จี้หลิงชวนมองมู่ซีซีที่กำลังหน้าแดง ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจจนแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวว่า "หลังเลิกงานรอที่ทางแยกนอกบริษัท! เรากลับด้วยกัน”
มู่ซีซีรู้ว่าปฏิเสธไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าแต่โดยดี “โอ้ เข้าใจแล้ว”
ทันทีที่คำพูดของมู่ซีซีแผ่วเบาลง ห้องที่เงียบสงบก็มีเสียงเคาะประตูดังก๊อกๆๆขึ้นมาอย่างกะทันหัน
มู่ซีซีตกใจเมื่อได้ยินเสียงจากทางด้านนอกประตูห้อง จากนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง"ท่านประธาน ผมเป็นผู้จัดการแผนกวางแผนมาที่นี่เพื่อส่งโครงการที่คุณต้องการ ... "
เมื่อมู่ซีซีได้ยินดังนั้น เธอก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาในทันที ท่าทางของเธอคือไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าเธออยู่ในห้องทำงานของจี้หลิงชวน
มือไม้ของมู่ซีซีสูญเสียการควบคุม เธอทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์ตอนนี้ มู่ซีซีเดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องรับรองของห้องทำงานของจี้หลิงชวนด้วยความตื่นตระหนก
จี้หลิงชวนที่อยู่ทางด้านข้างมองไปเห็นมู่ซีซีวิ่งเข้าไปซ่อนตัวด้วยท่าทางอย่างนั้นแล้ว เขาก็อดที่จะหัวเราะเยาะเธอไม่ได้
เขาไม่ได้พูดหรือทำการห้ามใดๆกับมู่ซีซี และปล่อยให้มู่ซีซีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องพักส่วนตัวของเขาอย่างอิสระ จากนั้นเขาจึงสำรวมอาการและพูดอย่างเย็นชากับคนที่อยู่นอกประตูห้องทำงานว่า "เข้ามาสิ!"
คนที่กำลังยืนรออยู่นอกประตูคือชายวัยกลางคน อายุราวๆสี่สิบปีเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนนั่นเอง เมื่อได้ยินน้ำเสียงของท่านประธานที่ดูเหมือนจะไม่ได้โกรธตัวเอง แต่ผู้จัดการฝ่ายวางแผนก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา จากนั้น เขาก็ผลักประตูห้องทำงานของท่านประธานและเดินเข้าไปในห้อง โดยก้มหน้าถือเอกสารด้วยความเคารพ
“ท่านประธาน นี่คือโครงการที่ท่านต้องการ...” ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกล่าวพร้อมกับส่งเอกสารในมือไปให้กับจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนหยิบแฟ้มและสแกนมันอย่างรวดเร็วด้วยสายตาที่แหลมคมของเขา เห็นได้ชัดว่ายิ่งจี้หลิงชวนสแกนไปถึงด้านหลังของเอกสารมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดูไม่สบอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น
หลังจากที่จี้หลิงชวนอ่านเอกสารจนจบ ใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขาก็ดูเย็นชาและน่ากลัวขึ้น เขาโยนเอกสารลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น
สายตาอันแหลมคมจ้องเขม็งไปที่ผู้จัดการฝ่ายวางแผนที่อยู่ต่อหน้าเขาอย่างเย็นชา บรรยากาศในห้องก็เย็นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหงื่อที่หน้าผากของผู้จัดการฝ่ายวางแผนยิ่งไหลออกมามากกว่าเดิมเสียอีก
“นี่เป็นแผนดำเนินการที่ฝ่ายวางแผนของคุณจะจัดการให้ผมจริงๆอย่างนั้นเหรอ?” จี้หลิงชวนโกรธและชักสีหน้าเย็นชาในทันที รัศมีของราชาแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
ผู้จัดการฝ่ายวางแผนไม่สนใจเช็ดแม้แต่เหงื่อที่ไหลออกมา เขารู้ดีอยู่แล้วว่าประธานของเขากำลังโกรธมากแล้ว เขาตอบเสียงสั่นๆกลับไปในทันทีว่า "ท่านประธาน...ผม ผมจะเอากลับไปแก้มาให้ใหม่.. . "
จี้หลิงชวนเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานเป็นอย่างมาก ทันทีที่ได้ฟังคำพูดของผู้จัดการฝ่ายวางแผน จี้หลิงชวนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปตบที่โต๊ะ "ให้เวลาคุณหนึ่งวัน และผมต้องได้แผนโครงการที่สมบูรณ์แบบ! ถ้าเรื่องนี้คุณยังทำไม่ได้ล่ะก็ ผมต้องขอคิดดูอย่างจริงจัง ว่าคุณมีความสามารถที่จะเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนต่อไปได้หรือไม่!”
จี้หลิงชวนไม่ได้ต่อว่าเขา แต่ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลับมีเหงื่อออกมาเต็มไปหมด
โดยเฉพาะในประโยคสุดท้าย ความหมายของจี้หลิงชวนนั้นมันชัดเจนมาก ถ้าหากเขาทำข้อเสนอโครงการออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจของจี้หลิงชวน กลัวว่าตำแหน่งของเขาในฐานะผู้จัดการฝ่ายวางแผนจะหายวาบไปกับตาแน่!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ผู้จัดการฝ่ายวางแผนก็ถึงกับเหงื่อตก เขารับเสนอโครงการกลับมาด้วยท่าทางที่สั่นเทา และรีบพูดกับจี้หลิงชวนว่า “ได้ครับท่านประธาน ผมเข้าใจแล้ว หลังจากหนึ่งวันผ่านไป ผมจะต้องเสนอแผนโครงการที่น่าพอใจแก่ท่านได้อย่างแน่นอน !"
หลังจากพูดจบ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อในห้องนั้นนานๆ ดังนั้นเขาจึงขอตัวด้วยความเคารพและออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...