รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ นิยาย บท 152

จะว่าไปแล้วมู่ซีซีก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปเอาความกล้ามาจากไหน เธอผลักประตูห้องทำงานที่หนักอึ้งแล้วเดินออกไป โดยไม่รอให้จี้หลิงชวนตอบกลับ

เมื่อเห็นมู่ซีซีเดินออกไปเหมือนกระต่าย จี้หลิงชวนก็เม้มริมฝีปากและเผยให้เห็นรอยยิ้ม จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์ของฟางเซิ่ง และสั่งให้ฟางเซิ่งนำอาหารกลางวันที่เป็นของโปรดของมู่ซีซีมาเพิ่มสักสองสามอย่าง

หลังจากที่สั่งเสร็จแล้ว จี้หลิงชวนก็หยุดชะงัก แล้วนึกถึงเรื่องที่เวินจิ่งพูดกับเขาเมื่อกี้ เวินจิ่งแนะนำให้เขาพามู่ซีซีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ในหัวของจี้หลิงชวนยังจำได้ว่าทุกครั้งที่มู่ซีซีมีประจำเดือน สีหน้าของเธอจะซีดขาวและขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถยืดเวลาออกไปได้อีก เดือนหน้าเขาไม่อยากเห็นมู่ซีซีต้องเจ็บปวดมากอย่างนั้นอีก

จี้หลิงชวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาศาสตราจารย์ฟู่ ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวชที่มีชื่อเสียงในเมืองหรง ซึ่งอายุหกสิบกว่าแล้ว

ศาสตราจารย์ฟู่เป็นที่รู้จักกันดีด้านนรีเวชในประเทศจีน จี้หลิงชวนรู้จักได้เพราะว่าศาสตราจารย์ฟู่กับนายหญิงจี้เป็นเพื่อนสนิทกัน และพวกเขาก็สนิทสนมกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ

ทั้งสองครอบครัวคบกันมาหลายชั่วคน ในตอนที่จี้หลิงชวนเคลอดศาสตราจารย์ฟู่ก็เป็นคนทำคลอดด้วยตัวเอง

โทรศัพท์เชื่อมต่อได้ภายในไม่กี่นาที เสียงที่ใจดีของศาสตราจารย์ฟู่ก็ดังขึ้น เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“หลิงชวนเหรอ!ทำไมวันนี้หลิงชวนของเราถึงโทรหาหญิงชราอย่างฉันได้”

จี้หลิงชวนเม้มริมฝีปากและยิ้ม:คุณย่าฟู่ ช่วงนี้สบายดีไหมครับ?”

“สบายดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง!”

จี้หลิงชวนถามอย่างใส่ใจสองสามคำ ก่อนที่จะเข้าสู่หัวข้อหลัก:“คุณย่าฟู่ เมื่อไหร่คุณย่าจะลงตรวจที่โรงพยาบาลครับ?ผมอยากพาคนไปนัดตรวจกับคุณย่าที่นั่นครับ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ศาสตราจารย์ฟู่ก็ยิ้มและตอบกลับในทันที:“ไม่จำเป็นต้องนัดเลย เช้าวันอังคารเธอพาคนไปโรงพยาบาลก็ได้”

ปกติแล้วคนที่มาหาเธอล้วนแต่เป็นผู้หญิง ศาสตราจารย์ฟู่ยังไม่เข้าใจอะไรอีก แต่ก็ยังถามว่า:“หลิงชวน เธอจะพาแฟนมาเหรอ?”

จี้หลิงชวนไม่ได้ปิดบัง และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า:“เป็นแฟนครับ คุณย่าฟู่”

หลังจากยอมรับแล้ว เขาก็หยุดชะงักและพูดเสริมว่า:“แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ยังไม่มั่นคง ดังนั้นผมเลยยังไม่ได้บอกคุณย่าครับ รบกวนคุณย่าฟู่ช่วยเก็บเป็นความลับให้ผมด้วยนะครับ”

ศาสตราจารย์ฟู่ยิ้มและพูดว่า:“โอเค ๆ รู้แล้ว และจะไม่บอกคุณย่าของเธอ”

หลังจากจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว จี้หลิงชวนก็รีบกลับมามีสมาธิกับงานในทันที

งานยุ่งมากจนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมาถึงมื้อกลางวันในชั่วพริบตา

ในห้องทำงานของผู้ช่วยประธานบริษัท มู่ซีซีได้ยินเสียงระฆังพักกลางวันดังขึ้น และกำลังจะออกไปทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของพนักงาน ทันทีที่เธอเดินออกจากห้องทำงาน เธอก็บังเอิญเจอกับฟางเซิ่งที่กำลังถืออาหารจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเห็นมู่ซีซี ฟางเซิ่งก็รีบยัดอาหารเข้าไปในอ้อมแขนของมู่ซีซี:“คุณมู่ รบกวนคุณช่วยเอาของพวกนี้ไปส่งที่ห้องห้องทำงานของท่านประธานหน่อยครับ”

หลังจากที่พูดจบ ฟางเซิ่งก็เดินจากไป โดยไม่รอให้มู่ซีซีปฏิเสธ

มู่ซีซีก้มลงมองอาหารที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง เธอทำปากขมุบขมิบและพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ทำได้เพียงยอมรับชะตากรรม และถืออาหารเดินไปที่ห้องทำงานของจี้หลิงชวน

“ก๊อกก๊อกก๊อก” มู่ซีซียกมือขึ้นเคาะประตู:“คุณชายจี้ ฉันเอง ฉันมาส่งอาหาร……”

เมื่อจี้หลิงชวนที่อยู่ในห้องทำงานได้ยินเสียงของมู่ซีซี เขาก็อดไม่ได้ที่จะเม้มฝีปาก สิ่งที่มู่ซีซีพูดเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าเธอกำลังมาส่งอาหาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ