ในคืนที่มู่อวี๋เฟยแต่งงานกับจี้หลิงชวน คืนนั้นจี้หลิงชวนได้บอกกับเธออย่างชัดเจนว่า การแต่งงานของเธอกับเขานั้นเป็นเพียงสัญญาทางธุรกิจ
ตอนนี้จี้หลิงชวนบอกว่าสัญญาทางธุรกิจนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว มันหมายความว่าในตอนนี้จี้หลิงชวนไม่ได้ให้มู่อวี๋เฟยอยู่ในสถานะคุณหญิงจี้อีกต่อไปแล้ว!
มู่อวี๋เฟยกัดริมฝีปากแน่นอย่างเหลืออด ทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้? เขาทำแบบนี้กับเธอได้อย่างไร?
ไม่มีทาง เธอจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
เมื่อเธอคิดเช่นนั้น มู่อวี๋เฟยกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้นเล็กน้อย เธอพูดกับฟางเซิ่งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ผู้ช่วยฟาง งั้นคุณช่วยฉันบอกคุณชายจี้หน่อยได้ไหม ฉันมีเรื่องอยากจะพบเขาและอยากพูดคุยกับเขาจริงๆ หากว่าคุณชายจี้ไม่ยอมมาพบ งั้นฉันนำเรื่องระหว่างคุณชายจี้และมู่ซีซีไปบอกกับนายหญิงจี้"
ขณะที่พูด มู่อวี๋เฟยรู้สึกว่าพูดแค่นี้ยังไม่พอ เธอจึงเสริมประโยคอีกว่า "ผู้ช่วยฟาง ตอนนี้อาการป่วยของคุณย่าดีขึ้นมากแล้ว คุณว่าหากว่าคุณย่ารู้เรื่องนี้เข้าอาการป่วยเธอคุณย่าจะกลับมารุนแรงอีกไหม?"
มู่อวี๋เฟยในตอนนี้ไร้ซึ่งเหตุผลและสติ ในความคิดของเธอมีเพียงสิ่งเดียวคือเธอไม่อาจปล่อยจี้หลิงชวนไปได้ สำหรับเรื่องในอนาคต รอให้เธอกำจัดมู่ซีซีได้และปฏิบัติตัวให้ดีต่อหน้าจี้หลิงชวน แค่นี้เธอก็สามารถเริ่มต้นใหม่กับจี้หลิงชวนได้อย่างแน่นอน
มู่อวี๋เฟยสิ้นเสียงลง ทางด้านฟางเซิ่งเมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่น เขาคาดไม่ถึงว่ามู่อวี๋เฟยคนนี้จะมีจิตใจและกลอุบายเช่นนี้ ที่แท้เธอก็รู้เรื่องของคุณมู่ซีซีและคุณชายจี้แล้ว
นายหญิงจี้เป็นคนหัวโบราณคร่ำครึ หากว่านายหญิงจี้รู้เรื่องที่คุณชายจี้คบหากับน้องสะใภ้เธอ บางทีนายหญิงจี้อาจจะโกรธจนแทบเป็นลมไปเลยก็ว่าได้
ฟางเซิ่งขมวดคิ้วและไม่ตอบอะไร ทางด้านมู่อวี๋เฟยนั้นไม่ร้อนใจ เธอวางสายโทรศัพท์ เปิดอัลบั้มรูปภาพ เธอเลือกรูปภาพสามสี่รูปและส่งให้กับฟางเซิ่ง
ฟางเซิ่งมองรูปภาพที่เพิ่งถูกส่งมา เขาขมวดคิ้วแน่นในทันที เขาเห็นภาพเหล่านั้นเป็นภาพในช่วงงานเลี้ยงวันเกิด มู่ซีซีติดอยู่ในห้องรับรองและจี้หลิงชวนรีบวิ่งเข้าไปช่วยเธอจากนั้นทั้งสองก็กอดกัน
ยิ่งไปกว่านั้นแก้มของมู่ซีซีก็แดงระเรื่อ เสื้อผ้าของเธอดูยุ่งเหยิงและเธอกอดคอของจี้หลิงชวนไว้แน่น เพียงแค่คนมองผ่านก็มองออกว่าพวกเขาทั้งสองคนต้องมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
ในงานวันเกิดครั้งนั้น มู่อวี๋เฟยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เธออยากจะเหยียบมู่ซีซีให้จมดิน
ดังนั้นเธอไม่เพียงแต่จะส่งชายวัยกลางคนเข้าไป เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ผิดพลาด ในตอนนั้นมู่อวี๋เฟยจึงติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้องรับรองและบันทึกภาพทุกอย่างภายในห้องนั้น
ภาพเหล่านี้นั้นเป็นมู่อวี๋เฟยที่แคปเก็บเอาไว้
เมื่อฟางเซิ่งมองภาพเหล่านั้นสีหน้าของเขาอึมครึมในทันที เขาไม่กล้าที่จะปล่อยปละละเลย เขาเกรงว่ามู่อวี๋เฟยอาจร้อนใจจนกล้าทำอะไรที่ล้ำเส้นอีก เขาจึงรีบไปยังห้องทำงานของประธานและเคาะประตูในทันที
"เข้ามา" เมื่อได้ยินเสียงของจี้หลิงชวนดังขึ้น ฟางเซิ่งรีบผลักประตูเข้าไปภายในห้องทำงานและยืนอยู่ด้านหน้าของจี้หลิงชวนทันที
"คุณชายจี้ เมื่อครู่มู่อวี๋เฟยโทรมา....เธอบอกว่าอยากพบและอยากพูดคุยกับคุณ...." ฟางเซิ่งยังไม่ทันจะกล่าวจบ ทางด้วยจี้หลิงชวนที่กำลังฟังอยู่นั้นขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับขัดจังหวะบทพูดของฟางเซิ่ง "ไปบอกเธอว่าฉันไม่อยากพบเธอ!"
ฟางเซิ่งมองไปยังสีหน้าที่มืดมนของจี้หลิงชวน เขาค่อยๆส่งโทรศัพท์ของเขาให้จี้หลิงชวนอย่างระแวดระวังพร้อมกับพูด "คุณชายจี้ มู่อวี๋เฟยส่งรูปภาพเหล่านี้มาให้ผม คุณชายลองดูรูปภาพเหล่านี้ก่อน..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...