รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 641

ถึงแม้ว่ายังไม่ได้กลับมาคืนดีกันอย่างเป็นทางการ แต่ก็เหลือแค่ไม่กี่วัน ตราบใดที่สองสามวันนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา เรื่องนี้ก็คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ดังนั้น ข่าวที่บอกว่าพวกเขาจะกลับมาคืนดีกัน มันคือเรื่องจริง

“มันไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ข่าวนี้ มันมีผลกระทบกับคุณไม่มากก็น้อย” เปปเปอร์มองหน้ามายมิ้นท์

มายมิ้นท์ยกซุปขึ้นมากินคำหนึ่ง “ฉันรู้ ฉันเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว”

เมื่อกี้เธอดูในอินเทอร์เน็ต ข้างล่างโซเชียลมีเดียของเธอมีคอมเมนต์ที่ไม่น่าฟังเพิ่มขึ้นตั้งเยอะแยะ อย่างเช่น ‘ม้าดีไม่กลับไปกินหญ้าเก่า’

อย่างเช่น 'เลียแข้งเลียขา' ‘พวกเขารังแกเธอขนาดนั้น ยังจะกลับไปคืนดี ต้อยต่ำจริงๆ'

สรุปก็คือ เมื่อเทียบกับคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียการออกแบบของเปปเปอร์แล้ว คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียของเธอ ดูไม่ค่อยเป็นมิตรมากกว่า

แต่ตั้งแต่ที่เธอรับตอบตกลงว่าจะคืนดีกับเขา เธอก็รู้ว่าตัวเองต้องมีวันนี้ วันที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นเธอจึงเตรียมใจตั้งนานแล้ว

และหลังจากที่รู้ข่าวที่เธอและเปปเปอร์จะกลับมาคืนดีกันแพร่กระจายออกมา เธอจึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรมาก

“มายมิ้นท์ คุณอยากทำอะไรรึเปล่า?” เปปเปอร์วางโทรศัพท์ลงแล้วถามเธออย่างจริงจัง

มายมิ้นท์ใช้ช้อนคนโจ๊กทะเลในถ้วย เธอยิ้มแล้วตอบกลับ “น่าจะมั้งคะ แต่ไม่ได้อยากทำอะไร แค่อยากทำเป้าหมายหนึ่งให้สำเร็จ”

“เป้าหมายอะไร?” เปปเปอร์ถามเธอด้วยความสงสัย

มายมิ้นท์พูด “ฉันอยากให้ข่าวนี้อยู่บนเน็ตต่อไป ให้ทุกคนเดาว่าเรากลับมาคืนดีกันจริงรึเปล่า แบบนี้ เมื่อเราคืนดีกันแล้วจริงๆ ทุกคนก็จะยอมรับง่ายขึ้นไม่ใช่เหรอ?”

เปปเปอร์เลิกคิ้ว “ที่แท้คุณคิดแบบนี้?”

มายมิ้นท์อืม “ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเราจะไม่ถูกถ่ายรูป และวันนี้ก็ไม่มีข่าวนี้ แต่ต่อไปถ้าเราคืนดีกัน เราคงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น ถึงตอนนั้นก็คงจะมีนักข่าวถ่ายรูปเราอยู่ดี ไม่สู้ปล่อยให้เป็นแบบนี้ ให้เวลาพวกเขายอมรับและปรับตัว เมื่อเราประกาศอย่างเป็นทางการว่าเรากลับมาคืนดีกันแล้ว พวกเขาจะได้ไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากเกินไป แล้วอาจจะสนับสนุนให้เราคืนดีกันเพราะเห็นข่าวของเรามากเกินไป “

เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นเหมือนคิดอะไรอยู่ “โอเค งั้นก็ทำตามที่คุณบอก แต่ว่าคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์พวกนั้น ผมจะ...”

“ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ” มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ถ้าคุณลบคอมเมนต์พวกนั้น ชาวเน็ตอาจจะก้าวร้าวขึ้นกว่าเดิม ฉันไม่ค่อยเล่นเน็ตอยู่แล้ว ไม่อ่านคอมเมนต์พวกนั้น ฉันก็ไม่รู้สึกหงุดหงิด”

ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่เปปเปอร์คิดว่าตัวเองคงไม่ใจกว้างเหมือนเธอ

สรุปก็คือ เขาไม่อยากเห็นเธอถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์

เปปเปอร์หรี่ตาลงด้วยสายตาที่มืดมน จากนั้นก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

เธอไม่ให้เขาลบคอมเมนต์พวกนั้น แต่เขาสามารถสั่งสอนคนคนที่มาคอมเมนต์ได้

คนที่เอาแต่หลบอยู่หลังหน้าจอพวกนั้นสกปรกเกินไป ต้องทำความสะอาดซะหน่อย

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเปปเปอร์คิดอะไรอยู่ เธอคีบเนื้อหอยเชลล์ใส่ในชามของเขา “เอาน่า กินข้าวดีกว่า ไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนั้นหรอกค่ะ”

เปปเปอร์อืมแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมา

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ มายมิ้นท์ไปหาของในห้อง เปปเปอร์อยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียว เขาส่งข้อความให้ผู้ช่วยเหมันตร์ บอกให้ผู้ช่วยเหมันตร์ลากคนที่คอมเมนต์ไม่น่าฟังใต้โซเชียลมีเดียของมายมิ้นท์ออกมาทีละคน

ถ้ามีพนักงานของบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ก็ไล่ออกให้หมด

ถ้าเป็นพนักงานบริษัทอื่น ก็จัดการให้เรียบร้อย

เขาต้องให้คนพวกนั้นรู้ว่า ใช่ว่าจะกอดคีย์บอร์ด หลบอยู่หลังหน้าจอแล้วจะพูดอะไรก็ได้

แล้วยังมีนักข่าวที่แอบถ่ายภาพแล้วแพร่กระจายข่าวพวกนั้น ก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย

ข่าวที่เกี่ยวกับเขา แต่กลับไม่สนใจเขา อยากจะโพสต์ก็โพสต์ ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาใช่ไหม?

“ไปกันเถอะค่ะ” เมื่อเปปเปอร์ส่งข้อความออกไป มายมิ้นท์ก็เดินออกมาพอดี

เปปเปอร์เก็บโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นจากโซฟา “ไปกันเถอะ”

พวกเขาสองคนเดินออกมาด้วยกัน และเดินไปลานจอดรถ

ผู้ช่วยเหมันตร์รอพวกเขาอยู่บนรถตั้งนานแล้ว เห็นพวกเขาเดินออกมาจากลิฟต์ เขาก็รีบลงไปเปิดประตูเบาะหลังให้พวกเขา

เปปเปอร์รอให้มายมิ้นท์ขึ้นไปก่อน หลังจากเธอขึ้นไปแล้ว ตัวเองก็ตามขึ้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว