“ประธานเปปเปอร์เข้าใจผิดแล้ว นี่คือนาฬิกาคู่รัก พวกเราไม่ใช่คู่รักกัน ดังนั้นนาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่ใช่ของพวกเรา ประธานเปปเปอร์นำกลับไปชื่นชมกับคุณส้มเปรี้ยวเถอะค่ะ”
เมื่อพูดจบ มายมิ้นท์ก็นำกล่องที่อยู่ในมือของผู้จัดการ ยัดใส่ในอ้อมอกของเปปเปอร์
ใบหน้าของเปปเปอร์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง อยากที่จะโยนกล่องนั้นทิ้งไปอย่างอัตโนมัติ
แต่ท้ายที่สุด เขาก็สามารถอดทนได้ แล้วยื่นกล่องนั้นให้กับผู้ช่วยเหมันตร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ
ผู้ช่วยเหมันตร์มองไปยังกล่องที่อยู่ในอ้อมอกของตน และมองไปยังเปปเปอร์ที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น
เขานำของสิ่งนี้ให้กับเขา แล้วเขาจะจัดการยังไงล่ะ?
ผู้จัดการยิ่งก้มหน้าลงต่ำ ในใจรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่านาฬิกาของเขาจะทำให้ประธานเปปเปอร์กับคุณผู้หญิงท่านนี้ทะเลาะกัน เขาก็คงไม่นำออกมา
คนสองสามคนต่างไม่พูดไม่จา บรรยากาศตึงเครียดชวนให้ผู้คนหวาดกลัว
ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านมานานเท่าไหร่ เปปเปอร์จึงเอ่ยปากขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ไปเถอะ”
ผู้ช่วยเหมันตร์รีบก้าวไปพยุงเขา
มายมิ้นท์ก็ยื่นมือออกไป อยากที่จะพยุงเขาเช่นเดียวกัน
แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าคิดอะไรเหมือนกัน จึงได้ปล่อยมือลง
เปปเปอร์มองเห็นท่าทีของเธอ บรรยากาศรอบกายก็เริ่มอึดอัด
อยากจะพยุงก็พยุงสิ
วางมือกลางคันนี่มันอะไรกัน?
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมานอกร้านอาหาร มายังลานจอดรถ
มายมิ้นท์เปิดประตูรถของตนออกมา ให้ไมโลขึ้นไปบนรถ
เปปเปอร์เห็นสถานการณ์ ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า“คุณจะไปหาทามทอยเหรอ?”
มายมิ้นท์ปิดประตูที่นั่งด้านหลังรถ“ไม่ได้ไปค่ะ”
“งั้นไมโล……”
“ไมโลไปพักค้างคืนกับฉันค่ะ”มายมิ้นท์ตอบพลางมองไปที่เขา
เมื่อได้ยินว่าเขาไม่ได้ไปหาทามทอย ในใจลึกๆของเปปเปอร์รู้สึกสบายขึ้นมาก แต่กลับไม่ได้แสดงออกบนสีหน้า พยักหน้าแสดงให้เห็นว่ารับทราบแล้ว
มายมิ้นท์อ้อมไปยังบริเวณด้านหน้ารถ มายังด้านหน้าประตูของเบาะที่นั่งคนขับ“ประธานเปปเปอร์ ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“เดินทางระมัดระวังด้วยนะครับ”เปปเปอร์พยักหน้า
มายมิ้นท์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จู่ๆเขาก็กับชับให้เธอระมัดระวังอย่างกระตือรือร้น
นี่ยังเป็นเปปเปอร์ที่เธอรู้จักอยู่หรือเปล่า?
“ทำไมเหรอครับ?”เมื่อเห็นหญิงสาวงงงวย เปปเปอร์ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
มายมิ้นท์ส่ายหัว“ไม่มีอะไรค่ะ ประธานเปปเปอร์ก็ระมัดระวังด้วยนะคะ”
แววตาของเปปเปอร์เผยยิ้มออกมา พลาง อึม หนึ่งที
สุดท้ายมายมิ้นท์เหลือบมองเขาครู่หนึ่ง เปิดประตูบริเวณที่นั่งคนขับ จากนั้นก็ขับรถจากไป
เปปเปอร์ยืนอยู่บริเวณด้านหน้ารถมายบัค สายตามองตามส่งเธอตลอดทาง
ขณะที่มายมิ้นท์กลับรถเห็นดังนั้น ในใจจึงรู้สึกแปลกประหลาดไม่น้อย
และความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ไม่ได้เพิ่งรู้สึกตอนนี้ แต่ช่วงเวลานี้เธอรับรู้ได้โดยตลอด
สมัยก่อนเปปเปอร์ไม่เคยเหลือบตามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าตอนนี้มองเธอหลายครั้งจนเธอนับไม่ถ้วน
สมัยก่อนเขาไม่ยอมพูดคุยกับเธอมากนัก แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่พูดคุยกับเธอมากขึ้น อีกทั้งยังกำชับเธอให้ระมัดระวังอีกด้วย
ในใจเขาคิดอะไรกันแน่นะ?
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วแน่น
ในเวลานี้ ไมโลที่นั่งอยู่เบาะหลังจู่ๆก็กอดบริเวณด้านหลังเบาะคนขับ พลางแนบตัวเข้ามา“คุณอา คุณอาเปปเปอร์ยังมองอยู่เลยครับ”
“อ่า?”มายมิ้นท์หรี่ตา มองไปยังด้านขวาของกระจกหลัง
ที่แท้เปปเปอร์ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองมายังเธอ
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากสีแดง เขามองอะไรอยู่กันแน่?
จู่ๆคำพูดของไมโลประโยคหนึ่ง ก็เกือบทำให้เธอเหยียบเบรกผิด
“คุณอา คุณอาเปปเปอร์ชอบคุณ”ไมโลพูด
มายมิ้นท์สำลักน้ำลายจนพูดไม่ออก กระแอมอยู่หลายครั้งจนดีขึ้น และพูดขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า:“เด็กน้อยคนนี้ เพิ่งอายุเท่าไหร่เอง ก็พูดว่าคุณอาเปปเปอร์ชอบฉันซะแล้ว คุณอาเปปเปอร์ไม่ได้ชอบฉัน เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“แต่ว่าผมดูออก คุณอาเปปเปอร์ชอบคุณอาจริงๆนะครับ แววตาที่เขามองคุณอาเหมือนกับแววตาที่คุณพ่อมองคุณแม่เลย”ไมโลตอบพลางกะพริบตา
“หนูยังมองแววตาของคนออกด้วยเหรอครับ?เก่งจริงๆไมโล”มายมิ้นท์ยิ้ม และไม่ได้เก็บคำพูดของเขาใส่ใจ เห็นเป็นเพียงคำพูดของเด็กน้อยเท่านั้น
เพราะถึงยังไง เด็กคนหนึ่งจะมองแววตาอะไรออกได้
อีกอย่างเปปเปอร์ชอบเธองั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...