นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมตอนนั้น จู่ๆ เธอก็อาละวาดขึ้นมา ด่าทอผู้หญิงคนนั้นอย่างไร้เยื่อใย
เพราะผู้หญิงคนนี้จะแย่งผู้ชายของเธอ จะให้เธอพูดดี อารมณ์ดี เป็นลูกพลับสุกนิ่มอย่างนั้นเหรอ
เหอะ เธอไม่ใช่ลูกพลับสุกนิ่มอะไรหรอกนะ กลับกัน ยั่วยุจนเธอโมโหสุดขีด เธอจะได้เห็นดีกับคนนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเธอไม่ทำอะไรจริงๆ ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้น เอาอกเอาใจต่อหน้าเปปเปอร์ตามใจชอบ นั่นไม่เพียงแต่จะแสดงว่าเธอไม่รักเปปเปอร์ อีกทั้งยังไม่เคารพความรู้สึกระหว่างตัวเองกับเปปเปอร์ ไม่เคารพเปปเปอร์ด้วย
ถึงเปปเปอร์ไม่รู้ว่ามายมิ้นท์คิดอะไร แต่ได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็รู้สึกผิดในใจอยู่บ้าง
เขาจับข้อมือเธอ ดึงเข้ามาในอก
มายมิ้นท์เอียงตัวลงบนขาเขา
เดิมทีมายมิ้นท์จะลุกขึ้น แต่เปปเปอร์กดไหล่เธอไว้ ไม่ให้เธอลุกขึ้น เขาลูบผมสลวยของเธออยู่อย่างนั้น แล้วพูดเสียงอ่อนโยนว่า “คุณไม่กลายเป็นผู้หญิงขี้โวยวายหรอก และไม่เป็นคนบ้าด้วย ผมไม่มีทางหักหลังคุณ ไม่ทำให้คุณไร้ซึ่งความรู้สึกปลอดภัย ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ หัวใจผมเล็กมาก มีคุณได้คนเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณไม่ต้องสนใจผู้หญิงคนอื่นเลย อีกทั้งหลังจากผมรู้ ตัวผมเองก็จะจัดการพวกเธอทิ้งไป ไม่มีทางให้พวกเธอโผล่มาขัดตาคุณ แต่ครั้งนี้ ผมประมาทเอง”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาขมวดคิ้วขึ้น
มายมิ้นท์พลิกตัว นอนราบอยู่บนขาเขา มองเขาแล้วยกมือขึ้นคลายคิ้วที่กำลังขมวดของเขา “ได้ยินว่านายจะจัดการเอง ไม่ให้พวกเธอมาขัดตาฉัน ฉันสบายใจจริงๆ แต่ครั้งนี้นายพูดผิดแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ความประมาทของนาย ขนาดนายยังไม่รู้ นายแค่ช่วยพัดชา ไม่ให้ผู้ช่วยเหมันตร์ชนไปทันที ก็เลยโดนพัดชาจับจ้อง อีกทั้งตอนพัดชาข่มขู่ยั่วยุฉัน นายยังสลบไม่รู้เรื่อง ดังนั้นนี่ไม่ใช่ความประมาทของนาย และไม่ใช่ความผิดนาย นายไม่ต้องโทษตัวเอง เป็นความผิดของผู้ช่วยเหมันตร์”
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่กำลังแอบฟังและขับรถเงียบๆ ตอนที่กำลังฟังอย่างเมามันส์ คิดไม่ถึงว่าจะโดนเข้าเอง
เขาอึ้งไปทันที
จากนั้นรู้สึกถึงสายตาอาฆาต ส่งมาทางด้านหลัง เขาขยับลูกตาไปมองกระจกมองหลัง เห็นใบหน้าไร้อารมณ์ของเปปเปอร์ และดวงตาที่ไร้ความอบอุ่นคู่นั้น
ทันใดนั้น ผู้ช่วยเหมันตร์ขนลุก หน้าซีดเผือด เค้นยิ้มออกมา “ประธานเปปเปอร์ คุณมายมิ้นท์พูดเล่น จะเป็นความผิดผมได้ยังไงครับ”
“เป็นความผิดนายนั่นแหละ” มายมิ้นท์ส่งเสียงหึ “เมื่อวานฉันให้นายพาผู้หญิงคนนั้นไป แต่วันนี้ผู้หญิงคนนั้นยังโผล่มาอีก เมื่อวานนายรู้แท้ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบประธานเปปเปอร์ของพวกนาย แต่นายไม่จัดการผู้หญิงคนนั้นอย่างเหมาะสม”
“เอ่อ......” ผู้ช่วยเหมันตร์ชะงักไป เดิมทีจะพูดว่าไม่ผิด แต่คำพูดติดอยู่ตรงปาก พูดยังไงก็พูดไม่ออก
เพราะเขาจัดการไม่ดีจริงๆ
มายมิ้นท์พูดอีกว่า “อีกทั้งเมื่อกี้ประธานเปปเปอร์ของนาย ให้นายไปไล่ผู้หญิงคนนั้นแล้วนิ สุดท้ายเป็นไง เธอยังรออยู่ที่ลานจอนรถ ไม่ไปไหนเลย”
ครั้งนี้ผู้ช่วยเหมันตร์จะเรียกร้องความเป็นธรรม มองเปปเปอร์ที่สีหน้าไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบอธิบายว่า “ประธานเปปเปอร์ คุณอย่าฟังคุณมายมิ้นท์นะครับ ผมไล่ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วจริงๆ ไม่ให้เธอโผล่มาต่อหน้าคุณอีก แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ไปไหน แอบรออยู่ที่ลานจอดรถ นี่จะว่าผมไม่ได้หรอกใช่ไหมครับ”
“ใครบอกว่า ว่านายไม่ได้” เปปเปอร์หรี่ตาลง เสียงเย็นชา “ไล่คนไป ไม่เพียงแค่บอกให้เธอไป แต่ต้องแน่ใจด้วยว่าเธอไปแล้ว จะไม่โผล่มาอีก แค่นี้นายยังทำไม่ได้ ยังมาพูดว่าไม่ใช่ความผิดนายเหรอ”
มายมิ้นท์พูดเห็นด้วย เป็นการสนับสนุน
ผู้ช่วยเหมันตร์มุมปากกระตุก “เอ่อ......”
เขาอยากร้องแต่ร้องไม่ออก
เขามองออกแล้วว่า สองคนนี้เป็นพวกเดียวกัน ผัวหาบเมียคอน!
เมื่อก่อนใช่ว่าประธานเปปเปอร์ จะไม่เคยให้เขาไปไล่คนอื่น แต่เขาก็บอกให้อีกฝ่ายออกไป ประธานเปปเปอร์ไม่ได้บอกว่าเขาทำผิด และไม่ได้บอกว่าต้องเห็นคนออกไปด้วยตาตัวเอง
ทำไมตอนนี้......
ทันใดนั้น ผู้ช่วยเหมันตร์หงอยเหมือนมะเขือเหี่ยวขึ้นมาทันที
เปปเปอร์เอ่ยสั่งอย่างเย็นชา “ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นมาตื๊อซ้ำแล้วซ้ำเล่า คงไม่ยอมถอดใจเพราะคำด่าของมายมิ้นท์แน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้น มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “นายหมายความว่า เธออาจหาวิธีมาหานายเหรอ”
เปปเปอร์ตอบรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...