สรุปเนื้อหา บทที่ 67 ผู้หญิงของฉัน มีแค่ฉันเท่านั้นที่รังแกได้ – รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ โดย อี้ หมิง
บท บทที่ 67 ผู้หญิงของฉัน มีแค่ฉันเท่านั้นที่รังแกได้ ของ รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อี้ หมิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ทันทีที่แม่มู่พูดเช่นนี้กับมู่ซีซี แววตาแห่งความหวังในขณะนั้นก็พลันหายไปในทันที ส่วนลึกในแววตาของเธอมีความโศกเศร้าและความอัปยศปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ความโชคดีของมู่ซีซีก็คือยังโชคดีที่ข้างกายของเธอมีผู้คนอยู่ไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่ใครสังเกตเห็นสถานการณ์ของมู่ซีซีในตอนนี้ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องอับอายมากไปกว่านี้
แต่เมื่อเธอถูกแม่ของเธอกระทำแบบนี้ ภายในใจของมู่ซีซีรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดแทง เธอรีบหลับตาลงเพื่อปกปิดอารมณ์ของเธอ มู่ซีซีกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พ่อ แม่ ขอโทษ...หนูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...หนูผิดเอง เป็นหนูเองที่คิดอะไรไม่ถี่ถ้วน..."
เมื่อแม่มู่ได้ยินเช่นนั้น เธอก็คิดว่ามู่ซีซียังรู้และคิดได้ในความผิดพลาดของตนเอง เธอจึงถอนหายใจจากนั้นเธอก็โยนนาฬิกาที่มู่ซีซีมอบให้ลงไปในถังขยะด้านข้าง พ่อมู่เมื่อเห็นการกระทำของแม่มู่ เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้และรู้สึกว่าการกระทำของแม่มู่นั้นเกินไป เขาจึงพูดว่า "พอได้แล้ว ลูกเอาของขวัญมาให้และเป็นน้ำใจที่ลูกมีให้ คุณจะโยนทิ้งไปทำไม?"
แม่มู่มองพ่อมู่ เธอพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า "ไม่ทิ้งแล้วจะเอาไปทำอะไร เอาไปคุณก็ไม่ใส่ โอ้ ใช่แล้ว เมื่อครู่มู่อวี๋เฟยก็นำของขวัญมาให้คุณ"
ขณะที่พูด แม่มู่ก็นำกล่องของขวัญสีดำสุดหรูออกมาและแกะมันในทันที
ทันทีที่กล่องของขวัญถูกเปิดออก บนใบหน้าของแม่มู่ก็เผยรอยยิ้มปลื้มปิติ
เธอหยิบของขวัญในกล่องของขวัญอย่างภาคภูมิใจ พ่อมู่เลิกคิ้วขึ้นและกล่าวอย่างภูมิใจ "ช่างบังเอิญ เป็นนาฬิกาเหมือนกันด้วย แต่นี่เป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของ Patek รู้สึกว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด ราคาไม่ต่ำกว่าห้าหรือหกแสนนี่แหละ"
เมื่อพูดแบบนี้ แม่มู่ก็จ้องมองมู่ซีซีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่รังเกียจและเหยียดหยาม
"ตาเฒ่า มู่อวี๋เฟยช่างใส่ใจคุณเสียจริง" แม่มู่พูดกับพ่อมู่
พ่อมู่ชอบนาฬิกาเรือนนี้มาก เขาหยิบนาฬิกาเรือนนั้นออกมาจากกล่องและสวมใส่บนข้อมือเขาในทันที เรื่องราวนาฬิกาของมู่ซีซีที่ถูกโยนลงในถังขยะได้ถูกลืมไปจนหมดสิ้น เขาพยักหน้าซ้ำๆ "ใช่แล้ว มู่อวี๋เฟยมีความกตัญญูมาตั้งแต่เล็ก"
ความจริงแล้ว หากว่าเป็นเงินของมู่อวี๋เฟยจริงๆเองก็คงจะไม่พอซื้อนาฬิกาเรือนนี้ แต่หลังจากที่มู่อวี๋เฟยแต่งงานกับจี้หลิงชวน ตอนที่อยู่โรงพยาบาลนายหญิงจี้ก็ได้มอบบัตรเครดิตให้มู่อวี๋เฟยและบอกรหัสผ่านสำหรับการใช้จ่ายบัตร ภายในบัตรมีเงินอยู่ประมาณห้าถึงหกล้านหยวน อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ของเธอต่อหน้านายหญิงจี้ เธอจึงไม่ค่อยกล้าที่จะใช้บัตร ครั้งนี้เนื้อในโอกาสวันเกิดพ่อมู่ เพื่อที่จะสร้างภาพลักษณ์ เธอจึงใช้เงินในบัตรนี้ซื้อนาฬิกาเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่พ่อของเธอ
มู่ซีซีถูกละเลยจากรอบข้าง เธอก้มหน้าลงด้วยความอับอายและเศร้าโศก เธอรีบพูดกับพ่อมู่และแม่มู่อย่างรวดเร็ว "พ่อ แม่ หนูไปเข้าห้องน้ำ...."
กระทั่งตอนที่มู่ซีซีหันหลังและเดินจากไป พ่อมู่และแม่มู่ทั้งสองคนนั้นกลับไม่ได้สังเกตเห็นการจากไปของลูกสาวเลยแม้แต่น้อย
มู่ซีซีก้มศีรษะลงและวิ่งไปยังห้องน้ำด้านข้างของโรงแรม
เธอเห็นภายในห้องน้ำไม่มีใคร มู่ซีซีเงยหน้าและมองดูตัวเองในกระจก มู่ซีซีรู้สึกอยากร้องไห้ ดวงตาทีเป็นภาพสะท้อนอยู่ในกระจกของเธอแดงก่ำ หากไม่ใช่เพราะว่าเธอมักจะอดทนอดกลั้นอยู่เสมอ เกรงว่าในเวลานี้น้ำตาของเธออาจจะรินไหลออกมาแล้ว
เธอไม่อยากให้ใครเห็นเธอในสภาพนี้ มู่ซีซีรีบเปิดก๊อกน้ำและล้างใบหน้าเธอด้วยน้ำที่เย็นเฉียบ หลังจากที่เธอล้างหน้าแล้ว ดวงตาที่แดงก่ำของเธอก็ค่อยๆจางลง เธอปิดก๊อกน้ำและเตรียมที่จะออกไปด้านนอก แต่เสียงเปิดประตูห้องน้ำกลับดังขึ้นโดยคนที่อยู่ด้านนอก
มู่ซีซีหันหน้าไปมองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็เห็นร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยก้าวเข้ามา
เมื่อมองไปยังท่าทางของมู่ซีซี ริมฝีปากของเขาก็เผยรอยยิ้ม ทันใดนั้นเขาก็หยิบนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วยื่นให้มู่ซีซี
มู่ซีซีมองดูนาฬิกาที่วางอยู่บนฝ่ามือของจี้หลิงชวน แววตาของเธอฉายให้เห็นถึงความประหลาดใจ นี่คือนาฬิกาที่เธอให้เป็นของขวัญวันเกิดพ่อ ไม่ใช่ว่าแม่โยนมันลงไปในถังขยะแล้วหรอกหรือ ทำไมตอนนี้นาฬิกาเรือนนี้ถึงอยู่กับจี้หลิงชวนล่ะ?
นาฬิกาเรือนนี้มู่ซีซีต้องเก็บออมเงินเป็นเวลาประมาณสองปีถึงจะซื้อได้ ตอนนี้เมื่อเธอเห็นนาฬิกา เธอก็เอื้อมมือไปคว้ามันอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าจี้หลิงชวนได้เตรียมแผนการเอาไว้ เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีกำลังจะเอื้อมมือไปคว้า จี้หลิงชวนก็ขยับมือของเขาออกไปทันที
มู่ซีซีคว้าได้เพียงความว่างเปล่า เธอจ้องมองจี้หลิงชวนอย่างอดไม่ได้ "คุณชายจี้...คุณจะคืนนาฬิกาให้ฉันหรือไม่? นาฬิกาเรือนนี้ฉันซื้อมา..."
จี้หลิงชวนเลิกคิ้วขึ้นและจ้องมองมู่ซีซีอย่างไม่รู้ร้อน "ตอนนี้มันเป็นของฉันแล้ว"
และจี้หลิงชวนก็ได้ให้ฟางเซิ่งตรวจสอบดูแล้ว ตั้งแต่มู่ซีซีเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็ไม่เคยขอเงินและได้รับเงินจากตระกูลมู่เลย เรื่องซื้อนาฬิกาเรือนนี้ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากก็รู้ได้ทันทีว่ามู่ซีซีต้องประหยัดและอดออมเป็นเวลานานกว่าที่จะได้มันมา
เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกเมื่อครู่นี้ เนื่องจากสายตาของจี้หลิงชวนนั้นคอยจ้องมองมู่ซีซีอยู่ ในสายตาของเขาจึงเห็นเรื่องราวทุกอย่าง หากไม่ใช่เพราะฟางเซิ่งลากเขาออกมา ในตอนนั้นจี้หลิงชวนจะต้องตรงเข้าไปปกป้องมู่ซีซีอย่างแน่นอน ผู้หญิงของเขา หากจะถูกใครรังแก ก็ต้องเป็นเขาเท่านั้นที่รังแกเธอได้
ต่อให้เป็นพ่อและแม่ของมู่ซีซีก็ไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้นพ่อและแม่ของมู่ซีซีไม่คู่ควรกับคำว่าพ่อและแม่เสียด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...