สรุปเนื้อหา บทที่ 315 รับประทานอาหารด้วยกัน – รักหวานอมเปรี้ยว โดย สายฝน
บท บทที่ 315 รับประทานอาหารด้วยกัน ของ รักหวานอมเปรี้ยว ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สายฝน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เปปเปอร์กดเปลือกตาลงต่ำ“ไม่เป็นไรครับ มาต่อกันเถอะ”
มายมิ้นท์นำโทรศัพท์วางไว้ข้างๆ พลาง อึม หนึ่งที่
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง การอธิบายก็สิ้นสุดลง
มายมิ้นท์ปิดสมุดโน้ตลง พลางเผยรอยยิ้มที่ยากยิ่งให้กับเปปเปอร์ “ขอบคุณประธานเปปเปอร์ ฉันเข้าใจพอสมควรแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปจัดการเองค่ะ”
“อย่างนั้นก็ได้ครับ”เปปเปอร์ลุกขึ้น“พรุ่งนี้ไปตรวจการที่โรงงานตอนเก้าโมงเช้า อย่าสายล่ะ”
“ได้ค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้า
ในเวลานี้ ประตูของห้องประชุมถูกเปิดออก ผู้ช่วยเหมันตร์ลากรถเสบียงเข้ามา บนรถเสบียงมีอาหารจำนวนมาก ไม่นานก็ทำให้ห้องประชุมอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมน่ารับประทาน
มายมิ้นท์กอดสมุดโน้ตไว้ที่หน้าอก“ในเมื่อประธานเปปเปอร์ต้องการรับประทานอาหารกลางวัน ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่รบกวนแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”เปปเปอร์คว้าแขนของเธอไว้“กินข้าวด้วยกันเถอะ”
“ฮ่า?”มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
แววตาของเปปเปอร์เป็นประกายเล็กน้อย“คุณมาประชุมที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัทตระกูลนวบดินทร์คงไม่เหมาะแน่หากแม้แต่ข้าวก็ไม่เลี้ยงคุณ อีกทั้งนี่ก็เป็นเพียงการรับประทานอาหารระหว่างคู่ค้า คุณคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมครับ?”
มายมิ้นท์มองไปที่เขา มุมปากกระตุกอย่างเงียบ ๆ
ความหมายของเขาก็คือ หากเธอปฏิเสธอาหารมื้อนี้ ก็หมายความว่า เธอไม่ให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างพวกเขา?
มือถูกที่หน้าผาก มายมิ้นท์นั่งลงอีกครั้ง“ฉันทราบแล้ว ต้องขอบคุณประธานเปปเปอร์ที่รับรอง”
คิ้วที่ขมวดของเปปเปอร์คลายลง “ ไม่ถึงกับรับรองอะไรหรอกครับ ก็แค่ให้คนสั่งอาหารมานิดหน่อย หวังว่าจะถูกปากคุณนะครับ”
พูดจบ เขาก็นั่งลงอีกครั้ง
ขณะที่ผู้ช่วยเหมันตร์เสิร์ฟอาหารก็กลอกตาในใจ
สั่งอาหารมาอย่างลวกๆสองสามอย่างงั้นเหรอ อาหารพวกนี้เป็นอาหารที่คุณมายมิ้นท์ชอบกินที่สุดอย่างเห็นได้ชัด
อีกทั้งประธานเปปเปอร์ก็น่าสงสารจริงๆ ต้องใช้การบีบบังคับในการแลกเปลี่ยน ถึงจะมีโอกาสกินข้าวกับคุณมายมิ้นท์สักครั้ง
“ให้คุณ”เปปเปอร์ยื่นตะเกียบคู่หนึ่งให้กับมายมิ้นท์
มายมิ้นท์ยื่นมือออกไปรับ“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ลองชิมดูนะครับว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง”เปปเปอร์ชี้ไปที่อาหารที่อยู่บนโต๊ะประชุม เพื่อให้สัญญาณเธอขยับตะเกียบ
มายมิ้นท์ให้เกียรติโดยการคีบอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“เป็นยังไงบ้าง?”เปปเปอร์ถาม
มายมิ้นท์กลืนอาหารที่อยู่ในปาก เงยหน้ามองไปที่เขา มองดูสีหน้ารอคอยของเขาพลางพยักหน้าลง“อร่อยมากค่ะ”
เปปเปอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก และคีบอาหารให้ตนเองนิดหน่อย “ถ้างั้นก็กินเยอะๆนะครับ”
เมนูนี้ไม่มีในเมนูโรงแรม แต่เป็นเมนูบ้านเกิดของแม่มายมิ้นท์ พ่อครัวของโรงแรมไม่เคยทำมาก่อน เขาขอให้พ่อครัวของโรงแรมเรียนรู้และทำทันที เขาจึงเป็นกังวลว่าจะไม่ถูกปากเธอ
แต่ว่าตอนนี้เมื่อดูแล้ว ดูก็ดูพึงพอใจไม่น้อย
มองดูเปปเปอร์เคร่งเครียดกระทั่งผ่อนคลาย ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายศีรษะอย่างทอดถอนใจ
ประธานเปปเปอร์ที่เย็นชาแข็งแกร่งในสายตาคนอื่น แต่ต่อหน้าคุณมายมิ้นท์กลับระมัดระวังอย่างที่สุด
หากคนข้างนอกเห็นเข้า เกรงว่าลูกตาน่าจะหลุดร่วงลงที่พื้น
ระหว่างช่วงรับประทานอาหาร น้อยครั้งมากที่เปปเปอร์จะขยับตะเกียบ ส่วนมากก็คือมาดูมายมิ้นท์กินมากกว่า
มองดูเธอกินจนแก้มป่อง ในใจก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
อีกทั้งมีหลายครั้งที่เขาต้องการคีบอาหารให้กับมายมิ้นท์ แต่เกรงว่าเธอจะปฏิเสธ จึงทำได้เพียงอดกลั้นไว้
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว มายมิ้นท์มองดูเวลา เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว จึงได้เอ่ยปากขอตัว
เปปเปอร์รู้ดีว่าเธอยังต้องไปศาล จึงไม่ได้รั้งให้เธออยู่ต่อ ลุกขึ้นพลางพูดขึ้นว่า:“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ชั้นล่างนะครับ”
มายมิ้นท์เช็ดที่ริมฝีปาก ไม่ได้ปฏิเสธ
เพราะว่าเธอรู้ว่า แม้ว่าเธอจะปฏิเสธ เขาก็คงไปส่งอยู่ดี
ทั้งสองคนมายังลานจอดรถ มายมิ้นท์หยิบกุญแจรถออกมา ขณะที่กำลังจะกดรีโมท เสียงสะอึกสะอื้นก็ดังมาจากด้านหลัง“เปปเปอร์!”
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว หันหลังไปดู
มายมิ้นท์ก็หันหลังไปเช่นเดียวกัน เห็นคนที่มาเป็นคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์และชวนชม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เห็นมายมิ้นท์เช่นเดียวกัน จึงหยุดร้องไห้ พลางจ้องมองเธอด้วยความโมโห“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ก่อนหน้าให้เธอยอมปล่อยส้มเปรี้ยว ตอนนี้มาหาเปปเปอร์ถึงที่นี่
ดีเหมือนกัน เธอก็อยากจะรู้ว่าเขาจะรับปากไหม!
มายมิ้นท์เงยหน้ามองไปยังเปปเปอร์
เปปเปอร์รับรู้ได้ถึงความสงสัยของผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังและพอรู้ว่าทำไมเธอถึงจ้องมองเขาขนาดนี้
ครั้งนี้ เขาสามารถบอกเธอได้อย่างชัดเจนว่า เขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง!
“ให้ผมช่วยส้มเปรี้ยว?”เปปเปอร์ก้มหน้าจัดแขนเสื้อ ทำให้คนมองไม่เห็นสีหน้า
“ใช่ค่ะ”คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์พยักหน้าติดต่อกัน“คุณจะช่วยส้มเปรี้ยวจริงๆเหรอครับ”
หลายวันมานี้ หล่อนแบกหน้าหาคนช่วยมาโดยตลอด หวังว่าจะสามารถช่วยส้มเปรี้ยวออกมาได้ แต่คนเหล่านั้นต่างไม่ยอมช่วย ทำให้หล่อนทั้งโกรธทั้งเกลียด
คนเหล่านั้นสมัยก่อนก็เหมือนหมาพันธุ์ปั๊กที่คอยประจบประแจงหล่อน แต่พอมาตอนนี้หล่อนไปขอร้องพวกเขา แต่พวกเขากลับหลบหน้าหล่อนไปอย่างไกล เสียแรงที่เมื่อก่อนหล่อนพูดชื่นชมพวกเขาต่อหน้าเยี่ยมบุญ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นหมาป่าตาขาว!
แต่แม้ว่าภายในใจจะโกรธก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้เป็นวันพิพากษาคดีของส้มเปรี้ยว และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะสามารถช่วยส้มเปรี้ยวได้ หากพิพากษาคดีแล้วก็จะไม่สามารถช่วยส้มเปรี้ยวได้แล้ว ดังนั้นหล่อนจึงทำได้เพียงขัดคำสั่งของเยี่ยมบุญ เพราะว่าหล่อนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ช่วยยังไง?”เปปเปอร์วางมือลง สายตามองไปยังคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อย่างใจเย็น
ทางด้านหลัง มายมิ้นท์คิ้วย่น
ทำไม!?
เขาจะช่วย?
ชวนชมที่มองดูอยู่อย่างเงียบๆ มองไปยังเปปเปอร์
พ่อบอกว่าคุณเปปเปอร์คนนี้ไม่รักส้มเปรี้ยว กระทั่งอาจจะเกลียดส้มเปรี้ยวด้วยซ้ำ เพราะแอบอ้างเป็นคุณมายมิ้นท์ ดังนั้นก็เลยไม่ช่วยส้มเปรี้ยวงั้นเหรอ?
ไม่งั้นพ่อก็คงไม่ห้ามให้แม่มาพบกับคุณเปปเปอร์ท่านนี้
แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่า จะไม่เหมือนกับที่พ่อพูด คุณเปปเปอร์ท่านนี้ เหมือนกับจะช่วยส้มเปรี้ยว!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ชวนชมกัดริมฝีปากแน่น ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
คุณเปปเปอร์ท่านนี้ตาบอดเหรอ?
ส้มเปรี้ยวมีดีอะไร ทำไมต้องช่วยส้มเปรี้ยวด้วย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...