“ดีขึ้นเยอะแล้ว”ท่านย่าตอบด้วยรอยยิ้ม
มายมินท์พยักหน้า “งั้นก็ดีแล้วค่ะ”
ทันใดนั้นท่านย่านึกอะไรขึ้นมาได้ เธอได้ชี้ไปที่หัวเตียง “หนูมินท์ เมื่อวานลูกชายของป้าแดงมาเยี่ยมเธอ ได้เอาฮอร์ธอร์น ที่บ้านตัวเองปลูกมาให้เธอเยอะมาก หนูชอบกินเยลลี่ฮอร์ธอร์น
ไม่ใช่เหรอ?เอาฮอร์ธอร์นพวกนี้กลับไปกินนะ”
มายมินท์มองลูกฮอร์ธอร์นในตระกร้า ทั้งแดงและลูกใหญ่ ทำให้คนแค่มองก็อยากจะกินแล้ว
ในขณะที่เธอกำลังอยากจะพยักหน้าตอบตกลง เปปเปอร์ได้เปิดปากพูดว่า “ไม่ได้ครับ!”
ท่านย่าขมวดคิ้ว
รอยยิ้มที่อยู่ใบหน้าของมายมินท์ก็ค่อยๆจางลงมา
ท่านย่ามองเปปเปอร์อย่างไม่พอใจ “ทำไมจะไม่ได้ นี่เป็นของที่ย่าให้มายมินท์ จะต้องผ่านความเห็นของแกด้วยหรือยังไง?”
เมื่อก่อนทำไมเธอถึงดูไม่ออกเลยว่าหลานชายคนนี้ขี้งกขนาดนี้
แค่ฮอร์ธอร์นก็ไม่ยอมให้!
มายมินท์ไม่ได้พูดจาและไม่ได้โกรธ
แค่ฮอร์ธอร์นเอง ไม่ให้ก็ไม่ให้สิ
โกรธกับเรื่องกินเล็กน้อยนั่น ไม่มีความจำเป็นเลย
มองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของท่านย่ากับมายมินท์ เปปเปอร์ก็รู้เลยว่าพวกเธอเข้าใจตัวเองผิดแล้ว เขาหลุบตาลงพร้อมพูดจาเรียบเฉย:“เธอกินฮอร์ธอร์นไม่ได้ครับ”
ตั้งแต่รู้ว่ามายมินท์ตั้งครรภ์ เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปค้นหาข้อมูลในเน็ตสืบเนื่องจากอะไร เกี่ยวกับเรื่องที่หญิงตั้งครรภ์ควรระวังอะไร ในนั้นก็มีของที่หญิงตั้งครรภ์กินไม่ได้ด้วย
และลูกฮอร์ธอร์นก็คือหนึ่งในนั้น
“ทำไมถึงไม่ได้!”ท่านย่าหน้าบึ้งพร้อมจ้องเปปเปอร์ไว้ มีท่าทีเหมือนถ้าเปปเปอร์ไม่ให้เหตุผลที่สามารถให้คนยอมรับ เธอก็จะไม่จบไม่สิ้น
มายมินท์ก็มองหน้าเปปเปอร์ไว้ ไม่เข้าใจทำไมเขาถึงคิดว่าเธอกินไม่ได้
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางไว้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี
มายมินท์เองก็ยังไม่ได้ป่าวประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์
เขาเองก็ย่อมช่วยเธอป่าวประกาศออกมาไม่ได้อยู่แล้ว
ระหว่างที่เปปเปอร์คิดแววตาได้ระยิบระยับ เขาได้พูดว่า:“นี่เป็นของที่ป้าแดงให้คุณย่า ให้คนอื่นมันไม่เข้าท่าเลย จะให้ป้าแดงคิดยังไงครับ ให้ป้าแดงอบให้แห้งแล้วเอาให้คุณย่าชงดื่มดีกว่าครับ”
ท่านย่าโมโหจนมือสั่น “นี่ก็คือเหตุผลที่แกไม่ให้หนูมินท์กินลูกฮอร์ธอร์นเหรอ? เก่งมาก เปปเปอร์ แกนี่เก่งจริงๆ ย่าว่าแกคงจะอยู่กับผู้หญิงอย่างพิศมัยนานเกินไปแล้วจริงๆ ถึงได้เรียนรู้ความขี้เหนียวขี้งกของเธอ แกดูหน้าตาที่คิดเล็กคิดน้อยของแกสิ ถ้ารู้อย่างนี้ ย่าก็ไม่น่าเอาแกไปให้พิศมัยรับเลี้ยงแล้ว”
ฟังคุณย่าพูดเหมือนซะตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวเลย มุมปากของเปปเปอร์ได้กระตุกทีนึงอย่างได้แค่แหงนมองแต่ไม่สามารถเข้าใกล้ในระยะประชั้นชิด จากนั้นได้มองไปที่มายมินท์
จิตใต้สำนึกของเขาไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆ
“หนูมินท์ เดี๋ยวเอาลูกฮอร์ธอร์นไปนะ หนูอย่าไปฟังคำพูดของเขา ยังไม่ถึงที่ต้องให้เขามาเป็นคนตัดสิน” ท่านย่าจ้องเปปเปอร์อย่างโหดทีนึง และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อนุญาติให้คนอื่นมาพูดแทรก
มายมินท์พยักหน้า “โอเคค่ะ”
เปปเปอร์ยิ่งไม่อยากให้เธอ เธอก็จะยิ่งรับเอาไว้
เขาไม่มีความสุข เธอก็จะรู้สึกมีความสุข
มายมินท์เงยหน้ามองไปที่เปปเปอร์ ไม่อำพรางความท้าทายของแววตาเลยสักนิด
เปปเปอร์ค่อนข้างอยากหัวเราะ
ช่างเถอะ เธอรับเอาไว้ก็รับเอาไว้เถอะ
อย่างมาก เดี๋ยวเขาค่อยคิดหาวิธีกำจัดลูกฮอร์ธอร์นทิ้งก็พอแล้ว สรุปก็คือจะให้เธอกินไม่ได้
“ยังยืนเซ่ออยู่ทำไม ยังไม่รินน้ำให้หนูมินท์อีก?”ท่านย่าเห็นเปปเปอร์ยืนอยู่ที่นั่น ก็โมโหขึ้นมาอีก
หลังจากผ่านเรื่องเมื่อครู่ เธอยิ่งอยู่ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าหลานชายคนนี้แล้ว เมื่อก่อนเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
เปปเปอร์ตอบคำนึง จากนั้นได้เอาแก้วที่ใช้ครั้งเดียวไปรองน้ำที่หน้าตู้กดน้ำเย็น
หลังจากรองน้ำเสร็จ เขาเดินมาที่ตรงหน้ามายมินท์แล้วยื่นให้กับเธอ
“ขอบคุณค่ะ”มายมินท์กล่าวขอบคุณด้วยมารยาทพร้อมกับรับน้ำมา
เปปเปอร์ตอบคำนึงพร้อมเตือนว่า:“ระวังร้อนนะ”
ท่านย่ามองเขาอย่างประหลาดใจ
เขาเป็นห่วงหนูมินท์อยู่เหรอเนี่ย?
มายมินท์ไม่ได้รู้สึกว่าเปปเปอร์กำลังเป็นห่วงเธอ เพราะการเตือนแบบนี้เป็นเรื่องปกติมากที่ใครๆก็พูดกัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอก็จะเตือนฝ่ายตรงข้ามด้วยความหวังดีเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น เธอไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเลย
มายมินท์เป่าน้ำร้อนแล้วดื่มคำนึง จากนั้นอดส่งเสียง“เอ๊ะ”ไม่ได้
“มินท์ หนูเป็นอะไร?” ท่านย่าถามด้วยความเป็นห่วง
มายมินท์มองไปที่เปปเปอร์ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “ประธานเปปเปอร์ คุณได้ใส่น้ำผึ้งลงไปเหรอคะ?”
“อืม” เปปเปอร์พยักหน้า “คุณไม่ชอบเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...