ตอน บทที่ 624 ให้ผมกอดหน่อย จาก รักหวานอมเปรี้ยว – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 624 ให้ผมกอดหน่อย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ รักหวานอมเปรี้ยว ที่เขียนโดย สายฝน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
มายมิ้นท์เอื้อมมือไปรับมา “ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกันค่ะ”
“เอาล่ะครับ รีบเป่าผมให้แห้งแล้วก็ไปนอน เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา” เปปเปอร์กำชับ
มายมิ้นท์ตอบรับเบาๆ แล้วเดินตรงไปเป่าผมของเธอ
เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นมองเธอโดยไม่ละสายตา
มายมิ้นท์ถูกเขามองเสียจนรู้สึกไม่เป็นตัวเอง ก่อนที่จะหยุดการกระทำในมือลง “มองฉันทำไม?”
“ก็คุณสวย” เปปเปอร์ยืดตัวตรงแล้วตอบด้วยท่าทางจริงจัง
มายมิ้นท์ถูกเขาชมขึ้นมาเช่นนี้ ใบหน้าของเธอจึงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “ประหลาดคน!”
เธอหันศีรษะไปไม่สนใจเขา ไม่อย่างนั้นประเดี๋ยวเขาคงจะพูดจาหยอกล้อแบบนี้ออกมาอีก
แต่จู่ๆ เปปเปอร์ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปทางมายมิ้นท์
เขาเดินตรงไปหยุดอยู่ด้านหลังของเธอแล้วยกมือขึ้น คว้าไดร์เป่าผมในมือของเธอเอาไป
มายมิ้นท์ตกตะลึง “คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“ผมจะช่วยเป่าผมให้คุณไง” เปปเปอร์พูดจบก็แย่งไดร์เป่าผมในมือของเธอเอาไปถือไว้
มายมิ้นท์หันหลังกลับมาแล้วเอื้อมมือไปแย่งไดร์เป่าผมในมือของเขา “ไม่ต้องค่ะ เรื่องเเค่นี้ฉันทำเองได้”
“ไม่เป็นไรครับ เมื่อตอนบ่ายคุณช่วยผมเช็ดผมจนแห้งแล้ว ตอนนี้ผมจะช่วยเป่าผมให้คุณ ถือว่าหายกัน”
เมื่อพูดจบเขาก็กดปุ่มปรับลมร้อน เสียงจากพัดลมของไดร์เป่าผมดังขึ้นไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธเลย
มายมิ้นท์เห็นดังนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเธอทำได้เพียงหันกลับไปและให้เขาเป่าผม
เปปเปอร์ยืนหยุดอยู่ข้างหลังเธอ เขาสูงกว่าเธอไม่น้อย ดังนั้นการเป่าผมเธอให้จึงเป็นเรื่องง่ายมาก แม้ว่าเขาจะมีเพียงแค่มือข้างเดียวในตอนนี้ที่สะดวก แต่ก็ทำหน้าที่ให้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ระหว่างที่เป่าผมอยู่นั้น ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่โตนี้มีเพียงแค่เสียงของไดร์เป่าผมเท่านั้น
จนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบกว่านาทีต่อมา เปปเปอร์เห็นว่าผมของมายมิ้นท์แห้งสนิทแล้วจึงได้ปิดไดร์เป่าผม แล้วนำไปวางไว้ด้านข้างก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เสร็จแล้วครับ”
มายมิ้นท์สัมผัสไปที่ผมของเธอ แห้งแล้วจริงๆ ด้วย ในขณะที่เธอกำลังจะหันกลับไปขอบคุณเขา ก็พบว่ามีบางอย่างที่อบอุ่นเข้ามาปะทะกับแผ่นหลังของเธอ
เป็นหน้าอกของชายหนุ่มนั่นเอง
ทันทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอื้อมมือมากอดเธอ มือใหญ่ของเขาโอบไปที่เอวของเธอและนำคางวางไว้บนไหล่ของ เขาหอมซอกคอของเธอจากด้านข้าง พูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มแหบแห้งว่า “หอมจัง”
ร่างกายของมายมิ้นท์เกร็งจนแข็งทื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินประโยคนี้ของเขาก็ทำให้เธอเกร็งเข้าไปอีก
จู่ๆ เธอก็นึกถึงฉากที่มักจะเห็นในละครทีวีที่ตัวเอกเหมือนกับพวกเขา คือในตอนนี้ชายหนุ่มโอบหญิงสาวจากทางด้านหลัง และเอ่ยชมว่าร่างกายของเธอหอม หลังจากนั้นเขาก็จัดการทำเรื่องอย่างว่ากับหญิงสาว
ดังนั้นตัวเธอในตอนนี้ก็กลัวเหลือเกินว่าเปปเปอร์จะเป็นเหมือนกับผู้ชายในหนัง
เมื่อคิดได้ดังนั้น มายมิ้นท์ก็สูดลมหายใจเข้าแล้วทำหน้าเคร่งขรึมพูดว่า “เปปเปอร์คะ คุณอย่ามาทำอะไรวู่วามนะ ฉันไม่ตกลงแน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้นเปปเปอร์ก็เข้าใจในทันทีว่าเธอคงเข้าใจอะไรผิดไป ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วหัวเราะเบาๆ “วางใจเถอะครับ ผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก ความสัมพันธ์ของพวกเราในตอนนี้ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น เพราะฉะนั้นผมจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คุณต้องรู้สึกหนักใจ ผมก็แค่อยากจะกอดคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขามายมิ้นท์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ยังดีที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น
เธอกลัวว่าเขาจะทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะหากว่าเขาเอาจริงขึ้นมา เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย และไม่อาจจะต่อต้านเขาได้
โชคดีที่เขาไม่ใช่คนแบบนั้น งั้นให้เขากอดสักพักก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น มายมิ้นท์ก็เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วใช้หางตาของเธอมองไปชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง “กอดอย่างเดียวนะ แค่กอดแป๊ปเดียวจริงๆ นะคะ”
เปปเปอร์ก้มหน้าลง สัมผัสไปยังเส้นผมของเธอด้วยริมฝีปากของเขาแล้วตอบว่า “ครับ”
มายมิ้นท์หันหน้ากลับไปแล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมองไปยังภาพสะท้อนที่กระจกตรงหน้าต่างซึ่งสูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น ภาพที่เขาโอบกอดเธอเอาไว้ดูเหมือนว่ามันจะเหมาะสมกันเหลือเกิน น่ามองจริงๆ
เมื่อตระหนักได้ถึงความคิดของตนเอง มายมิ้นท์ก็หน้าแดงเรื่อและอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง เผยให้เห็นลำคออันขาวผ่อง
เปปเปอร์มองดูที่หลังคอของเธอแล้วรู้สึกว่าสายตาพร่ามัว แต่เขาก็ไม่อยากจะละสายตาไป อีกทั้งยังอยากจะกัดเข้าให้สักคำ ทิ้งรอยนั้นเอาไว้ให้เธอ
แต่เขารู้ดีว่าถ้าเขาทำเช่นนั้นเธอคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
นี่มันอะไรกัน?
มายมิ้นท์ได้สติลืมตาตื่นขึ้นทันที
ภายในห้องมืดสนิททำให้เธอมองไม่ค่อยเห็นนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางต่อการเอื้อมมือไปสัมผัส เธอต้องการจะรู้ว่าอะไรกันที่ทับเธอเอาไว้
ปรากฏว่าเมื่อเธอคลำดู ก็พบมือที่ไม่ใช่มือของเธอวางตรงเอว
มือนั้นมีกระดูกค่อนข้างใหญ่กว่าเธอมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นมือของชายหนุ่ม
และในคอนโดของเธอนี้มีผู้ชายเพียงคนเดียว จึงไม่ต้องเดาเลยว่ามือนี้จะเป็นมือของใคร
หลังจากรู้ว่าเป็นเปปเปอร์ที่กอดรั้งเธอเอาไว้ มายมิ้นท์ก็เผยอริมฝีปากขึ้นแล้วรู้สึกกระสับกระส่าย
เจ้าหมอนี่ฉวยโอกาสตอนที่เธอนอนหลับแอบเข้ามาในห้อง และยังปีนขึ้นมาบนเตียงของเธออีก
อีกทั้งตอนนี้เธอสัมผัสเขา แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาใด คาดว่าคงจะหลับไปแล้ว
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเขาเข้ามาได้สักพักใหญ่แล้ว
แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
ถ้าหากว่าเป็นโจรล่ะก็ เธอตายอย่างไรคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงเรื่อของตน ตั้งใจจะเตะผู้ชายที่แอบคลานขึ้นมาบนเตียงของเธอคนนี้ลงไปเพื่อเป็นบทเรียนให้แก่เขา ดูสิว่าในอนาคตเขาจะกล้าทำแบบนี้ไหม
ในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวจะทำนั้น เธอกลับพบว่าตนเองไม่สามารถลงมือได้
เนื่องจากในสมองของเธอปรากฏฉากเมื่อตอนบ่ายที่เห็นใบหน้าอันดูเหนื่อยล้าของเปปเปอร์ปรากฏขึ้นมาในใจทำให้เธอใจอ่อน
เมื่อคิดได้ดังนั้นมายมิ้นท์ ก็ทำได้แต่ยิ้มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ชายคนนี้เป็นหายนะครั้งใหญ่ของชีวิตเธอจริงๆ
การที่ชีวิตนี้ได้พบเจอกับเขา ทำให้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนไร้เหตุผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...