ่งถามเมื่อครู่นี้ เขาจึงตอบไปว่า "คำถามอาการปวดท้องประจำเดือนของผู้หญิงที่แกเพิ่งถามมา างที่ดีควรพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูว่ามีปัญหาอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ แต่โดยทั่วไปความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องปกติ อาจดีขึ้นหลังจากที่มีลูก"
เมื่อฟังคำแนะนำของเวินจิ่ง จี้หลิงชวนตอบรับเพียงคำว่าอืม จากนั้นพวกเขาก็ถามไถ่เรื่องราวของกันและกันและวางสายไป
ทันทีที่วางสาย จี้หลิงชวนถือปากกาลายเซ็นอยู่ในมือและควงเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เกิดอยากจะพบมู่ซีซี
ขณะที่คิด จี้หลิงชวนก็หยิบโทรศัพท์ของบริษัทและต่อสายไปยังห้องทำงานของฟางเซิ่ง
ในไม่ช้า สายก็เชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้ฟางเซิ่งกล่าวอะไร จี้หลิงชวนก็รีบพูดออกไปว่า "บอกให้มู่ซีซีนำกาแฟมาส่งที่ห้องทำงานของฉัน!"
ฟางเซิ่งได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบตอบรับด้วยความสุภาพ "รับทราบคุณชายจี้"
เป็นผลให้มู่ซีซีที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำและเพิ่งได้นั่งลง บนโต๊ะทำงานของเธอก็ถูกฟางเซิ่งเคาะโต๊ะ เมื่อมู่ซีซีเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้ยินฟางเซิ่งพูดว่า "คุณมู่ คุณชายจี้ให้คุณนำกาแฟไปให้เขาที่ห้องทำงานของเขา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...