คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็คิดว่าเปปเปอร์เต็มใจช่วยส้มเปรี้ยว รู้สึกดีใจก็ถือโอกาสมองมายมิ้นท์ที่อยู่ข้างหลังเปปเปอร์ด้วยสายตาจองหอง ราวกับกำลังพูดว่า‘ดูสิ คุณไม่ยอมปล่อยส้มเปรี้ยว คนอื่นก็ช่วยส้มเปรี้ยวอยู่ดี’
มายมิ้นท์เกือบจะอาเจียนออกมา
เปปเปอร์เห็นพฤติกรรมของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แววตาก็เย็นยะเยือกขึ้น
แต่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กลับไม่สังเกตเห็น จึงพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า:“ง่ายมาก ขอเพียงแค่คุณไปที่สถานีตำรวจ ด้วยสถานภาพของคุณ พวกเขาจะต้องไว้หน้าคุณแน่ ถ้ายังไม่ได้อีก คุณก็ให้ตระกูลชุติเกษมออกหน้า ตระกูลชุติเกษมเป็นครอบครัวชนชั้นสูง พวกเขาเอ่ยปาก ตำรวจจะต้องปล่อยตัวส้มเปรี้ยวแน่”
“เหอะ”เปปเปอร์หัวเราะเย้นหยัน“คุณยังคงให้เกียรติผมจริงๆ ใช่ ผมสามารถช่วยส้มเปรี้ยวได้จริงๆ แต่ว่าทำไมผมต้องทำอย่างงั้นด้วยล่ะ?”
เมื่อคำพูดนี้พูดออกไป ความดีใจบนใบหน้าของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ จู่ๆก็แข็งทื่อ “หมาย……หมายความว่าอะไร?”
มายมิ้นท์ก็มองชายที่อยู่ข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ
ทำไม!?
เขาไม่ช่วยส้มเปรี้ยวแล้วเหรอ?
สายตาของชวนชมเป็นประกาย สองมือประสานกันอย่างตื่นเต้น
เดิมทีหล่อนคิดว่าครั้งนี้ส้มเปรี้ยวจะได้รับความช่วยเหลือจากคุณผู้ชายท่านนี้
คิดไม่ถึงเลยว่าจะกลับตาลปัตร คุณเปปเปอร์ท่านนี้เปลี่ยนใจแล้ว!
“ความหมายก็คือ ผมไม่ช่วยหล่อน!”เปปเปอร์พูดขึ้นอย่างเย้นหยัน
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เบิกตากว้าง“ไม่ช่วยส้มเปรี้ยว?แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้คุณบอกว่า ……”
“ผมพูดตอนไหน?”เปปเปอร์พูดขัดจังหวะหล่อนอย่างรำคาญ“ผมก็แค่ถามว่าจะช่วยยังไง ยังไม่ได้รับปากเลยว่าจะช่วยหล่อนไหม?”
“……”จู่ๆคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็โมโหถึงกับพูดไม่ออก
ใช่ เขาก็แค่ถาม ไม่ได้บอกว่าจะช่วยจริงๆ
หล่อนคิดไปเอง
มองดูท่าทีเศร้าโศกของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ มายมิ้นท์ก็อารมณ์ดีไม่น้อย ความโกรธเปปเปอร์ที่มีอยู่ในใจ ก็จางหายไปจนหมดสิ้น
เมื่อสักครู่นี้เธอตัดสินใจแล้วว่า หากเปปเปอร์ต้องการช่วยส้มเปรี้ยวจริงๆ เธอก็จะยอมพังพินาศไปพร้อมกับเขาที่นี่ แม้ไม่สามารถทำลายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ อย่างน้อยเธอก็จะดึงเขาลงไปตกต่ำด้วยกัน
แต่ว่าโชคดีที่สุดท้ายสมองเขายังใช้การได้อยู่ และไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ
รับรู้ได้ว่าสายตาของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังกลับสู่สภาวะปกติ ไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่นี้ที่แหลมคมขนาดนั้น เปปเปอร์ก็รู้ว่าเธอหายโกรธแล้ว
เขาเหลือบหันไปมองเธอครู่หนึ่ง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า:“ต่อไป ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอีก”
มายมิ้นท์เลิกคิ้ว จากนั้นพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า:“ประธานเปปเปอร์ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องสัญญากับฉัน”
เปปเปอร์มองไปที่เธออย่างตั้งใจ“ไม่ว่าตอนนี้พวกเราจะมีความสัมพันธ์อะไรกันหรือไม่ ผมก็อยากให้คุณรู้ว่า ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ นี่คือคำสัญญาของผม”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ มายมิ้นท์ยังไม่ทันได้ยังไม่แสดงออก คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว
หล่อนชี้ไปที่มายมิ้นท์“เป็นหล่อนใช่ไหม?หล่อนไม่ให้คุณช่วยส้มเปรี้ยวใช่ไหม?”
คำพูดประโยคนี้ทำให้มายมิ้นท์โมโหจนต้องหัวเราะออกมา
นี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?
แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยพูดกับเปปเปอร์มาก่อน
เปปเปอร์ขมวดคิ้วมองคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ด้วยความสงสัย“ไม่เกี่ยวกับมายมิ้นท์ เป็นความต้องการของตัวผมเอง คุณคิดว่าผมจะช่วยคนที่จ้องทำร้ายคนที่ผมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่างั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้‘คนที่ผมรัก’มายมิ้นท์หันศีรษะไปด้านอื่นอย่างอัตโนมัติ ไม่ได้มองไปที่เปปเปอร์
สายตาของเปปเปอร์สังเกตเห็นท่าทีของเธอ แววตาหดหู่ ในใจถอนหายใจครู่หนึ่ง
เธอก็ยังคงไม่เชื่อว่าเขาจริงใจ
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อ้าปาก เสแสร้งตอบกลับไปว่า:“แม้……แม้ว่าส้มเปรี้ยวจะทำแบบนี้ แต่ก็เป็นเพราะว่าหล่อนรักคุณมาก!”
“หล่อนรักผมก็ต้องปลอมตัวเป็นคนที่ผมรัก จากนั้นก็ทำร้ายคนที่ผมรักงั้นเหรอ?บนโลกใบนี้ มีหลักการแบบนี้ที่ไหนกัน!”สีหน้าของเปปเปอร์ขรึมลง พลางถามอย่างฉงน
ร่างกายของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์สั่นเล็กน้อย“ส้มเปรี้ยวผิดไปแล้ว……แต่ว่ามายมิ้นท์ก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ?อีกทั้งคุณกับส้มเปรี้ยวก็อยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน คุณไม่รู้สึกอะไรกับส้มเปรี้ยวบ้างเลยเหรอ?”
“ถ้างั้นผมขอถามคุณหน่อย หากคนรักของคุณไม่ใช่เยี่ยมบุญ แต่เป็นผู้ชายคนอื่น พอเยี่ยมบุญรู้เรื่องเข้าก็ไปทำร้ายผู้ชายคนที่คุณรัก คุณจะยังรู้สึกดีกับเยี่ยมบุญอีกไหม?”เปปเปอร์มองไปที่หล่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...