มู่ซีซีมองเห็นเงานั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเธอค่อยๆหรี่ลงด้วยความตื่นตระหนก และแก้มสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะก็เหมือนโดนย้อมด้วยสีแดงในทันใด
และชายร่างสูงที่มีใบหน้าอันหล่อเหล่าก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของมู่ซีซี เสียงที่นุ่มนวลและไพเราะดังขึ้นมาอย่างช้าๆ "ซีซี พวกเธอกำลังจะไปที่โรงอาหารกันอยู่หรือเปล่า"
เขาคนนี้คือฉู่จือหยวน ผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเงิน และอยู่สาขาการเงินเช่นเดียวกับมู่ซีซีเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัย A เป็นที่รู้จักในนามเดือนของสาขาการเงิน อีกทั้งยังไม่มีแฟน และเป็นดั่งเทพบุตรของสาวๆจำนวนนับไม่ถ้วนในมหาวิทยาลัย Aแห่งนี้
ทันทีที่ลั่วเสี่ยวชิงเห็นฉู่จือหยวนปรากฏตัวขึ้น มู่ซีซีก็ดูลนลานและทำตัวแปลกๆ เหมือนกับคนพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีเงียบไป ลั่วเสี่ยวชิงก็รีบตอบกลับแทนมู่ซีซีว่า "ใช่ค่ะ รุ่นพี่ฉู่ พวกเรากำลังจะไปที่โรงอาหาร รุ่นพี่ก็จะไปอย่างนั้นใช่ไหม? หากว่าไม่รังเกียจพวกเราไปด้วยกันไหมคะ ?"
ยิ่งมู่ซีซีได้ยินสิ่งที่ลั่วเสี่ยวชิงตอบกลับไปเธอยิ่งรู้สึกเขินอายมากขึ้น เธอรีบเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของลั่วเสี่ยวชิงเพื่อเป็นการบอกให้เธอหยุด
มู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงเป็นเพื่อนที่พูดคุยกันในทุกๆเรื่อง แม้ว่าปกติมู่ซีซีจะเป็นคนที่ค่อนข้างเย็นชา แต่ความดื้อรั้นของลั่วเสี่ยวชิงกลับทำให้มู่ซีซีเลือกเธอเป็นเพื่อนสนิท
วันแรกที่เปิดเทอม ทั้งสองนั่งโต๊ะเดียวกัน ตอนแรกก็ยังเฉยๆอยู่ จนกระทั่งตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ดังนั้น มู่ซีซีมีความลับอะไรแน่นอนว่าลั่วเสี่ยวชิงก็ต้องรู้อยู่แล้ว
ทุกคนก็คงเคยแอบชอบใครในช่วงที่เป็นวัยรุ่น และมู่ซีซีก็เหมือนกัน ฉู่จือหยวนชายผู้หล่อเหลา อ่อนโยน ร่าเริง มีความสามารถและเรียนดี ซึ่งเกือบจะพูดได้ว่าดีไปซะหมดทุกอย่าง
มู่ซีซีก็แอบตกหลุมรักเขาเช่นกัน
ในขณะที่มู่ซีซีกำลังคิดอย่างใจลอย น้ำเสียงที่ไพเราะและอ่อนโยนของฉู่จือหยวน ก็ดังเข้ามาในหูของเธออีกครั้ง "ใช่ พวกเราไปด้วยกันเถอะ"
หลังจากที่ได้ฟังฉู่จือหยวนตอบตกลง มู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ และขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้สบตาและพบกับรอยยิ้มของฉู่จือหยวน
คำพูดปฏิเสธจุกอยู่ที่ลำคอ แต่พูดออกมาได้อย่างยากลำบาก
สุดท้าย มู่ซีซีก็ทำได้แค่เพียงปล่อยให้ลั่วเสี่ยวชิงพารุ่นพี่ไปที่โรงอาหาร
ทั้งสามคนเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน ในระหว่างทาง มู่ซีซีและฉู่จือหยวน ดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของคนจำนวนไม่น้อย อีกทั้งมู่ซีซีและฉู่จือหยวน ต่างก็มีความสามารถ ดูดี และดูเหมาะสมกันมากๆ
ต่อหน้าฉู่จือหยวนมู่ซีซีทำได้เพียงแค่ก้มหน้าด้วยความอาย เธออายจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร โชคดีที่คำพูดของลั่วเสี่ยวชิงคอยกระตุ้นถามในเรื่องต่างๆทำให้บรรยากาศดูไม่ค่อยตึงเครียดมาก
เมื่อมาถึงโรงอาหาร ตอนนี้เป็นเวลาที่คนมาทานอาหารมากที่สุด ตู้ร้านอาหารแต่ละร้านล้วนแต่มีคนจำนวนมากยืนต่อแถวอยู่
ลั่วเสี่ยวชิงมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้คนทั้งสอง เธอพูดกับมู่ซีซีและฉู่จือหยวนในทันทีว่า "ฉันจะไปต่อแถวซื้ออาหารแล้ว"
เมื่อพูดจบลั่วเสี่ยวชิงก็รีบวิ่งออกไป
ตอนนี้มีเพียงแค่มู่ซีซีและฉู่จือหยวนที่ถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากัน บรรยากาศมันดูเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งสองคนยังคงเงียบสงบ มู่ซีซีรู้สึกอายจนทนไม่ไหวแล้ว เธอต้องทำอะไรสักอย่าง และในขณะนั้นฉู่จือหยวนก็ทำลายความเงียบสงบของพวกเขาทั้งสองโดยพูดขึ้นมาก่อนว่า "น้องมู่ วันนี้เธอดูสวยมาก"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉู่จือหยวนพูด มู่ซีซีก็เงยหน้าขึ้นมามองฉู่จือหยวนด้วยความประหลาดใจ เดิมทีก็หน้าแดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เธอเขินจนเอามือไปคว้ากระโปรงแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "ขอบคุณ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...