และเวลาเพียงไม่นาน ทุกคนในสำนักงานของแผนกการลงทุนต่างก็รู้ "ธาตุแท้" ของมู่ซีซีแล้ว และจากอัตราการแพร่กระจายนี้คาดว่าอีกไม่นานทั้งบริษัทจี้คงต้องรู้ข่าวลือของมู่ซีซีอย่างแน่นอน!
มู่ซีซีพยายามอดทนเมื่อเธอถูกจ้องมองด้วยสายตาแปลก ๆ เธอเอาเอกสารที่ถ่ายเสร็จแล้วยื่นให้ลินดาและพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า: "ลินดา นี่คือเอกสารที่ถ่ายเสร็จแล้ว ถ่ายมาอย่างละสามชุดตามที่เธอบอก"
จู่ ๆ ลินดาก็เอื้อมมือออกไปหยิบเอกสารที่มู่ซีซียื่นมาให้ เธอทำน้ำเสียงฮึ่มใส่มู่ซีซี จากนั้นมองมู่ซีซีอย่างดูถูกดูแคลนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ฉันรู้แล้ว!”
มู่ซีซีบีบมือของตัวเองแน่น จากนั้นก็นั่งลงที่โต๊ะของตัวเองและนั่งเคลียร์งานต่อ
ตลอดทั้งวัน มู่ซีซีพยายามอดทนต่อสายตาที่ดูถูกดูแคลนของคนอื่นนั้นไปให้ได้
มันไม่ง่ายเลยที่จะอดทนผ่านเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดนั้นไปจนถึงพักกลางวัน มู่ซีซีรีบไปที่โรงอาหารทันที เมื่อกำลังยืนเข้าคิวเพื่อซื้ออาหารกลางวันอยู่นั้น
มีผู้หญิงสองคนต่อแถวอยู่ด้านหน้ามู่ซีซี พวกเธอไม่ได้หันหลังมองว่าคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังพวกเธอนั้นคือมู่ซีซี พวกเธอยังคงพูดคุยซุบซิบนินทากันว่า: “นี่ เธอได้ยินข่าวลือนั้นไหม ในแผนกการลงทุนพนักงานฝึกงานคนใหม่คนนั้นเป็นผู้หญิงร่านมากเลยล่ะ ได้ข่าวมาว่าชีวิตส่วนตัวของเธอมั่วโลกีย์มาก! ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แถมยังหิวกระหายนัดผู้ชายไม่ซ้ำหน้า! ร่านจนมีรอยจูบอยู่ที่คอด้วยนะ มีคนเห็นเข้าพอดีโดยไม่ได้ตั้งใจ เธออับอายจนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยล่ะ "
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงแบบนี้อยู่อีกเหรอ จะหิวโหยผู้ชายอะไรขนาดนั้น! นี่เธอ ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อว่าอะไรอ่ะ!”
“ดูเหมือนว่าชื่อมู่ซีซีนะ!”
ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหน้ากำลังคุยเรื่องซุบซิบนินทาอย่างสนุกปาก แต่น้ำเสียงนินทานั้นมู่ซีซีได้ยินเต็มสองรูหูอย่างชัดเจน
ใบหน้าของมู่ซีซีซีดเผือดด้วยความโกรธ และเธอไม่สามารถหยุดตัวสั่นด้วยความโกรธได้!
ด้วยความโกรธมู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป แล้วคว้าแขนของเพื่อนร่วมงานหญิงที่กำลังพูดนินทาเธออยู่ข้างหน้านั้นทันที
เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นกำลังพูดคุยนินทากันอย่างมีความสุข และทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจเมื่อมีคนมาจับมือเธอ เธอหันศีรษะไปดูแล้วเห็นว่าเป็นมู่ซีซีเธอก็ผงะไปทันที ด้วยความตกใจเธอรีบสะบัดมือของมู่ซีซีออกอย่างแรง
มู่ซีซีจ้องไปที่เพื่อนร่วมงานหญิงที่สีหน้าประหลาดใจและถามโดยตรงว่า: "สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้คุณได้ยินมาจากไหน?"
เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นรู้สึกตกใจกับแรงกดของมู่ซีซี และเธอก็พูดโดยไม่รู้ตัวว่า: "จะใครอีกล่ะ……ก็เป็นลินดาจากแผนกการลงทุนแผนกของคุณคนนั้นไงล่ะ……"
หลังจากพูดออกไป เพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นก็ได้สติกลับคืนมา เด็กฝึกงานในวัยยี่สิบต้น ๆกลับทำให้เธอตกใจกลัวขนาดนี้ เธอขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกกับมู่ซีซีว่า: "เธอจ้องฉันแบบนี้ทำไม!นี่กล้าทำแต่ยังไม่กล้ายอมรับอีกนะ?"
มู่ซีซีจ้องไปที่เพื่อนร่วมงานหญิงด้วยดวงตาที่เยือกเย็นและพูดอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: "คุณรู้ไหมว่าการนินทาคนอื่นและการเผยแพร่ข่าวลือทำให้เสียหายสามารถโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้?! หากคุณไม่แคร์แล้วล่ะก็ ถ้าเช่นนั้นคุณก็สามารถแพร่ข่าวลือต่อไปได้เลยนะคะ !"
ทันทีที่พูดจบ มู่ซีซีก็รู้สึกทานอะไรไม่ลง เธอหันกลับไปมองรอบ ๆ โรงอาหารของพนักงานแต่มองไม่เห็นลินดา มู่ซีซีเดินออกจากโรงอาหารแล้วขึ้นลิฟต์กลับไปที่แผนกการลงทุนทันที
ทันทีที่เธอออกจากลิฟต์ มู่ซีซีก็เห็นลินดากับชูเหยาและเพื่อนร่วมงานหญิงสองสามคนนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับประทานประอาหารที่สั่งจากเดลิเวอรีอยู่ในสำนักงานของแผนกการลงทุน
บริษัทจี้ซือนั้นดูแลพนักงานได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดีเสมอมา อาหารในโรงอาหารของพนักงานนั้นอร่อยมาก ดีกว่าร้านอาหารข้างนอกบางร้านด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...