เขาจะทำยังไงได้ คนที่ตัวเองชอบก็ต้องโอ๋เอาเท่านั้น!
หัวเราะไปสักพัก ทีนี้มายมินท์ถึงหายใจยาวๆ แล้วค่อยๆเก็บเสียงหัวเราะไว้
จากนั้นมายมินท์ได้เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อผืนนึง “นี่ค่ะ เช็ดหน้าหน่อย”
“เมื่อกี๊มือของผมเพิ่งซ่อมล้อมาสกปรกเกิน ที่รัก คุณเช็ดให้ผมดีกว่า” ลาเต้พูด แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
มายมินท์กลอกตาขาวใส่เขาทีนึง แต่ก็ยังได้ยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าให้เขาอยู่ดี
ลาเต้หลับตาไว้พร้อมเพลิดเพลินกับมัน “ที่รักดีจังเลยครับ”
“พอเหอะ” มายมินท์มองหน้าเขาแล้วหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
เปปเปอร์ที่อยู่ไม่ไกลเห็นภาพนี้แล้ว มือสองข้างได้กำแน่นเป็นหมัด สีหน้ายิ่งบึ้งตึงอย่างไม่ขาดสาย
ส้มเปรี้ยวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเขา แววตาเธอระยิบระยับ แววตาลึกๆเต็มไปด้วยความริษยา
“เปปเปอร์ ความสัมพันธ์ของคุณมายมินท์กับคุณลาเต้นี่ดีจังเลยนะคะ”ส้มเปรี้ยวพูดด้วยรอยยิ้ม
เปปเปอร์ดึงสายตากลับพร้อมหลุบตาลง บังความเย็นชาของแววตาไว้ จากนั้นได้พูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“ไปกันเถอะ”
เขากลัวขืนเขายังไม่ไปอีก จะทนไม่ไหวเดินไปกระชากลาเต้ออกมาจริงๆ
ถึงแม้เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้มีความคิดแบบนี้
ส้มเปรี้ยวพยักหน้า “โอเคค่ะ”
ทั้งเจ็ดคนของแก๊งพวกเขาแบ่งเป็นรถสามคัน ไปจากสถานที่แห่งนี้
มายมินท์กับลาเต้ได้มาถึงที่ตระกูลรัตติพีระ
พอเข้าบ้านปุ๊บ คุณนายราศรีก็ได้จับมือมายมินท์ไว้อย่างสนิทใจ “มายมินท์ สองวันนี้ไปเที่ยวเป็นไงบ้าง?”
“มีความสุขดีค่ะ”มายมินท์รับผลไม้ที่คุณนายราศรียื่นมาให้ พร้อมตอบด้วยรอยยิ้ม
คุณนายราศรีก็สีหน้ายิ้มแย้ม “มีความสุขก็ดีแล้ว แล้วได้เกิดเรื่องพิเศษอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“เรื่องพิเศษ?”มายมินท์กะพริบตาด้วยความสงสัย “คุณป้าหมายถึงอะไรคะ?”
รอยยิ้มของคุณนายราศรีค่อยๆแข็งกระด้างขึ้นมา “อย่างเช่นตกลงไปในหลุม หรือประตูถูกล็อคอะไรประมาณนี้ หรือว่าหนูกับลาเต้ไม่เจอ?”
“ไม่นี่คะ” มายมินท์ส่ายหัว “ทำไมคุณอาถึงคิดว่าพวกเราต้องเจอเรื่องแบบนี้ล่ะคะ?”
แววตาของคุณนายราศรีลุกลี้ลุกลนอย่างร้อนตัว จากนั้นได้ผายมือพร้อมพูดด้วยเสียงหัวเราะ:“น้าก็แค่เดาไปมั่วเฉยๆ สองวันก่อนน้าดูโทรทัศน์ เห็นพระเอกนางเอกในโทรทัศน์ไปพักร้อน ง่ายมากที่จะเจอเรื่องแบบนี้ น้าถึงได้ถามดูว่าพวกหนูเจอหรือเปล่า”
มายมินท์พยักหน้าอย่างเข้าใจในทันที จากนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมา“คุณป้าวางใจเถอะค่ะ โทรทัศน์คือโทรทัศน์ ชีวิตจริงคือชีวิตจริง ชีวิตจริงจะเหมือนที่ละครแสดงได้ยังไงคะ”
“ก็ใช่น้อ” คุณนายราศรียกมุมปากขึ้น จากนั้นได้ลุกขึ้น “มายมินท์ หนูนั่งก่อนนะ น้าขึ้นไปเอาของที่ชั้นบนหน่อย”
“โอเคค่ะ” มายมินท์ตอบ
คุณนายราศรีได้เดินไปที่ห้องนอนของลาเต้
ลาเต้เพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วออกมาจากห้องน้ำ ได้กลับคืนสู่ภาพลักษณ์หนุ่มดอกไม้ที่สง่าผ่าเผยของปกติ ยังไม่ทันได้หลงตัวเองสักหน่อย ก็เห็นคุณนายราศรีผลักประตูเข้ามาแล้ว
ลาเต้รีบเก็บมือที่จะโพสต์ท่าเอาไว้ พร้อมจ้องคุณนายราศรี “แม่เข้ามาทำไมครับ?”
“แม่ถามแกหน่อย สองวันนี้แกไปออกเดทกับหนูมายมินท์มีความคืบหน้าหรือเปล่า?” คุณนายราศรีถาม
แววตาของลาเต้ได้มืดลงหนึ่งวิ จากนั้นได้เบะปาก “จะไปเอาที่ไหนมาคืบหน้าครับ นี่ไม่ใช่ออกเดทเลยด้วยซ้ำ”
เจ็ดแปดคนรวมตัวอยู่ด้วยกัน นั่นมันกรุ๊ปทัวร์ชัดๆ
“ไม่ใช่ออกเดท?” คุณนายราศรีชายตามองเขา “สนามแข่งม้าของคุณอาชัชแกมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงมากมายขนาดนั้น เป็นสถานที่เหมาะกับการออกเดทพอดี ทำไมจะไม่ใช่ออกเดท เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ของแกกับหนูมายมินท์ แม่ยังตั้งใจให้คนของที่นั่นสร้างกับดักโดยเฉพาะ ใครจะไปรู้แกจะไม่เอาไหนขนาดนี้ ไม่ติดกับดักเลยสักอย่าง!”
“สร้างกับดัก?แม่ นี่แม่สร้างกับดักอะไรครับ?”ลาเต้มองหน้าคุณนายราศรีอย่างประหลาดใจ
คุณนายราศรีกลอกตาใส่เขาทีนึงแล้วตอบกลับว่า:“แม่ให้คนขุดหลุมที่สนามตีกอล์ฟ คิดอยู่ว่าตอนที่พวกลูกไปตีกอล์ฟตกลงไปในหลุม แล้วจะมีฉากกุ๊กกิ๊กหวานแหววกัน และได้ให้คนทำกลอนประตูของห้องนอนหลักของชั้นสามเสีย จะได้ฉวยโอกาสขังแกกับหนูมายมินท์ไว้ข้างใน เพราะชายโสดหญิงโสดอยู่ห้องเดียวกัน ง่ายจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่สุด ใครจะไปรู้ว่าแกกับหนูมายมินท์……”
คุณนายราศรีโมโหจนตัวสั่น “แต่พวกแกไม่ติดกับดักเลยสักอย่าง เสียแรงแม่จริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...