แต่ว่าที่มีเยอะกว่า ก็ยังคงเป็นดีใจ
ในเมื่อสภาพที่เธอไม่ได้ใส่เสื้อใน หน้าตาทรุดโทรม เขาไม่ได้เห็น
“ดีจริง ๆ!” พอคิดได้แบบนี้ มายมิ้นท์ก็ลูบหน้าตัวเองเล็กน้อย จากนั้นก็วางโทรศัพท์ลง แล้วออกจากห้องไป และมองไปที่โต๊ะรับแขกตรงหน้าโซฟา บนนั้นมีถุงที่งดงามอยู่จริง ๆ ด้วย เป็นถุงใส่ของของแป๊ะกิมเล้ง
แป๊ะกิมเล้งเป็นร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองเดอะซี แล้วก็มีมาตรฐานสูงที่สุดด้วย ได้ยินมาว่าพ่อครัวใหญ่ของที่นั่น เคยทำอาหารในงานเลี้ยงระดับประเทศมาแล้ว
เพราะฉะนั้นเมนูอาหารในแป๊ะกิมเล้ง ล้วนเลิศรสกันทั้งนั้น
แต่เป็นเพราะว่าสถานะของเธอยังไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถมีบัตรสมาชิกได้ ก็เลยเข้าไปในแป๊ะกิมเล้งไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่เคยได้กินอาหารของแป๊ะกิมเล้งมาก่อนเลย
มาวันนี้ได้พึ่งใบบุญของเปปเปอร์ จึงมีโอกาสจะได้ลิ้มลองสักหน่อยแล้ว
มายมิ้นท์เดินเข้าไป หยิบถุงขึ้นมาแล้วเดินมาที่โต๊ะอาหาร แล้วเปิดถุงออก แล้วกลิ่นหอมที่ทำให้คนน้ำลายไหลตามก็ล่องลอยเข้ามาใส่จมูกในพริบตา
เธออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอไป และการแกะกล่องก็เพิ่มความเร็วขึ้นมาไม่น้อย
อาหารเช้าเลิศหรูมาก ทั้งฮะเก๋าทั้งเกี๊ยว โจ๊กซีฟู๊ดและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีหลากหลายมาก
แต่ว่ามันเยอะเกินไปแล้ว เธอกินคนเดียว ไม่มีทางกินหมดแน่
และที่สำคัญเธอรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าอาหารเช้าชุดนี้ไม่ใช่แค่ส่วนของเธอกินคนเดียวแน่ ๆ น่าจะต้องมีของเปปเปอร์ด้วยแน่นอน
เพียงแต่เป็นเพราะว่าเขามีงานเขามากะทันหัน เพราะฉะนั้นก็เลยกลายเป็นของเธอคนเดียวไปเลย
ซึ่งก็ถือได้ว่า เธอได้เก็บตกส้มหล่นมาเลยใช่ไหม
ส่ายหน้าแล้วยิ้มไปทีหนึ่ง มายมิ้นท์ก็เอาตะเกียบขึ้นมา แล้วเริ่มกินอาหารไป
อีกด้านหนึ่ง ที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ เปปเปอร์ประชุมเสร็จแล้วและเดินออกมาจากห้องประชุม ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ถือโทรศัพท์ของเขาไว้แล้วเดินเข้ามาหา “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณมายมิ้นท์ตื่นแล้วครับ และได้ส่งข้อความมาให้คุณแล้วครับ”
พอได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเปปเปอร์ก็มีประกายกะพริบขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง “เอามาให้ฉัน”
เขาคว้าโทรศัพท์มา แล้วก็เห็นข้อความของมายมิ้นท์เลย
เรียวปากของเปปเปอร์คลี่ออกเล็กน้อย แล้วกดเข้าไปอ่านดู ในนั้นมีแค่ตัวหนังสือธรรมดาแค่ไม่กี่ตัว :แล้วเจอกันตอนค่ำค่ะ!
สำหรับเปปเปอร์แล้ว ก็ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้ว
เพราะว่า เธอตอบกลับมาว่าเจอกันตอนค่ำ ก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นว่า ตัวเธอเองก็คาดหวังที่จะได้เจอกับเขาตอนค่ำเหมือนกัน
พอเก็บโทรศัพท์เข้าไปแล้ว เปปเปอร์ก็ก้าวเท้าเดินไปทางห้องทำงาน และผู้ช่วยเหมันตร์ก็ตามอยู่ด้านหลังเขา “ประธานเปปเปอร์ครับ ตอนที่คุณประชุมอยู่นั้น ทางคุณชายปีโป้ได้ส่งข่าวมาครับ”
“ข่าวอะไร?” เปปเปอร์ไม่ได้หยุดฝีเท้าลง ยังคงเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อย ๆ
น้ำเสียงของผู้ช่วยเหมันตร์ไม่รีบร้อนอะไร คิดว่าก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญหรือว่าเรื่องรีบร้อนอะไรแน่
ดังนั้น เขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะไปใส่ใจมากนัก
“คุณชายปีโป้โทรศัพท์มา บอกว่าการแข่งขันบาสเกตบอลถ้วย U17ใกล้จะถึงรอบตัดสินแล้ว ก็เลยอยากให้คุณรวมทั้งพวกท่านย่าไปดูการแข่งขัน ไปช่วยเชียร์เขาที่ขอบสนามครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบกลับมา
เปปเปอร์ยังคิ้วเล็กน้อย “ไปเชียร์ขอบสนามเหรอ? เขานี่ช่างเอ่ยขอเป็นจริง ๆ”
ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มทีหนึ่ง “ในเมื่อก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ก็มักจะชอบให้คนในครอบครัวมาคอยให้กำลังใจอยู่แล้วครับ”
“รอบตัดสินแข่งเมื่อไหร่?” เปปเปอร์ผลักประตูห้องทำงานของตัวเองออกแล้วเดินเข้าไป
ผู้ช่วยเหมันตร์เดินตามมาข้างหลังตอบขึ้นมาว่า “อีกครึ่งเดือนครับ วันที่หนึ่งเดือนหน้าพอดีครับ”
เปปเปอร์ค่อย ๆ เชิดคางขึ้นมา “บอกปีโป้ไปว่า ถ้าวันนั้นไม่ยุ่งละก็ ฉันจะไป แต่ถ้าฉันยุ่ง ก็จะให้พวกท่านย่าไปกันเอง”
“ได้ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้ารับคำไป
เปปเปอร์ดึงเก้าอี้นั่งลงไป “อ๋อ ใช่แล้ว ยังไม่มีข่าวองอาจอีกเหรอ?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ถอนหายใจทีหนึ่ง “ราเม็งเก็บซ่อนเบาะแสขององอาจไว้อย่างดีมาก แฮกเกอร์ของเราหาเบาะแสไม่เจอเลยแม้แต่นิดเดียว ผมคิดว่าราเม็งอาจจะจับตัวองอาจได้แล้ว แต่ว่าคงจะเอาองอาจไปขังไว้ในที่ที่ห่างไกลจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนทั้งหมด เพราะฉะนั้นแฮกเกอร์ของเราก็เลยหาไม่เจอครับ”
คำพูดนี้ทำให้ใบหน้าของเปปเปอร์เคร่งขรึมลง “เขานี่ช่างซ่อนคนเก่าจริง ๆ เลยนะ”
“ก็ใช่นะซิครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์เองก็พูดขึ้นมาอย่างรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...