ในเวลาเดียวกัน ณ โรงพยาบาล ส้มเปรี้ยวก็กำลังให้การสอบปากคำอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน นั่งข้างเตียงของเธอและกำลังถามคำถามเธอ
“คุณส้มเปรี้ยวครับ ผมจะถามคุณอีกครั้ง คุณแน่ใจใช่ไหมว่าคุณมายมิ้นท์เป็นคนจ้างวานให้คนร้ายมาลงมือกับคุณ?” ตำรวจหนุ่มชายตามองดูส้มเปรี้ยวด้วยแววตาลึกล้ำ
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงด้านข้างนั่งบันทึกเทปและจดปากคำ
ส้มเปรี้ยวพยักหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ “แน่นอนค่ะ!”
“หากว่าสุดท้ายแล้วตรวจสอบออกมาพบว่าไม่ใช่ฝีมือของคุณมายมิ้นท์ คุณส้มเปรี้ยวจะมีความผิดโทษท่านกล่าวความเท็จและสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้อื่น คุณจะต้องรับผิดชอบทางกฎหมายและชดใช้ความเสียหายทางจิตใจแก่เธอ คุณส้มเปรี้ยว คุณมั่นใจใช่ไหมครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มจงใจเน้นย้ำน้ำเสียงให้หนักแน่นและจริงจัง
เมื่อส้มเปรี้ยวได้ยินคำว่าต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ความคิดในใจของเธอก็ตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ และนึกถึงการถ่ายทอดสดก่อนหน้านี้ มายมิ้นท์บอกว่าตอนกลางคืนหล่อนจะเอาหลักฐานออกมาให้ดู เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าหล่อนไม่ได้ทำร้ายเธอ
ตอนนี้เธอเป็นกังวลมากจริงๆ หากว่ามายมิ้นท์มีหลักฐานขึ้นมาละก็ จากที่เธอได้ปรึกษาทนายความมา หากมายมิ้นท์มีหลักฐานว่าตัวหล่อนบริสุทธิ์ เธอก็จะกลายเป็นผู้มีความผิดในฐานะกล่าวความเท็จ และอาจจะต้องติดคุกจำโทษนานสุดถึงสามปี
ในตอนแรกเป็นเพราะเธอคิดว่ามายมิ้นท์คงไม่มีหลักฐานและไม่อาจหาหลักฐานได้ ดังนั้นจึงได้คิดแผนการนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้ตัวเธอเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนัก
ถึงอย่างไรเธอก็เดินมาถึงจุดนี้แล้วและไม่มีทางให้หวนกลับ ด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงกัดฟันเดินต่อไป ลองพนันดูสักตั้ง บางทีมายมิ้นท์อาจจะตั้งใจพูดออกมาอย่างนั้นก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนี้ ส้มเปรี้ยวก็เก็บระงับความรู้สึกกระวนกระวายใจลงไป ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบว่า “แน่ใจค่ะ”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินจากไป
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือของตำรวจหญิงก็ดังขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูแล้วยื่นไปให้ตำรวจหนุ่ม “หัวหน้าคะ สายจากภายใน”
ตำรวจหนุ่มรับโทรศัพท์ไปก่อนจะกดรับสาย
หลังจากผ่านไปสองนาที เขาก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน สายตามองไปทางส้มเปรี้ยวอย่างแปลกประหลาด
ส้มเปรี้ยวรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของเขาเช่นนั้น แต่เธอก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะลองถามดู” ตำรวจหนุ่มพูดจบก็ยื่นโทรศัพท์มือถือไปให้ตำรวจหญิง
“คุณส้มเปรี้ยวครับ” ตำรวจหนุ่มมองไปที่ส้มเปรี้ยว “คอฟฟี่ คนคนนี้ คุณรู้จักเขาไหม?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของส้มเปรี้ยวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ตำรวจหนุ่มเห็นดังนั้นก็รู้ถึงคำตอบทันที
เขาขยับแว่นตาของตนเองแล้วพูดต่อว่า “ดูเหมือนคุณจะรู้จักสินะครับ คอฟฟี่เป็นคนสาดน้ำกรดคุณมายมิ้นท์ ตอนนี้เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกักตัวไว้ในคุกแล้ว จากคำรับสารภาพของเขา การที่เขาลงมือจัดการกับคุณมายมิ้นท์ นั่นเป็นเพราะได้รับสายโทรศัพท์จากคุณ ในสายนั้นคุณได้ยั่วยุปลุกปั่นเขาอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้คุณยอมรับไหม?”
หัวใจของส้มเปรี้ยวเต้นดังโครมครามราวกับจะทะลุออกมาด้านนอก มือและเท้าของเธอเย็นชา เธอลดเปลือกตาลงครึ่งหนึ่ง ไม่กล้าสบตากับสายตาอันเฉียบแหลมของตำรวจหนุ่ม “ฉันจะไปยอมรับได้ยังไงล่ะคะ ฉันโทรศัพท์หาเขาก็จริง แต่ฉันไม่ยอมรับว่าฉันไปยุยงให้เขาใช้น้ำกรดทำร้ายมายมิ้นท์หรอก”
“แต่จากที่พวกเราตรวจสอบดูแล้ว คุณเกลียดคอฟฟี่มาก นับแต่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายคุณก็ไม่เคยติดต่อกับเขาอีกเลย ในวันนี้จู่ๆ ก็ติดต่อไปหาเขา อีกทั้งยังพูดสิ่งที่มีความหมายลึกซึ้งกับเขาแบบนั้น คุณจะอธิบายว่าอย่างไร?” ตำรวจหนุ่มหรี่ตาขมวดคิ้วมองดูเธอ
จู่ๆ ส้มเปรี้ยวก็เอามือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้ “ฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้นะคะ แต่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับฉันมากเหลือเกิน คู่หมั้นของฉันถอนหมั้น พ่อแม่ของฉันหาพี่สาวจนเจอ และกำลังสานความสัมพันธ์กับพี่สาวของฉันอยู่ จู่ๆ ฉันก็กลายเป็นคนที่โดดเดี่ยวไร้หนทาง ฉันอึดอัดใจและอยากระบายแต่ไม่รู้จะไประบายกับใคร ในตอนนั้นเอง คอฟฟี่ เอ่ยถามด้วยความห่วงใยในกลุ่ม ดังนั้นฉันก็เลยโทรศัพท์ไประบายกับเขา แต่ว่า……”
“แต่ว่าอะไร?” ตำรวจหนุ่มจ้องมาที่เธอ
เสียงร้องไห้ของส้มเปรี้ยวแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “แต่ว่าฉันไม่ได้ไปยั่วยุอะไรเขานะคะ ฉันก็เพียงแค่บอกถึงความคิดและสถานการณ์ของฉันในปัจจุบันออกมา ฉันลองถามคุณดูนะคะ ถ้าคุณเป็นฉันแล้วคุณเกิดเรื่องในชีวิตขึ้นมากมายแบบนี้ คุณจะไม่โกรธไม่เกลียดคนที่ทำร้ายคุณเหรอคะ?”
“โกรธสิครับ” ตำรวจหนุ่มครุ่นคิดอยู่สองสามวินาทีก่อนจะพยักหน้าตอบ
แววตาของส้มเปรี้ยวเป็นประกาย เธอกล่าวขึ้นอีกว่า “ในเมื่อคุณเข้าใจความรู้สึกของฉัน แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าฉันเป็นคนยุยงให้คอฟฟี่ลงมือจัดการกับมายมิ้นท์ล่ะคะ ฉันก็แค่บอกว่าฉันเกลียดมายมิ้นท์ ไม่อยากเห็นหน้าเธออีก แต่ฉันก็ไม่ได้สั่งให้เขาไปจัดการ คอฟฟี่เข้าใจผิดไปเองถึงความหมายของฉัน มันไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยนะคะ”
“ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะกลับไปที่สถานีตำรวจแล้วปรึกษากับหัวหน้าดู คุณพักผ่อนก่อนเถอะ”
เมื่อพูดจบ ตำรวจหนุ่มก็เรียกตำรวจหญิงให้เดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยของส้มเปรี้ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...