อีกอย่างยังดพึ่งมาหาตอนที่มายมิ้นท์พึ่งได้สร้อยคอนั้นมา นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกที่ที่แปลก ก็คือในข่าวยังบอกว่า ตามหาหญิงที่มีสร้อยคอพิเศษ
นั้นก็แปลว่า สิ่งที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะตามหานั้นคือหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สร้อยคอ
“ตรวจสอบดูว่าทำไมตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถึงตามหาหญิงสาวที่มีสร้อยคอพิเศษ” เปปเปอร์เอามือเคราะกระจก พูดอย่างเสียงเข้ม
ตระกูลภักดีพิศุทธิ์กำลังตามหามายมิ้นท์แน่นอน
แค่ว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่รู้เอง
“ครับผม” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าแล้วตอบกลับ
เปปเปอร์ก้มหน้าลง เอามือออกมาแล้วลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็โทรสายออกไป
เทนเดอร์กรุ๊ป
มายมิ้นท์กำลังแก้ไขเอกสารชุดหนึ่งที่ยุ่งยากมาก กำลังมีเส้นสนกลในเรื่องราวที่สลับซับซ้อนขึ้นหน่อย โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้แนวคิดของเธอแตกแยกไปหมด
เพราะอย่างนี่ มายมิ้นท์จึงไม่ได้ดูว่าใครโทรมา จับโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วใส่ไว้ข้างหูเลย “ใครค่ะ?”
ฟังน้ำเสียงของเธอออกว่าหงุดหงิดอยู่ เปปเปอร์ก็เงียบลง
ตอนนี้แม้แต่รับโทรศัพท์ของเธอเขาก็ไม่อยากรับเลยเหรอ?
“ไม่พูดฉันวางสายแล้วนะ” มายมิ้นท์เห็นว่าอีกฝั่งของโทรศัพท์ไม่มีเสียงตอบรับ นวดกลางหน้าผากเบาๆ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากที่บางเข้าหากัน ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “ผมเองครับ”
มายมิ้นท์ได้ยินเสียงของเขา ตกตะลึงแป๊บ จากนั้นเอาโทรศัพท์มาตรงหน้าแล้วดู เห็นเป็นเบอร์ของเปปเปอร์จริงๆ แล้วก็วางโทรศัพท์ไว้ที่หูต่อ พูดอย่างเฉยชาว่า: “ประธานเปปเปอร์เหรอค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
“ข่าวที่เอสซีกรุ๊ปประกาศ คุณเห็นยัง?” เปปเปอร์ถามเธอ
“ข่าว?” ทำเอามายมิ้นท์งงไปหมด “ข่าวอะไรเหรอ?”
ดูท่าแล้วไม่เห็นแน่นอนเลลย
งั้นตอนนี้ตัวเองถือว่าเป็นคนบอกให้เธอคนแรกหรือเปล่านะ?
ด้วยความปลาบปลื้มใจเล็กน้อย เปปเปอร์ยับยั้งความดีใจแล้วไอเบา ๆ “ตระกูลภักดีพิศุทธิ์กำลังตามหคนที่มีสร้อยคอของลูกสาวเขา ก็คือเธอนี่เอง”
“อะไรนะ?ตระกูลภักดีพิศุทธิ์กำลังตามหาฉันอยู่?” มายมิ้นท์จับปากกาในมือไว้อย่างแน่น
เปปเปอร์พยักหน้า “ใช่แล้ว แต่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าคนที่กำลังตามหาเป็นเธอ เพราะว่าพวกเขาไม่รู้ว่าสร้อยคอลูกสาวอยู่ในมือของเธอ”
“เดียวก่อนนะ ฉันขอดูแป๊บ” มายมิ้นท์โยนปากกาทิ้ง วางโทรศัพท์ไว้บนไหล่ แล้วเคราะแป้นพิมพ์
ไม่ช้า เธอก็เห็นข่าวที่เอสซีกรุ๊ปประกาศออกมา
“แปลกจัง ตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้ได้ไงว่าสร้อยคอยังอยู่อยู่?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วไว้แน่นๆ
เธอก็คิดเช่นเดียวกับเปปเปอร์ เธอไม่คิดว่าตระกูลภักดีพิศุทธิ์จะรู้ว่าสร้อยคอยังอยู่อยู่
แต่ข่าวอันนี้สื่อให้เธอรู้ว่า ตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้ แถมยังกำลังตามหาคนที่มีสร้อยคออยู่ด้วย
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เวลาที่ประกาศ ตรงกับวันที่เธอเอาสร้อยคอได้พอดีเลย ดังนั้นผมเลยคิดว่าพวกเขาอาจรู้โดยบังเอิญว่าสร้อยคอยังอยู่อยู่” เปปเปอร์ไตร่ตรองสักครู่แล้วคาดเดา
มายมิ้นท์พยักหน้า คิดว่าก็คงเป็นแบบนี้แหละ
“แต่ว่าถ้าหากตระกูลภักดีพิศุทธิ์รับรู้โดยบังเอิญว่าสร้อยคอยังอยู่อยู่ งั้นพวกเขาก็คงจะหาแค่สร้อยคอสิ ทำไมต้องหาคนที่มีสร้อยคอด้วยล่ะ และระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นผู้หญิง หรือพวกเขาคิดว่าชวนชมยังมีชีวิตอยู่?” มายมิ้นท์พูด
นัยน์ตาของเปปเปอร์หดตัวลง “ที่เธอเดาอาจจะถูกก็ได้ ตระกูลภักดีพิศุทธิ์คิดว่าชวนชมยังมีชีวิตอยู่”
ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่รู้ว่าไปรู้ข่าวมาจากที่ไหน รู้ว่าสร้อยคอของชวนชมยังอยู่อยู่ แต่ไม่รู้ว่าสร้อยอยู่ที่มือของมายมิ้นท์ รู้แค่ว่าอยู่ในมือของผู้หญิงคนหนึ่ง
เลยคิดว่าหญิงคนนั้นเป็นชวนชม เลยจัดดกิจกรรมแบบนี้ขึ้น
“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง” มายมิ้นท์รู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่ง ลุกขึ้นมา “ท่านย่าบอกแล้วว่า ชวนชมถูกพ่อฉันจมน้ำตายแล้วสิ เป็นไปได้ไง……”
“จะเป็นไปไม่ได้ได้ไงละ?” เปปเปอร์พูดขัดจังหวะเธอ “สร้อยคอในมือของคุณก็คือหลักฐาน”
สร้อยคอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...