จี้หลิงชวนขมวดคิ้วด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมพร้อมกับมองไปที่หน้าผากของมู่ซีซีที่ถูกโขกจนมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ
ผิวหนังของผู้หญิงนี่มันเป็นยังไงกันแน่นะ ชนกับอะไรเข้านิดๆหน่อยๆก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว!
“หน้าผากมีแผลหรือเปล่า?”จี้หลิงชวนถามด้วยน้ำเสียงแข็งและเย็นชา
“ฉันไม่เป็นไร……”
เมื่อได้ยินที่มู่ซีซีพูดว่าไม่เป็นไร จี้หลิงชวนก็คลายคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆมองดูชุดเครื่องแบบทำงานที่มู่ซีซีสวมใส่อยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทันทีที่เห็นชุดทำงานของมู่ซีซี ทันใดนั้นในสมองของจี้หลิงชวนก็ไม่สามารถควบคุมความคิดเรื่องผู้หญิงของตัวเองได้ในชั่วขณะ เกือบจะโดนชายอีกคนในร่างของเขาครอบงำ จี้หลิงชวนขมวดคิ้วและจ้องไปที่มู่ซีซี “ชุดทำงานแบบนี้เห็นแล้วบาดตาไปเปลี่ยนออกซะ!ฉันจะออกไปรอที่รถด้านนอก !สิบนาทีหลังจากนี้ฉันจะต้องเห็นเธอ!”
เมื่อพูดจบจี้หลิงชวนก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เวลาเพียงแค่สิบนาที มู่ซีซีไม่ได้มีเวลามาสนใจหรอกว่าจี้หลิงชวนเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก เธอรีบหอบเอาเสื้อคลุมสูทตัวนอกไว้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
มู่ซีซีเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็วและรีบเดินผ่านห้องอาหารออกไปทางด้านนอก
เวลายังไม่ถึงสิบนาที มู่ซีซีขึ้นไปนั่งบนรถของจี้หลิงชวนได้ทันเวลา
เมื่อเธอเห็นว่ามาทันเวลา มู่ซีซีถอนหายใจด้วยความโล่ง จากนั้นก็เอาเสื้อคลุมสูทตัวนอกส่งให้กับจี้หลิงชวน“คุณชายจี้ เมื่อกี้ขอบคุณนะคะ……”
น้ำเสียงที่แสดงออกถึงการขอบคุณอย่างจริงใจ สถานการณ์เมื่อกี้ หากว่าจี้หลิงชวนปรากฏตัวไม่ทันล่ะก็ กลัวว่าตัวเองคงจะแย่
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มู่ซีซีรู้สึกกลัวและสั่นไปทั้งตัว
จี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งคนขับ ไม่เพียงแต่ไม่ยื่นมือออกไปรับเสื้อ แต่ยังพลิกตัวกลับมาทับเรือนร่างของมู่ซีซีไว้กับเบาะที่นั่งข้างคนขับ
สายตาอันเย็นชาของเขาจ้องดวงตาอันสวยงามคู่นั้นของมู่ซีซีราวกับว่าจะกลืนกิน
ดูท่าแล้วครั้งนี้มู่ซีซีคงจะช็อกมากจริงๆ เวลาผ่านไปจนกระทั่งตอนนี้รอบๆดวงตาของเธอยังคงแดงอยู่เลย
ทันทีที่จี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีที่อยู่ในอ้อมอกของเขาเป็นอย่างนี้แล้ว เขาก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมาทันที จากเดิมที่เป็นคนพูดเสียงแข็งและเย็นชา ตอนนี้กลับพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“มู่ซีซี ตอนเช้าที่เธอพูดว่ามีเรื่องสำคัญต้องไปทำคือการมาทำงานที่ร้านอาหาร?!”จี้หลิงชวนพูดยังไม่ทันจบ เขาหยุดพูดกะทันหันพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นก็พูดขึ้นต่อว่า“มู่ซีซี เธอกล้าโกหกฉัน!”
เมื่อมู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนกำลังโมโห เธอจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาเพื่ออธิบาย“ฉัน……ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกคุณนะ……ฉัน ฉันไม่มีทางเลือก……”
“ยังไงล่ะ?บริษัทของตระกูลมู่ที่มีสินทรัพย์กว่าพันล้านหยวน เพียงแค่เธอคนเดียวก็จะเลี้ยงดูไม่ได้ ยังต้องให้เธอออกมาทำงานเสริมอีกอย่างนั้นเหรอ?!”คำพูดของจี้หลิงชวนแสดงถึงความไม่พอใจต่อคนตระกูลมู่!
เมื่อจี้หลิงชวนพูดถึงคนตระกูลมู่ มู่ซีซีก็เก็บอาการน้อยใจไม่อยู่ ดวงตาทั้งสองข้างของเธอค่อยๆมีน้ำตาซึมไหลออกมา
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีแบบนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่า คุณพ่อและคุณแม่ของตระกูลมู่จะปฏิบัติกับลูกทั้งสองได้ชั่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ
หากมองดูคนเป็นพี่อย่างมู่อวี๋เฟยที่สวมเสื้อผ้าล้วนเป็นยี่ห้อแบรนด์เนม แต่กับเสื้อผ้าของมู่ซีซีที่สวมใส่ดูธรรมดาจะเรียกชื่อยี่ห้อก็ยังเรียกไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...