เดิมทีมู่ซีซีคิดว่าเมื่อถึงประตูโรงแรมงานแต่งแล้ว คุณชายจี้ผู้ลึกลับคนนั้นก็อาจจะปรากฎตัวขึ้น
แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังไม่ปรากฎตัวออกมา มู่ซีซีเห็นมู่อวี๋เฟยมีสีหน้ามัวหมอง เธอจับมือพ่อและเดินเข้าไปภายในโรงแรม
บนพรมแดงของงานแต่งงาน คุณชายจี้ผู้ลึกลับยังไม่ปรากฏตัว มีเพียงผู้ช่วยคนก่อนหน้านี้ที่ไปรับเธอ ตอนนี้เขาออกมาประกาศต่อหน้าสาธารณชน "ขออภัยด้วย เนื่องจากที่บริษัทเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้นคุณชายจี้จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมงานแต่งได้ทันเวลา แต่คุณชายจี้กล่าวไว้ว่างานแต่งสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ"
เป็นคำกล่าวขอโทษที่ไม่จริงใจ จะยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าเรื่องของการแต่งงาน?
มันเป็นเพียงข้ออ้าง...
แต่สถานะก็อยู่ที่นี่แล้ว มู่อวี๋เฟยและตระกูลมู่ไม่สามารถเลือกทางเลือกอื่นใดกับคุณชายจี้ได้เลย พวกเขาทำได้เพียงแค่กัดฟันทนต่อไป
มู่อวี๋เฟยอดทนแล้วอดทนเล่า แต่เธอก็ยังเก็บอารมณ์ไว้ได้ไม่หมด เธอเดินผ่านพรมแดงด้วยสีหน้าหม่นหมองพร้อมกับควงแขนพ่อและแม่ของเธอ เดิมทีในเวลานี้มู่อวี๋เฟยจะต้องเดินพรมแดงและควงแขนกับเจ้าบ่าวของเธอ
เมื่อเห็นใบหน้าที่มัวหมองราวกับถ่านดำของมู่อวี๋เฟย มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก เหอะ ที่แท้คนเลวทรามก็ย่อมมีคนที่เลวทรามกว่า แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเรื่อยๆในเรื่องของคุณชายจี้คนนี้
หลังจากเดินบนพรมแดงแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องกล่าวสาบาน แต่เจ้าบ่าวยังไม่ปรากฏตัว เพราะเกรงว่าเวลามงคลจะล่าช้า พิธีกรจึงปล่อยให้มู่อวี๋เฟยทำพิธีแต่งงานให้เสร็จสิ้นเพียงลำพัง
ฉากการแต่งงานทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกเห็นได้เห็นภาพการแต่งงานที่มีเจ้าสาวจัดพิธีเสร็จสิ้นเพียงคนเดียว
มู่ซีซีเห็นแขกบางส่วนกลั้นขำจนใบหน้าแดงก่ำ
เกรงว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป มู่อวี๋เฟยจะกลายเป็นเรื่องเล่าสุดตลกในเมืองหรง
พิธีการแต่งงานเสร็จสิ้น แขกต่างพากันไปนั่งที่โต๊ะและเริ่มรับประทานอาหาร
มู่ซีซีนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อและแม่ของเธอ มู่ซีซีทานอาหารเช้ามาเพียงเล็กน้อย ตอนนี้เธอรู้สึกหิว เธอจับตะเกียบและเตรียมคีบอาหาร ในขณะนั้นเธอก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนว่า "คุณชายจี้มาแล้ว!"
เสียงผู้คนที่กระซิบกระซาบเงียบไปพริบตา มู่ซีซีที่กำลังจับตะเกียบนิ่งงันไปชั่วขณะและสายตาของเธอก็จ้องมองตามผู้คนโดยที่เธอไม่รู้สึกตัว
ทันใดนั้นใบหน้าที่เธอค่อนข้างคุ้นเคยก็ฉายผ่านเข้ามาในดวงตาของเธอ สติของมู่ซีซีหลุดหายไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นเร็วและรัวจนหูทั้งสองของเธอได้ยิน
มู่ซีซีจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคยและเธอก็ตกตะลึง หลังจากที่สติของเธอค่อยๆฟื้นคืน มู่ซีซีก็ได้ปลอบตัวเองอยู่ภายในใจ เธอปลอบตัวเองว่าเธออาจจะคิดมากไปเอง
ในวินาทีถัดมา มู่ซีซีเห็นว่ามู่อวี๋เฟยเดินไปหาชายที่เพิ่งปรากฏตัวเมื่อครู่นี้ด้วยรอยยิ้มความปิติยินดีจากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปควงแขนของชายคนนั้น
คำตอบนั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก...
มู่ซีซีตกตะลึง จากนั้นสายตาที่เฉียบแหลมก็พุ่งตรงมาทางเธอ
เมื่อทั้งสองสบประสานสายตากัน ทันใดนั้นหัวใจของมู่ซีซีที่กำลังเต้นรัวเหมือนกับถูกเคลื่อนย้ายมาบริเวณลำคอ เธอจ้องมองไปหน้าที่คุ้นเคยอย่างนิ่งงัน
เขาคือคุณชายจี้..... ชายที่อยู่กับเธอตลอดทั้งคืนในสัปดาห์ก่อนก็คือคุณชายจี้ จี้หลิงชวน!
ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ก็คือเธอนอนกับพี่เขยของตัวเอง!!!
เสียงกระแทกดังขึ้นเบาๆ ในความตื่นตระหนกมู่ซีซีบังเอิญชนเข้ากับแก้วไวน์แดงที่เธอได้วางเอาไว้ เป็นผลให้ไวน์แดงไหลลงมาถึงขอบโต๊ะและหยดลงบนเดรสของเธอ
มู่ซีซีกำมือแน่นด้วยความตึงเครียดจากนั้นเธอรีบหลบสายตาในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...