ลาเต้ ลุกขึ้นมา เทไวน์แดงให้ภาคิน แล้วพูดว่า "ประธานภาคินพูดติดตลกแล้ว " ตอนที่มิ้นท์ของเราหย่า อดีตสามีของเธอไม่ให้เงินเธอเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว ขี้เหนียวเหมือนพ่อไก่ขนเหล็ก ดังนั้นเขาจะมาช่วยมิ้นท์ของเราได้อย่างไรกันล่ะครับ"
"ไม่ให้เงินเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียวหรอ?" ภาคินมองไปที่มายมิ้นท์ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย"
"ก็ใช่น่ะสิครับ ไม่เพียงแต่จะไม่ให้เงิน แม้แต่บ้านกับรถก็ไม่มี ดังนั้นประธานภาคินช่วยสงสารมิ้นท์ของเราสักครั้ง แล้วขายบริษัทดีย์คูเปอร์ให้กับมิ้นท์ของเราได้หรือเปล่าครับ?” ลาเต้ โอบไหล่ของมิ้นท์เอาไว้
มายมิ้นท์ปัดมือของเขาลง แล้วพูดว่า "ประธานภาคิน คุณอย่าไปฟังคำพูดเหลวไหลของเขาเลยนะคะ เป็นเพราะว่าฉันไม่ต้องการอะไรเลยเองค่ะ"
พอภาคินยกแก้วไวน์ ขึ้นกำลังจะดื่ม ไม่ไกลมากนัก ก็มีใช้อยู่ที่ดูเหมาะสมกันมากกำลังความแขนเดินมาทางนี้
"ประธานภาคิน ที่แท้คุณก็อยู่ที่นี่นี่เอง แถมคุณมายมิ้นท์กับคุณลาเต้ก็อยู่ที่นี่ด้วย ช่างน่าบังเอิญจริงๆ" ส้มเปรี้ยว กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน ลาเต้ยืดเอวขึ้นบิดขี้เกียจ" ไม่บังเอิญหรอก ผมเองก็ไม่อยากเห็นพวกคุณเลยสักนิด"
ใบหน้าของส้มเปรี้ยวแข็งทื่อไปชั่วครู่ และไม่นานก็จัดระเบียบสีหน้าให้ดีอีกครั้ง แล้วพูดว่า "ทำไมคุณลาเต้ถึงได้พูดจาไม่เกรงอกเกรงใจกันขนาดนี้คะ"
ในขณะที่ลาเต้กำลังใช้มือทั้งสองข้างกอดหลังศีรษะอยู่ ก็หมุนเก้าอี้อย่างสบายใจเราพูดว่า "ช่วยไม่ได้ สำหรับคนที่ไม่ชอบ ผมก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดแหละ ใครใช้ให้คุณส้มเปรี้ยวเป็นหนึ่งในนั้นล่ะ"
"คุณ......" ส้มเปรี้ยวโกรธจนหน้าซีดไปหมดแล้ว
เปปเปอร์กอดเธอไว้ในอ้อมแขน ความกดอากาศต่ำ ก็กระจายไปทั่วร่างกาย
เมื่อมายมิ้นท์เห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขา ก็ดึงลาเต้มา แล้วพูดว่า " พอได้แล้ว หยุดแค่นี้เถอะ อย่าลืมสิ่งที่ฉันบอกกับคุณในตอนกลางวันสิ"
"วางใจเถอะ ผมรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร" ลาเต้ยักไหล่
ภาพที่ทั้งสองคนเอาศีรษะแนบชิดแล้วพูดคุยกันช่างขัดลูกตาเกินไปแล้ว
เปปเปอร์ปล่อยส้มเปรี้ยว แล้วมองไปทางภาคิน และพูดว่า "ประธานภาคิน ข้อเสนอการรับซื้อที่ผมเสนอไปในครั้งก่อน คุณพิจารณาแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ?"
"ผมยังพิจารณาอยู่" ภาคินชี้มายมิ้นท์ไปมา "อดีตภรรยาของคุณก็อยากรับซื้อบริษัทดีย์คูเปอร์ของผมเหมือนกัน เธอกำลังเจรจากับผมอยู่ และยื่นข้อเสนอเดียวกันกับคุณด้วย ผมยังนึกว่าคุณเป็นคนออกความคิดให้เธอด้วยล่ะ"
นัยน์ตาของเปปเปอร์เปล่งประกายแวววาวขึ้นมาอย่างไร้ร่องรอยสักพัก "ไม่ใช่หรอกครับ ผมตั้งใจจะซื้อบริษัทของคุณให้ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะมอบให้คนอื่นหรอกครับ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มายมิ้นท์ก็ฉีกมุมปากขึ้น และความสงสัยที่อยู่ในหัวใจก็มลายหายไปแล้วอย่างสมบูรณ์
ก็ใช่นะ เขาเกลียดเธอ เขาจะมาช่วยเธอได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่าความคิดนี้ใครๆก็คิดได้ ในเมื่อเขาสามารถคิดข้อเสนอนี้ได้ แล้วทำไม Z-H จะคิดไม่ได้ล่ะ?
พอสายตาเหลืบมองไปเห็นความโล่งใจที่อยู่บนใบหน้าของมายมิ้นท์ คิ้วของเปปเปอร์ก็ผ่อนคลายลง
เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งนานแล้วว่าการที่เธอมาหาภาคิน จะทำให้เธอสงสัยในตัวตนของ Z-H เป็นแน่
ดังนั้นเขาจึงมุ่งเดินมาทางนี้โดยเฉพาะ แล้วพูดคำพูดเหล่านั้นเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งจุดประสงค์ก็คือ เพื่อที่จะปัดเป่าความสงสัยของเธอออกไปให้หมด
"ช่างไม่บังเอิญจริงๆนะคะประธานเปปเปอร์ ฉันก็ตั้งใจจะซื้อบริษัทดีย์คูเปอร์ให้ได้เหมือนกัน" มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้น แล้วมองหน้ากันกับเปปเปอร์
เปปเปอร์ทำสีหน้านิ่ง และพูดอย่างเมินเฉยว่า "เหรอ? งั้นก็มาดูกันว่าประธานภาคินจะเลือกบริษัทไหน!"
“ยังต้องบอกอีกเหรอ จะต้องเป็นเทนเดอร์กรุ๊ปของเราแน่นอนอยู่แล้ว" ลาเต้เอามือไปวางไว้บนเก้าอี้ที่ยู่หลังมายมิ้นท์
ส้มเปรี้ยวทัดจอนผมไว้ที่หูเล็กน้อย แล้วยิ้มเบาๆ “ถ้าว่ากันตามการชั่งน้ำหนักในการเลือกแล้ว บริษัทตระกูลนวบดินทร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนเทนเดอร์กรุ๊ปอยู่บนขอบหน้าผาแล้ว จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลย ประธานภาคินคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ?”
มายมิ้นท์วางแก้วไวน์ลง และทำสีหน้าขรึมลง แล้วพูดว่า “คุณส้มเปรี้ยว คุณไม่รู้จักว่าอะไรมาก่อนมาหลังหรือไง? นี่คือโต๊ะเจรจาของเทนเดอร์กรุ๊ป คุณมาทำให้ประธานภาคินปฏิเสธเทนเดอร์กรุ๊ปโดยไม่ได้รับเชิญ เกรงว่าพฤติกรรมนี้จะไม่ค่อยดีนักใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้ว” ลาเต้มองเปปเปอร์ด้วยสีหน้าที่เย้ยหยัน “ประธานเปปเปอร์คู่หมั้นของคุณไม่เข้าใจธรรมเนียม และทำผิดกฎในการปฏิบัติตนของการทำธุรกิจ คุณก็น่าจะไม่สามารถไม่เข้าใจเหมือนกันใช่ไหมครับ?”
การเยาะเย้ยถากถางที่ไม่เหมือนคนทั่วไปของเขา ทำให้เปปเปอร์ที่ได้ยินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเป็นอย่างมาก จึงดึงมือของส้มเปรี้ยวให้ลุกขึ้น แล้วพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
ส้มเปรี้ยวกัดริมว่า “เปปเปอร์ ฉัน...ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ต่อไปก็ให้ระมัดระวังมากกว่านี้ก็พอแล้ว”
แล้วทั้งสองก็จูงมือกันเดินจากไป
ลาเต้เบ้ปากลง “เปปเปอร์ยังคงปกป้องส้มเปรี้ยวจนใกล้จะไม่มีขีดจำกัดแล้วจริงๆ”
หัวใจของมายมิ้นท์รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา เธอจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
ส้มเปรี้ยวคอคนที่มีค่าที่สุดในหัวใจของเปปเปอร์
ไม่ปกป้องเธอแล้วจะไปปกป้องใครเล่า?
ภาคินจิบไวน์ไปหนึ่งคำ แล้วพูดว่า “รองประธานมายมิ้นท์ได้มีความแค้นกับอดีตสามีของคุณหรือเปล่า?”
มายมิ้นท์จัดการอารมณ์ให้ดี แล้วยิ้มเบาๆ “ยังไม่ถึงขั้นมีความแค้นหรอกค่ะ ก็แค่มีเรื่องบาดหมางใจกันเล็กน้อยเท่านั้น เอาล่ะค่ะประธานภาคิน เรามาเจรจากันต่อเถอะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...