มายมิ้นท์ยิ้มแล้วยิ้มอีก “ไม่ใช่เลยเชียวเหรอ?”
เพื่อส้มเปรี้ยว เขาไม่มีขีดจำกัดได้เลยสักนิด
กระทั่งเพียงแค่ส้มเปรี้ยวร้องไห้สองเสียง ไม่แน่ว่าเขาแม้แต่ชีวิตล้วนสามารถไม่เอาก็ได้ล่ะ
เปปเปอร์จ้องมองความเย็นเยือกที่อยู่นัยน์ตาของมายมิ้นท์ รู้สึกเพียงขัดลูกหูลูกตาเหลือเกิน
ที่แท้ เธอก็มองเขาเช่นนี้นี่เอง
เปปเปอร์หน้าบึ้งอยู่ มือหนึ่งสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงลุกขึ้นมา “ทุกท่าน สำหรับข้อสงสัยที่ประธานมายมิ้นท์พูดเมื่อกี้ ผมสามารถบอกกับทุกคนได้อย่างชัดเจนมาก การร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ยุติธรรมเที่ยงธรรม จะไม่มีคดีดำใดๆ ขอให้ทุกท่านโปรดวางใจ”
“ในเมื่อประธานเปปเปอร์ล้วนพูดเช่นนี้แล้ว พวกเราย่อมวางใจอยู่แล้ว” คนทั้งหลายยิ้มพูด
มีเพียงเยี่ยมบุญฝืนใจดึงมุมปากดึงแล้วดึงอีก ไม่ได้ขานรับ ในใจเสียใจภายหลังเหลือเกิน
ผ่านการประลองฝีมือในครั้งนี้ เขาน่าจะรู้ว่ามายมิ้นท์สาวน้อยคนนี้จัดการไม่ง่ายมานานแล้ว
แต่ทุกครั้ง เขายังคงอดไม่ไหวที่จะพุ่งเข้าไปอย่างบุ่มบ่าม จนกระทั่งตอนนี้ย้ายก้อนหินทับเท้าตนเองแล้ว
“ขอบคุณความไว้วางใจของทุกท่านอย่างมาก งั้นการประชุมในวันนี้ก็ขอยุติเพียงแค่นี้ ทุกคนสามารถกลับไปจัดเตรียมแผนการให้ดีๆได้เลย”
พูดจบ เปปเปอร์ลุกขึ้นมา พาผู้ช่วยเหมันตร์ออกจากห้องพิเศษก่อน
พอเขาไป คนอื่นๆก็ลุกขึ้นตามไปด้วย ออกไปอย่างกระจุยกระจาย
เยี่ยมบุญเดินอยู่ท้ายสุด ตอนที่เดินผ่านข้างกายมายมิ้นท์ หยุดอยู่ พูดเสียงอึมครึมหนาวเย็นว่า “สาวน้อย คุณอย่ากระหยิ่มยิ้มย่องล่ะ”
“ไม่อย่างแน่นอน เพราะว่าประธานเยี่ยมบุญยังไม่ได้ล้มลงล่ะ ฉันจะกระหยิ่มยิ้มย่องได้ยังไงล่ะ” มายมิ้นท์หันหน้าอมยิ้มหนึ่งทีพูดอยู่
เยี่ยมบุญใจลอยขึ้นมาอีกครั้ง
เหมือน เหมือนมากจริงๆ
ทำไมลักษณะท่าทีที่สาวน้อยคนนี้ยิ้มออกมา เหมือนมารดาของเขาตอนเยาว์วัยขนาดนั้นล่ะ?
“ประธานเยี่ยมบุญ?” เห็นเยี่ยมบุญใจลอยจ้องมองตนเองอยู่อีก มายมิ้นท์อดไม่ไหวที่จะยักคิ้วหนึ่งที
คนนี้เป็นยังไงเหรอ?
เยี่ยมบุญได้ยินเสียงของมายมิ้นท์ คืนสติกลับมา นัยน์ตาแว็บผ่านความอึดอัดเล็กน้อย หลังจากไอเสียงหนึ่ง พูดเสียงเย็นชาว่า “งั้นก็ต้องดูว่าคุณมีฝีมือขนาดไหนจะทำให้ผมล้มลงหรือไม่ ฮึ!”
เยี่ยมบุญออกไป ในหอประชุมเหลือเพียงแค่มายมิ้นท์คนเดียว
นี่มายมิ้นท์จึงค่อยๆเก็บของของตนเองเตรียมตัวจะกลับไป
ในเวลานี้ มือถือดังขึ้น
มายมิ้นท์วางของที่อยู่ในมือลงเสียเลย หยิบมือถือออกมา “ฮัลโหล่”
“ที่รัก ประชุมเสร็จหรือยัง?” ลาเต้ถามอยู่ในสาย
มายมิ้นท์พยักหน้า “ประชุมเสร็จแล้ว”
“เป็นยังไงล่ะ ช่วงชิงตำแหน่งผู้ร่วมกิจกรรมได้หรือยัง?” น้ำเสียงลาเต้รีบเร่ง
มายมิ้นท์ยิ้มขมส่ายหัวต่อๆกันอยู่ “ที่ไหนจะง่ายขนาดนี้ เข้ามายี่สิบกว่าคน เลือกหุ้นส่วนเพียงห้าแห่งล่ะ ผู้ก่อการร่วมกิจกรรมให้การทดสอบอย่างหนึ่งแก่พวกเรา ให้พวกเราเขียนแผนการชุดหนึ่ง ตามแผนการตัดสินตำแหน่งผู้ร่วมกิจกรรม”
“งั้นนี่ยังค่อนข้างยุติธรรม” ลาเต้พยักหน้าต่อๆกัน
มายมิ้นท์นวดระหว่างคิ้วนวดแล้วนวดอีก “แต่ฉันออกไปก่อนหงุดหงิดมาก เพราะว่าฉันเขียนแผนการไม่เป็น ฉันไม่เคยสัมผัสแหล่งพลังงานจุดนี้มาก่อน มีศัพท์เฉพาะทางมากมายล้วนไม่รู้จะเขียนยังไงล่ะ?”
นอกหอประชุม เปปเปอร์ได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นกิริยาท่าทางในการเปิดประตูหยุดลง
ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ข้างหลังเขา “เปป……”
เขาเพิ่งพูดคำเดียว ก็ถูกเปปเปอร์ยกมือขัดขวางไว้แล้ว
ผู้ช่วยเหมันตร์หุบปากไว้อย่างเงียบๆ ไม่พูดเลย
ลาเต้ยิ้มอยู่พูดว่า “นี่จะมีอะไร เอากลับมาให้คนที่แผนกการวางแผนเขียนสิ พวกเขาก็ไม่ใช่จะทำสิ่งนี้โดยเฉพาะเหรอ?”
“ไม่ได้” มายมิ้นท์ส่ายหัว “อยู่ในกรุปยังไม่รู้ว่ามีคนมากเท่าไหร่เป็นไส้ศึกของเตชิตล่ะ คุณเชื่อหรือไม่ว่าเพียงแค่ฉันให้คนอื่นเขียน เตชิตก็จะทำการทำลาย เขาไม่อยากให้ฉันชนะล่ะ ดังนั้นฉันเพียงได้แต่เขียนด้วยตนเองแล้ว”
“สิ่งที่คุณพูดก็ถูก งั้นถึงเวลานั้นผมเขียนด้วยกันกับคุณ แม้ว่าผมก็ไม่เคยเกี่ยวเนื่องไปถึงจุดนี้มาก่อน แต่สองคนน่าจะดีกว่าคนเดียวล่ะ” ลาเต้จับผมแล้วจับผมอีกพูด
มายมิ้นท์อืมเสียงหนึ่ง “ได้ งั้นฉันวางสายก่อนล่ะ อีกสักครู่ยังต้องไปโรงพยาบาลล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...