เปปเปอร์กดเปลือกตาลงต่ำ“ไม่เป็นไรครับ มาต่อกันเถอะ”
มายมิ้นท์นำโทรศัพท์วางไว้ข้างๆ พลาง อึม หนึ่งที่
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง การอธิบายก็สิ้นสุดลง
มายมิ้นท์ปิดสมุดโน้ตลง พลางเผยรอยยิ้มที่ยากยิ่งให้กับเปปเปอร์ “ขอบคุณประธานเปปเปอร์ ฉันเข้าใจพอสมควรแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปจัดการเองค่ะ”
“อย่างนั้นก็ได้ครับ”เปปเปอร์ลุกขึ้น“พรุ่งนี้ไปตรวจการที่โรงงานตอนเก้าโมงเช้า อย่าสายล่ะ”
“ได้ค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้า
ในเวลานี้ ประตูของห้องประชุมถูกเปิดออก ผู้ช่วยเหมันตร์ลากรถเสบียงเข้ามา บนรถเสบียงมีอาหารจำนวนมาก ไม่นานก็ทำให้ห้องประชุมอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมน่ารับประทาน
มายมิ้นท์กอดสมุดโน้ตไว้ที่หน้าอก“ในเมื่อประธานเปปเปอร์ต้องการรับประทานอาหารกลางวัน ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่รบกวนแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”เปปเปอร์คว้าแขนของเธอไว้“กินข้าวด้วยกันเถอะ”
“ฮ่า?”มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
แววตาของเปปเปอร์เป็นประกายเล็กน้อย“คุณมาประชุมที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัทตระกูลนวบดินทร์คงไม่เหมาะแน่หากแม้แต่ข้าวก็ไม่เลี้ยงคุณ อีกทั้งนี่ก็เป็นเพียงการรับประทานอาหารระหว่างคู่ค้า คุณคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมครับ?”
มายมิ้นท์มองไปที่เขา มุมปากกระตุกอย่างเงียบ ๆ
ความหมายของเขาก็คือ หากเธอปฏิเสธอาหารมื้อนี้ ก็หมายความว่า เธอไม่ให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างพวกเขา?
มือถูกที่หน้าผาก มายมิ้นท์นั่งลงอีกครั้ง“ฉันทราบแล้ว ต้องขอบคุณประธานเปปเปอร์ที่รับรอง”
คิ้วที่ขมวดของเปปเปอร์คลายลง “ ไม่ถึงกับรับรองอะไรหรอกครับ ก็แค่ให้คนสั่งอาหารมานิดหน่อย หวังว่าจะถูกปากคุณนะครับ”
พูดจบ เขาก็นั่งลงอีกครั้ง
ขณะที่ผู้ช่วยเหมันตร์เสิร์ฟอาหารก็กลอกตาในใจ
สั่งอาหารมาอย่างลวกๆสองสามอย่างงั้นเหรอ อาหารพวกนี้เป็นอาหารที่คุณมายมิ้นท์ชอบกินที่สุดอย่างเห็นได้ชัด
อีกทั้งประธานเปปเปอร์ก็น่าสงสารจริงๆ ต้องใช้การบีบบังคับในการแลกเปลี่ยน ถึงจะมีโอกาสกินข้าวกับคุณมายมิ้นท์สักครั้ง
“ให้คุณ”เปปเปอร์ยื่นตะเกียบคู่หนึ่งให้กับมายมิ้นท์
มายมิ้นท์ยื่นมือออกไปรับ“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ลองชิมดูนะครับว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง”เปปเปอร์ชี้ไปที่อาหารที่อยู่บนโต๊ะประชุม เพื่อให้สัญญาณเธอขยับตะเกียบ
มายมิ้นท์ให้เกียรติโดยการคีบอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“เป็นยังไงบ้าง?”เปปเปอร์ถาม
มายมิ้นท์กลืนอาหารที่อยู่ในปาก เงยหน้ามองไปที่เขา มองดูสีหน้ารอคอยของเขาพลางพยักหน้าลง“อร่อยมากค่ะ”
เปปเปอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก และคีบอาหารให้ตนเองนิดหน่อย “ถ้างั้นก็กินเยอะๆนะครับ”
เมนูนี้ไม่มีในเมนูโรงแรม แต่เป็นเมนูบ้านเกิดของแม่มายมิ้นท์ พ่อครัวของโรงแรมไม่เคยทำมาก่อน เขาขอให้พ่อครัวของโรงแรมเรียนรู้และทำทันที เขาจึงเป็นกังวลว่าจะไม่ถูกปากเธอ
แต่ว่าตอนนี้เมื่อดูแล้ว ดูก็ดูพึงพอใจไม่น้อย
มองดูเปปเปอร์เคร่งเครียดกระทั่งผ่อนคลาย ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายศีรษะอย่างทอดถอนใจ
ประธานเปปเปอร์ที่เย็นชาแข็งแกร่งในสายตาคนอื่น แต่ต่อหน้าคุณมายมิ้นท์กลับระมัดระวังอย่างที่สุด
หากคนข้างนอกเห็นเข้า เกรงว่าลูกตาน่าจะหลุดร่วงลงที่พื้น
ระหว่างช่วงรับประทานอาหาร น้อยครั้งมากที่เปปเปอร์จะขยับตะเกียบ ส่วนมากก็คือมาดูมายมิ้นท์กินมากกว่า
มองดูเธอกินจนแก้มป่อง ในใจก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
อีกทั้งมีหลายครั้งที่เขาต้องการคีบอาหารให้กับมายมิ้นท์ แต่เกรงว่าเธอจะปฏิเสธ จึงทำได้เพียงอดกลั้นไว้
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว มายมิ้นท์มองดูเวลา เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว จึงได้เอ่ยปากขอตัว
เปปเปอร์รู้ดีว่าเธอยังต้องไปศาล จึงไม่ได้รั้งให้เธออยู่ต่อ ลุกขึ้นพลางพูดขึ้นว่า:“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ชั้นล่างนะครับ”
มายมิ้นท์เช็ดที่ริมฝีปาก ไม่ได้ปฏิเสธ
เพราะว่าเธอรู้ว่า แม้ว่าเธอจะปฏิเสธ เขาก็คงไปส่งอยู่ดี
ทั้งสองคนมายังลานจอดรถ มายมิ้นท์หยิบกุญแจรถออกมา ขณะที่กำลังจะกดรีโมท เสียงสะอึกสะอื้นก็ดังมาจากด้านหลัง“เปปเปอร์!”
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว หันหลังไปดู
มายมิ้นท์ก็หันหลังไปเช่นเดียวกัน เห็นคนที่มาเป็นคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์และชวนชม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็เห็นมายมิ้นท์เช่นเดียวกัน จึงหยุดร้องไห้ พลางจ้องมองเธอด้วยความโมโห“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...