รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 37

ไม่นาน ชาหวานก็กลับมาที่ห้องส่วนตัว

ยังไม่ทันเห็นไพ่ตรงหน้ามายมิ้นท์ แค่เห็นรอยยิ้ม “อ่อนโยน” ที่มุมปากของส้มเปรี้ยว ชาหวานก็เดาได้บ้าง

ช่วงเวลาที่เธอออกไป คิดว่ามายมิ้นท์คงแพ้อย่างน่าเวทนา

ชาหวานไปนั่งข้างๆ มายมิ้นท์ กวาดสายตามองไพ่มายมิ้นท์ ยังคงน่าเวทนาเกินกว่าจะดูเหมือนเคย เธอกดเสียงต่ำลง “ประธานมายมิ้นท์ คนที่นั่งตรงข้ามไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่อดีตสามีคุณแอบชอบ คุณจะให้เธอตบหน้าจริงๆ เหรอ?”

“ไม่ต้องกังวล ชนะสามในห้านะ” มายมิ้นท์ยิ้ม ตั้งแต่นั่งในห้องส่วนตัวเล่นไพ่จนถึงตอนนี้ สีหน้าก็ยังสงบเหมือนเดิม

เมื่อตอบชาหวานกลับ มายมิ้นท์ก็ทิ้งไพ่ลงไปอีกครั้ง

“ชนะ” ส้มเปรี้ยวล้มไพ่ตรงหน้าทิ้ง ยิ้มที่ริมฝีปากชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ชาหวาน “……”

“มายมิ้นท์ เธอแพ้ส้มเปรี้ยวสองตาแล้ว ฉันว่าไม่จำเป็นต้องเล่นแล้ว” เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ ส้มเปรี้ยวทำเสียงฮึดฮัด โอ้อวดหยิ่งผยอง “ส้มเปรี้ยวของเราไม่ใช่คนขี้เหนียว เธอขอโทษหล่อนซะ เราจะเชิญช่างสักที่ดีที่สุดมาช่วยเธอลบรอยสักนั้น”

ส้มเปรี้ยวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปที่มายมิ้นท์ ดูเหมือนกำลังรอเธอก้มศีรษะยอมรับความพ่ายแพ้ น้ำเสียงก็สุภาพอ่อนโยน

“คุณมายมิ้นท์ ยังเล่นไหมคะ?”

“เล่น” มายมิ้นท์ดันไพ่นกกระจอกเข้าไปในเครื่อง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “ตกลงกันว่าชนะสามในห้า”

เพื่อนสาวของส้มเปรี้ยวกลอกตาใส่เธอ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้โอกาสยอมแพ้เธอไม่ยอม ต้องแพ้คาที่สินะ! ส้มเปรี้ยวเราเล่นไพ่เก่งมาก เธอเล่นชาติหนึ่งก็ชนะเธอไม่ได้หรอก!”

“เอาล่ะ” ส้มเปรี้ยวเปล่งเสียงห้าม สายตาที่มองไปทางมายมิ้นท์นั้นมีความภูมิใจ “ในเมื่อคุณมายมิ้นท์อยากเล่น ฉันก็จะเล่นเป็นเพื่อนแน่นอน”

เริ่มต้นตาใหม่อย่างรวดเร็ว

เพราะห้องส่วนตัวล้วนมีแต่ผู้หญิง เวลาเล่นไพ่ทุกคนก็ปากไม่ว่าง กินไปด้วยคุยเล่นไปด้วย

เพื่อนสาวคนนั้นของส้มเปรี้ยวชื่อว่าขนมผิง ทางซ้ายมือคือมายมิ้นท์ ทางขวามือคือเกศวดี

ขนมผิงไม่ได้แค่ดูไพ่ แต่ยังปอกส้มไปด้วย และส่งให้เกศวดีอย่างเอาอกเอาใจ “พี่เกศ ครั้งนี้พี่กลับมาอยู่เมืองเดอะซีนานเท่าไร? ฉลองปีใหม่ที่นี่ไหม?”

“ปีหน้ากลับเมืองน้ำรุ้ง” เกศวดีโยนไพ่ได้เสียงดังเป็นพิเศษ ขมวดคิ้วพูดขึ้น “เลอแปงอยากหย่ากับฉัน กลับมาเมืองเดอะซีตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อหาทนายความ”

ขนมผิงก็ตกใจเพราะเธอ พูดจากลายเป็นระมัดระวังอย่างมาก “ตอนแรกตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ขอร้องปู่คุณ ให้เลอแปงแต่งงานกับคุณไม่ใช่เหรอ? ใช้ประโยชน์จากตระกูลเสนาประกรของพวกคุณทำสิ่งต่างๆ สำเร็จไม่น้อย เขากล้าหย่ากับคุณได้ไง?”

“ก็ไม่ใช่……” พูดได้ครึ่งหนึ่ง เกศวดีนึกถึงอะไรบางอย่างได้ ก็ไม่ได้พูดต่อ แค่หัวเราะเยาะ “เฮอะ ฉันไม่ใช่คนที่เขาอยากแต่งก็แต่ง อยากหย่าก็หย่าหรอกนะ ฉันอยากดูสิว่าทนายคนไหนในเมืองเดอะซีจะกล้ารับคดีฟ้องหย่านี้!”

มายมิ้นท์ฟังเงียบๆ ดวงตาผลุบลงเล็กน้อย

ตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ในเมืองเดอะซีเธอเข้าใจไม่มาก เพราะครอบครัวประเภทนี้ทำตัวต่ำต้อยมาก แค่รู้ว่าผลกระทบของตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ในเมืองเดอะซีนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ต่างอะไรจากตระกูลเสนาประกรในเมืองน้ำรุ้งมากนัก

“……”

เห็นมายมิ้นท์ไม่พูดอยู่ตลอด เสียงขนมผิงก็ยิ่งแหลมขึ้นเรื่อยๆ แถมยังเอามือมาผลักมายมิ้นท์นิดหน่อย “คุณมายมิ้นท์ ทำไมเธอไม่พูดล่ะ?”

“เธอรู้ได้ไงว่าตอนประธานมายมิ้นท์แต่งงานไม่ได้สวมชุดแต่งงาน เธอไปร่วมพิธีแต่งงานของประธานมายมิ้นท์เหรอ?” ชาหวานเห็นมายมิ้นท์ถูกรังแกแบบนี้ ก็มองต่อไปไม่ไหว “และพี่สาว คำพูดเธอมีปัญหานะ”

ขนมผิงหัวเราะเยาะ “เธอแต่งงานไม่ได้สวมชุดแต่งงาน จะไม่ให้คนพูดถึงเหรอ? อีกอย่างคำพูดฉันมีปัญหายังไง?”

“ทุกคนรู้กันหมดว่าประธานมายมิ้นท์กับประธานเปปเปอร์ในอดีตเป็นสามีภรรยากัน พี่สาวพูดแบบนี้ จะแอบแฝงเสียดสีคุณส้มเปรี้ยวว่าเลือกได้แค่สามีมือสองของเธอหรือไง” ชาหวานน้ำเสียงสุภาพอ่อนโยน สีหน้าแววตาก็ไร้เดียงสา

พูดจบก็เหลือบมองไปทางส้มเปรี้ยว “คุณส้มเปรี้ยว คุณไม่คิดงั้นเหรอ?”

ขนมผิงไม่คิดว่าชาหวานจะกะล่อนแบบนี้ เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าส้มเปรี้ยวก็เรียบเฉยแล้ว ทั้งร่างก็ตื่นตระหนก “ส้มเปรี้ยว ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ ฉันไม่ได้คิดว่าประธานเปปเปอร์เป็นสามีมือสองของคุณ……”

ชาหวานหัวเราะคิกคักออกมา ปิดริมฝีปากแดง “เธอบอกไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่ยังพูดอีกว่าประธานเปปเปอร์เป็นสามีมือสอง มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”

“……” ขนมผิงโกรธจนหน้าเขียวไปหมดแล้ว

มายมิ้นท์เดิมทีอารมณ์ตกต่ำ ไม่อยากสนใจขนมผิง แต่ไม่คิดว่าชาหวานจะช่วยตนพูด

เธอยกริมฝีปากแดงขึ้น กำลังจะพูด ตอนที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออกพอดี เงาร่างสูงหนึ่งก็เดินเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว