“คืออย่างนี้คะคุณขนมผิง คุณมายมิ้นท์โทรแจ้งตำรวจว่า มีคนมาฉายภาพสยองบนหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานของเธอในตอนกลางคืน และตอนนี้จับคนที่มาฉายภาพสยองได้แล้ว และเขาสารภาพว่าคุณ เป็นคนบอกให้เขาทำอย่างนี้ ดังนั้นตอนนี้ขอเชิญคุณมาที่สถานีตำรวจหน่อยได้ไหมคะ?” ทางโทรศัพท์ตำรวจหญิงพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน
แต่เมื่อขนมผิงได้ยิน กลับเหมือนเสียงที่กระตุ้นให้เธอตายเร็วๆ ทำให้เธอตกใจจนหน้าซีดไปหมด "อะ ……อะไรนะ? มายมิ้นท์โทรแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"
ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่ได้มีความสนใจต่อขนมผิงสักเท่าไหร่ เมื่อเขากำลังจะเดินจากไป จู่ๆ เขาก็ได้ยินขนมผิงเรียกชื่อของมายมิ้นท์ออกมา แล้วเขาก็หยุดเดิน
“ใช่ค่ะ คุณมายมิ้นท์โทรแจ้งตำรวจค่ะ ดังนั้นคุณขนมผิง ตอนนี้คุณรีบมาที่สถานีตำรวจเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” ตำรวจหญิงพูดอีกครั้ง
ขนมผิงรีบส่ายหัว “ไม่ ฉันไม่ไป!”
เธอถูกกักขังจนกลัวแล้ว และไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะไม่ไปที่สถานีตำรวจอีก
แล้วสีหน้าของตำรวจหญิงก็มืดลง และเสียงของเธอก็เย็นชาขึ้น “คุณขนมผิงค่ะ ถ้าคุณไม่มา แสดงว่าคุณปฏิเสธการสอบสวน เราสามารถจับกุมคุณหรือแม้กระทั่งกักขังตัวคุณได้”
เมื่อได้ยินว่าจะจับกุมและกักขัง ขนมผิงก็กลัวจนเหงื่อไหลลงมาที่หน้าผาก ถือโทรศัพท์ไว้ในมือแน่ๆและพยักหน้าซ้ำๆ "อย่าจับฉัน ฉัน……ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ! "
“โอเคค่ะ!” ตำรวจหญิงกลับมายิ้มเหมือนเดิม “ถ้าอย่างงั้นฉันจะรอคุณขนมผิงที่สถานีตำรวจนะคะ”
พูดจบ ตำรวจหญิงก็วางสาย
ขนมผิงรู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัว และเดินไปทางประตูใหญ่โรงพยาบาลด้วยฝีเท้าที่แข็งทื่อ
ผู้ช่วยเหมันตร์หรี่ตามองดูเธอจากไป และในที่สุดเขาก็เดินไปทางที่ตรงข้ามกับเธอ
“ให้นายไปเอายา ทำไมไปนานขนาดนี้” เปปเปอร์ที่นั่งอยู่บนรถไมบัคกำลังดูการรายงานของทางการเงินด้วยแท็บเล็ต เมื่อเขาเห็นผู้ช่วยเหมันตร์กลับมาเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดจาเหมือนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
ผู้ช่วยเหมันตร์ยื่นยาให้กับเขา “ประธานเปปเปอร์ครับ เมื่อกี้ตอนผมกลับมาผมเจอขนม”
“แล้ว?” เปปเปอร์เลื่อนแท็บเล็ตและตอบอย่างไม่สนใจสักเท่าไหร่
ผู้ช่วยเหมันตร์ดื่มน้ำไปคำหนึ่ง “แล้วผมก็ได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ และพูดถึงคุณมายมิ้นท์ บอกว่าคุณมายมิ้นท์แจ้งตำรวจหรืออะไรสักอย่างแหละครับ”
“อะไรนะ?” เปปเปอร์รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย และวางแท็บเล็ตลง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “มายมิ้นท์เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่ได้ยินครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหัว “แต่ผมคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ ตอนนี้ขนมผิงก็ไปที่สถานีตำรวจแล้ว คุณมายมิ้นท์ก็น่าจะอยู่ที่นั่นครับ”
“ขับรถ ไปที่สถานีตำรวจ!” เปปเปอร์หรี่ตาลงเล็กน้อยและสั่งด้วยเสียงที่เข้ม
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบกลับ สตาร์ทรถไปอย่างรวดเร็ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็มาถึงที่สถานีตำรวจ
เปปเปอร์พึ่งลงจากรถ ก็เห็นขนมผิงที่กำลังเข้ามาในสถานีตำรวจอย่างกล้าๆกลัว
เขาขมวดคิ้วและเดินก้าวไปด้วยขาที่ยาว
ทันทีที่เดินเข้าไป เขาก็เห็นมายมิ้นท์ที่นั่งพักผ่อนอยู่ที่ห้องรับแขกและราเม็งที่อยู่ข้างๆเธอ
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากที่บางของเขา รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง
เขาพบว่าเกือบทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ ข้างเธอก็จะมีผู้ชายคนหนึ่งตามอยู่ ไม่ใช่ราเม็งก็คือลาเต้ หรือไม่ก็ทามทอย
ผู้ชายพวกนี้ไม่มีเรื่องที่ตัวเองต้องทำบ้างเหรอ?
ทุกครั้งก็ตามติดเธอนั้นแหละ!
เปปเปอร์เดินไปด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ พึ่งเดินไปไม่ไกลหลังพวกเขา ก็เห็นตำรวจหญิงพาขนมผิงที่หวาดระแวงอยู่ ไปยืนตรงหน้าของมายมิ้นท์และราเม็ง
มายมิ้นท์ยืนขึ้นและมองไปที่ขนมผิงที่หน้าซีดด้วยสายตาที่เย็นชา "ทำไมต้องให้คนมาฉายภาพโครงกระดูกในหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานของฉัน"
“รูปโครงกระดูกบนหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ เปปเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดมันออกมา
มายมิ้นท์ฟังเสียงของเขาออก และหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ "คุณมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?"
ราเม็งก็ลุกขึ้นยืนและก้าวไปถอยหลังอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าอยากจะบังมายมิ้นท์เอาไว้
เมื่อเห็นเช่นนี้ เปปเปอร์จึงตัดสินใจเดินไปตรงหน้าของมายมิ้นท์
อย่างงี้ละก็ ต่อให้ราเม็งอยากจะบังก็บังไม่ได้แล้ว
นอกจากราเม็งผลักเขาออก
แต่ที่นี่คือสถานีตำรวจ ราเม็งจะกล้าเหรอ?
เปปเปอร์มองราเม็งอย่างเย้ยหยัน
หมัดของราเม็งทั้งสองข้างกำแน่น และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งที่กระหายเลือด
เขาอยากฆ่าชายคนนี้ทิ้ง อยากฆ่าเปปเปอร์ทิ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...