“พูดมา นายต้องการอะไรกันแน่ ถึงจะยอมปล่อยลูกสาวฉัน!” เยี่ยมบุญมองชายเจ้าเล่ห์ในหน้าจอ ด้วยสายตาโกรธแค้น
ชายเจ้าเล่ห์วางแก้วไวน์ในมือลง “วางใจเถอะ ฉันไม่ทำอะไรลูกสาวพวกคุณหรอก ฉันบอกไปแล้ว ฉันแค่อยากให้เธอได้รับบทเรียนเท่านั้น เมื่อเธอได้รับบทเรียนแล้ว ฉันจะปล่อยเธอเอง”
พูดจบ เขาก็ดีดนิ้ว
ชายปิดบังใบหน้าที่ยืนข้างส้มเปรี้ยวโยนกะละมังทิ้ง และเดินไปข้างหลังเธอ จากนั้นก็เริ่มใช้มือแตะต้องตัวเธอ
ส้มเปรี้ยวตกใจจนหน้าซีด เธอตะโกนออกมาไม่หยุด “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน อย่าแตะต้องฉัน ออกไป ออกไป! ฮือๆๆ......เปอร์ ช่วยฉันด้วย......”
เปปเปอร์ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะน้ำชา เขากดเสียงต่ำพูดออกมาอย่างโมโห “ปล่อยส้มเปรี้ยว!”
สองสามีภรรยาก็รีบอ้อนวอนชายเจ้าเล่ห์ให้หยุดการกระทำ
ชายเจ้าเล่ห์ไม่สนใจ “เจ็บปวดใจใช่ไหม ที่เห็นลูกสาวสุดรักกับคู่หมั้นโดนทำร้าย งั้นพวกคุณเคยคิดไหม ตอนที่ลูกสาวกับคู่หมั้นของพวกคุณ ทำร้ายมายมิ้นท์ ฉันจะปวดใจหรือเปล่า”
ดวงตาภายใต้หน้ากาก ฉายแววเย็นชา “ไอ้เบิ้ม ทำต่อไป!”
“ครับ” ชายที่ปิดบังใบหน้า เริ่มทำรุนแรงขึ้น เขาสอดมือเข้าไปใต้เสื้อของส้มเปรี้ยว และใช้มือจับไม่หยุด
“ไอ้เลว!” เปปเปอร์อดทนไม่ไหวแล้ว เขาอยากฆ่าคนมาก
สองสามีภรรยาโกรธจนแทบบ้า
เยี่ยมบุญจ้องชายเจ้าเล่ห์เขม็ง “ถ้าแกกล้าให้คนทำอะไรลูกสาวฉัน ฉันสาบานด้วยชีวิต ฉันจะทำลายมายมิ้นท์ อย่างมากเราก็พินาศไปด้วยกัน!”
ชายเจ้าเล่ห์ไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะ “เพราะงี้ฉันจึงไม่ได้ให้คนทำอะไรลูกสาวของนายจริงๆ ไงล่ะ แต่ครั้งต่อไป ถ้าเธอยังกล้าทำร้ายมายมิ้นท์อีก ก็อย่ามาว่าฉันเอาจริงก็แล้วกัน ฉันรับรองว่าก่อนที่พวกคุณจะทำลายมายมิ้นท์ ฉันจะเป็นคนทำลายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก่อนอย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัย นายก็รู้ว่าฉันทำจริง”
พูดจบ ชายเจ้าเล่ห์ก็ตัดภาพไป
แต่วินาทีต่อมา ก็มีประโยคปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ : ถ้าจะช่วยส้มเปรี้ยว รีบมาที่นี่ภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าหลังจากครึ่งชั่วโมง ยังไม่มา ฉันจะสั่งให้คนแก้ผ้าเธอ แล้วโยนลงบนถนน อย่ามาว่าฉันก็แล้วกัน
หลังประโยคนี้ เป็นข้อความบอกที่อยู่
เปปเปอร์จดจำที่อยู่ และรีบออกไปทันที
เยี่ยมบุญรู้ว่าเขาไปช่วยส้มเปรี้ยว จึงให้ภรรยาอยู่ที่บ้าน ตัวเขาเองก็รีบตามออกไปเช่นกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองเจอที่ที่ส้มเปรี้ยวโดนลักพาตัวมาขังไว้
เป็นโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ส้มเปรี้ยวถูกขังไว้ในโกดัง
เมื่อเปปเปอร์พาคนหาตัวเธอจนเจอ ในโกดังเหลือแค่เธอเพียงคนเดียว ชายที่ปกปิดใบหน้าหนีไปแล้ว
เปปเปอร์เห็นส้มเปรี้ยวหลับตา ขดตัวอยู่บนเก้าอี้ เธอหน้าแดงก่ำ และหายใจแรง เขารู้ทันทีว่าเธออาจจะเป็นไข้
เขารู้สึกหดหู่ และรีบเข้าไปแก้มัดให้เธอ จากนั้นจึงถอดสูทคลุมไว้บนตัวเธอ เขาช้อนตัวเธอขึ้นมา และเดินออกจากโกดัง
เมื่อเดินถึงหน้าประตูโกดัง เยี่ยมบุญรีบวิ่งเข้ามา “ส้มเปรี้ยวเป็นยังไงบ้าง”
“ไข้ขึ้นครับ ต้องรีบไปโรงพยาบาล!”
พูดจบ เปปเปอร์ก็ไม่สนใจเขา และอุ้มส้มเปรี้ยวขึ้นรถ
ไม่นาน ก็มาถึงโรงพยาบาล ส้มเปรี้ยวถูกส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
เมื่อลาเต้จ่ายค่ารักษาเสร็จ เขาเดินกลับมาที่แผนกศัลยกรรม ด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “ที่รัก เดาสิว่าเมื่อกี้ ฉันไปเจออะไรมา”
มายมิ้นท์นั่งอยู่บนโซฟา พยาบาลยืนอยู่ข้างหน้าเธอ กำลังเปลี่ยนยาให้แผลบนศีรษะของเธอ
เธอไม่สามารถขยับได้ ทำได้เพียงปรายตามองเขา “เจออะไร”
ลาเต้หัวเราะคิกคัก “เจอส้มเปรี้ยวน่ะสิ เธอถูกส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เป็นไง มีความสุขไหม”
มีความสุขกะผีน่ะสิ!
มายมิ้นท์เหลือบตามองบน จากนั้นจึงถามอย่างสงสัย “เธอเป็นอะไร ทำไมต้องเข้าห้องฉุกเฉิน”
ลาเต้ลูบคาง “ฉันไม่รู้ แต่ฉันเห็นสีหน้าของเยี่ยมบุญกับเปปเปอร์ น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ คงจะเป็นเรื่องที่เกิดตอนส้มเปรี้ยวหายตัวไปมั้ง ที่รัก เราไปดูกันไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...