ทามทอยไม่รู้หรอกว่าเปปเปอร์ใจดำขนาดไหน
เขาเดินไปมาด้วยความหงุดหงิดแล้วพูดว่า “ตายแล้ว ตายแน่! ถ้ามายมิ้นท์รู้ว่าZ-Hคือคุณ เธอก็จะรู้ว่าผมช่วยคุณปิดบังความจริงเอาไว้หลายอย่างเลย ทำยังไงดี ผมยังไม่เคยได้เธอมาด้วยซ้ำก็ต้องสูญเสียเธอไปแล้ว”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เปปเปอร์ก็หรี่ตาลงแฝงไปด้วยอันตราย
อยากจะได้มายมิ้นท์เหรอ?
หน้าด้าน หน้าด้านเหลือเกิน
มายมิ้นท์เป็นของเขาเท่านั้น!
“ไม่ได้การละ” ทามทอยหยุดฝีเท้าลงดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ท่าทางของเขาเหมือนกำลังจะเดินออกไปข้างนอก “ผมจะต้องไปหามายมิ้นท์ จะต้องไปขอโทษเธอให้ได้ ต่อให้ตอนนี้เธอเกลียดผม แต่อย่างน้อยผมก็ควรจะทำอะไรบ้าง ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่ติดใจเอาความผมเพราะว่าผมไปขอโทษเธอด้วยตัวเอง”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องผู้ป่วยโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
เปปเปอร์อยากจะเข้าไปห้ามเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน จึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูเขาเดินจากไป
ในตอนแรก เขาก็กังวลว่าเมื่อทามทอยไปขอโทษด้วยตัวเองแล้วมายมิ้นท์จะให้อภัยเขา
แต่ต่อมาเมื่อนึกถึงนิสัยของมายมิ้นท์ เธอไม่ได้เป็นคนจะให้อภัยใครง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลอีก
ด้วยเหตุนี้เอง ต่อให้ทามทอยไปก็คงจะเปล่าประโยชน์
อีกฝั่งหนึ่ง ทามทอยที่เดินทางไปยังคอนโดพราวฟ้าด้วยความรีบร้อน หลังจากกระอึกกระอักอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกดกริ่ง
มายมิ้นท์ที่กำลังเตรียมตัวจะพักผ่อนได้ยินเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น เธอก็เอามือกุมท้องน้อยแล้วเดินไปที่ประตู “ใครคะ?”
“มายมิ้นท์ครับ ผมเอง” น้ำเสียงจากข้างนอกประตูดังขึ้นเป็นเสียงของทามทอย
มือของมายมิ้นท์ที่กำลังจับไปยังลูกบิดประตูชะงักลง สีหน้าของเธอดูสงบนิ่งและเยือกเย็นลงทันใด
ทามทอยเหรอ?
เมื่อเธอนึกได้ว่าทามทอยช่วยเปปเปอร์ปิดบังความลับเอาไว้ มายมิ้นท์ก็โมโหขึ้นทันใด
เธอหลับตาลงแล้วพยายามระงับความโมโหในใจ ก่อนจะพูดด้วยความเยือกเย็นว่า “เป็นคุณเองเหรอคะ กลับไปเถอะ” เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงอันเยือกเย็นและห่างเหินของเธอ ทามทอยก็รู้สึกขมขื่น
เป็นจริงดั่งว่า ระหว่างทางที่มาที่นี่เขาก็พอจะเดาออกว่าเธอจะทำท่าทางอย่างไร คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเยือกเย็น
เธอไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเขาเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร แต่ก็ไล่เขากลับไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากเจอเขาขนาดไหน
“เอ่อคือ มายมิ้นท์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย ช่วยเปิดประตูหน่อยได้ไหม” เมื่อทามทอยเห็นว่าประตูยังคงปิดสนิท เขาก็เอามือถูกันไปมาแล้วเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปาก “มีอะไรค่อยว่ากันทีหลังแล้วกันค่ะ ตอนนี้ฉันไม่อยากฟัง”
“ไม่ได้ครับ จะพูดกันวันหลังไม่ได้ ถ้าอย่างงั้นคงไม่มีความหมาย มายมิ้นท์ครับผมขอร้องช่วยเปิดประตูหน่อยเถอะ” ทามทอยยกมือขึ้นพนมแล้วหลับตา
น้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสมเพช ทำให้ยากที่จะปฏิเสธ
แววตาของมายมิ้นท์เป็นประกายเธอเหมือนกับลังเลอยู่เล็กน้อย
หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาทีในที่สุดเธอก็ยอมเปิดประตูออก “ก็ได้ค่ะฉันจะลองฟังดู คุณอยากจะพูดอะไร?”
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทามทอยก็ลืมตาขึ้นทันใด
มองเห็นมายมิ้นท์อยู่ตรงหน้า เขาก็แสดงท่าทางดีอกดีใจออกมา “มายมิ้นท์ครับในที่สุดคุณก็ยอมเจอผม”
แต่มายมิ้นท์กลับทำสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วพูดว่า “คุณมีเรื่องอยากจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้เชิญพูดได้”
เธอไม่อยากจะเสียเวลามาสนทนากับประโยคอันไร้สาระกับเขา
ทามทอยเองก็เข้าใจและรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้เขาเป็นคนก่อขึ้นมาเอง
ดังนั้นเขาจึงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ทามทอยมองดูเธอและเห็นว่าสีหน้าเธอไม่ดีนัก จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “มายมิ้นท์ครับ ผมได้ยินว่าคุณแท้งลูก ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ที่บ้านผมมีอาหารเสริมอยู่บ้างแล้ววันหลังผมจะ……”
“พูดมาตรงๆ ค่ะ” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วขึ้นแล้วเน้นย้ำอีกครั้ง
ดูเหมือนเธอไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...