ในตอนที่มายมิ้นท์ตื่นขึ้นมาในยามเช้า ยังมีอาการเมาค้างและปวดหัวอยู่เล็กน้อย
เธอลุกขึ้นมานั่งกุมขมับอยู่บนเตียง ผ้าห่มจึงไหลลงมาตามร่างกาย ไม่นานเธอก็รู้สึกเย็นวาบ เมื่อก้มหน้ามอง จึงพบว่าตัวเองสวมใส่แค่เสื้อกล้าม!
เกิดอะไรขึ้น?
ในตอนที่มายมิ้นท์กำลังจะเปิดผ้าห่มออกเพื่อลงจากเตียง หางตาก็เหลือบไปเห็น ผู้ชายอีกคนที่นอนหนุนหมอนอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มหลับสนิทอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน ปอยผมละหน้าผาก ขับให้โครงหน้าหล่อเหลาโดดเด่น เธอตกใจเบิกตาโพลง นั่งเงียบอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน
เมื่อคืนเหมือนเธอจะดื่มเยอะ จนหมดสติไป แต่เหมือนได้ยินเสียงของเปปเปอร์รางๆ.....
หรือว่าเมื่อวานเธอถูกกระตุ้นอารมณ์อย่างหนัก เลยหาผู้ชายมานอนด้วย?
แค่คิดว่าตัวเองนอนกับคนแปลกหน้า มายมิ้นท์ก็แทบไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆ
เธอหยิบเสื้อผ้าบนเก้าอี้มาเปลี่ยน กำลังจะหยิบกระเป๋ามาเพื่อทิ้งเงินเอาไว้ กลับหากระเป๋าไม่เจอ
ในตอนที่หยิบกระดาษขึ้นมาเพื่อทิ้งเบอร์เอาไว้แทน กลับพบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์เขียนอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกลัวเธอตื่นขึ้นมาแล้วชิ่งหนีหรือเปล่า ถึงได้เขียนเบอร์เอาไว้แบบนี้
มายมิ้นท์พับกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋า แล้วรีบออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วราวกับกำลังหนี
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่กลับมาอาบน้ำที่บ้านมายมิ้นท์ก็เรียกรถไปที่บริษัท สติของเธอยังไม่กลับมาเต็มที่ เธอยังคงตกอยู่ในภวังค์แห่งการ “เสียตัว”
“ประธานมายมิ้นท์มาแล้ว!”
ในตอนที่มายมิ้นท์ลงจากแท็กซี่ ยังยืนได้ไม่คงที่ ก็มีนักข่าวพุ่งเข้ามาล้อมเธอเอาไว้ทั่วทุกทิศทาง พร้อมกับมีแสงแฟลชสาดใส่หน้าของเธอ
“ประธานมายมิ้นท์ ผู้ชายในคลิปเสียงนั่นคือใครเหรอครับ?”
“เสียงนั้น เหมือนจะไม่ใช่เสียงของนายแบบคนก่อนหน้านี้นะ รบกวนคุณอธิบายทีค่ะ!”
“ประธานมายมิ้นท์ คุณมาที่เทนเดอร์กรุ๊ปเพื่อทำงาน หรือเพราะว่าตำแหน่งรองประธานสามารถเอื้อประโยชน์ให้คุณตกเหยื่อผู้ชายได้สะดวก?”
“.........”
คำถามเฉียบแหลมของเหล่านักข่าวถูกพ่นออกมาเป็นชุดราวกับลูกกระสุน
แม้จะไม่รู้ว่าคลิปเสียงที่พวกนักข่าวพูดถึงคืออะไร แต่มายมิ้นท์ก็สามารถควบคุมสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ยอมให้พวกเขาจับสังเกตความผิดปกติได้แม้แต่นิดเดียว พร้อมกันนั้นก็ดันพวกเขาออก เพื่อจะได้เดินออกมาจากวงล้อม
“ขอโทษนะคะ กรุณาหลีกทางด้วยค่ะ”
“ประธานมายมิ้นท์ที่คุณไม่กล้าตอบคำถาม เพราะว่าร้อนตัวใช่ไหมล่ะ?” มีนักข่าวเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าที่คุณกับประธานเปปเปอร์หย่ากัน ก็เป็นเพราะว่าชีวิตส่วนตัวคุณปล่อยเนื้อปล่อยตัวใช่ไหม?”
“..........”
ในตอนนี้เอง ลาเต้ก็เบียดนักข่าวทั้งหลายเข้ามา แล้วโอบมายมิ้นท์เอาไว้เสมือนผู้พทักษ์ดอกไม้ จากนั้นก็เอ่ยแขวะนักข่าวคนนั้นว่า “คุณพูดว่าได้ยินมา แล้วมันใช่เรื่องจริงไหมล่ะ? งั้นถ้าผมได้ยินมาว่าคุณเป็นGAY คุณคิดว่าคุณเป็นไหมล่ะ?”
นักข่าวคนนั้นถูกลาเต้เอ่ยแขวะจนหน้าดำคล้ำเครียด
ลาเต้มองบนใส่ พร้อมกับปัดไมค์ของนักข่าวที่ยื่นเข้ามาออก พลางเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “เสียงผู้ชายในคลิป คือผมเอง ถ้าไม่เชื่อพวกคุณก็ลองเอาเสียงผมไปเทียบดูสิเดี๋ยวก็รู้เองล่ะ”
“มายมิ้นท์คือแฟนของผม พวกเรากำลังคบกันอยู่ เธอก็แค่ไม่อยากเปิดเผย ส่วนเรื่องที่พวกคุณบอกว่าเธอคบหากับราเม็ง ก็แค่เรื่องไร้สาระเท่านั้น! พวกเรากับราเม็งเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนไปกินข้าวด้วยกันแล้วมันทำไม?”
“แล้วก็ แฟนผมกับประธานเปปเปอร์หย่ากันด้วยดี ส่วนเรื่องมือที่สาม.....” ลาเต้ยิ้มหึออกมา “พวกคุณไปถามประธานเปปเปอร์ไม่ดีกว่าเหรอ ยังไม่แต่งงานก็วิ่งแจ้นไปเฝ้าผู้หญิงอีกคนที่โรงพยาบาลทุกวัน แบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?”
“เอาล่ะๆ เรื่องที่ควรพูดผมก็พูดมาหมดแล้ว ตอนนี้แยกย้ายได้แล้ว!” ลาเต้ผลักนักข่าวพวกนั้น แล้วเดินฝ่าวงล้อมออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...