ไม่เพียงเท่านั้น รอบกายเธอก็ปกคลุมไปด้วยความหนักอึ้ง หมดอาลัยตายอยาก คล้ายกับประสบพบเจอเรื่องเลวร้ายมา
“เป็นอะไรเหรอ?” เปปเปอร์หย่อนกายนั่งข้างเธอ ก่อนจะจับไหล่เธอแล้วเขย่าเบา ๆ “เกิดอะไรขึ้น?”
มายมิ้นท์ถูกเขาเขย่าจึงออกหลุดออกจากภวังค์
ดวงตาเธอเป็นประกายแพรวพราย ดวงตาเศร้าหมองกลับมาสว่างเจิดจ้าอีกครั้ง
“คุณกลับมาแล้วเหรอ?” เธอเห็นเขาก็ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมา
เปปเปอร์ตอบอืมหนึ่งคำ “ผมกลับมาแล้ว ดึกขนาดนี้แล้วคุณยังไม่นอนอีกเหรอ นั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้?แถมยังไม่เปิดไฟด้วย?เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
ผู้ชายปล่อยคำถามเป็นชุด ๆ ทำให้มายมิ้นท์ส่ายหัวและถอนหายใจ“ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอกค่ะ”
แต่เปปเปอร์ไม่เชื่อ ริมฝีปากบางเม้มขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วคุณจะเป็นแบบนี้ได้ไง?”
“......”มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบ
เธอรู้อยู่แล้วว่าปิดผู้ชายตรงหน้าไม่ได้
“พูดมาเถอะว่าเกิดอะไรขึ้น?” เปปเปอร์ลูบศีรษะเธอ น้ำเสียงห่วงใยยิ่ง“อย่าปิดผมเลย ไม่งั้นผมคงเป็นห่วงแย่”
มายมิ้นท์รู้สึกอุ่นใจในบัดดล ไหล่ที่ตั้งตัวตรงยืนหยัดต่อไปไม่ได้แล้ว เธอปล่อยความเข้มแข็งทิ้ง เปลี่ยนมาซบไล่เปปเปอร์“หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ฉันเจอเยี่ยมบุญสองผัวเมียค่ะ”
มือที่เปปเปอร์จับผมเธอชะงัก “พวกเยี่ยมบุญเหรอ?”
“อืม”
“เจอที่ไหน?”
“ฉันไปเยี่ยมพ่อเสร็จก็เข้าร้านเบเกอรี่ละแวกนี้ ระหว่างที่รอของที่สั่งไป พวกเยี่ยมบุญก็มา” มายมิ้นท์กล่าว
เปปเปอร์ขมวดคิ้วมุ่น“พวกเขารังแกคุณหรือเปล่า?”
“เปล่าค่ะ” มายมิ้นท์ส่ายหัว“แค่ปะทะคารมเล็กน้อย แต่ว่า......”
“แต่อะไร?” เปปเปอร์รู้สึกกังวลขึ้นมา
มายมิ้นท์ยกแขนขึ้น“คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เห็นรอยแผลที่ข้อมือฉันก็ทำตัวผิดปกติทันที เธอจับมือฉันแล้วถามว่าได้รอยแผลเป็นนี้ยังไง และถามว่าก่อนจะมีรอยแผลเป็นเคยมีอะไรตรงนี้หรือเปล่า คุณว่า......”
เธอยังไม่ทันเล่าจบ สีหน้าเปปเปอร์ก็แปรเปลี่ยน
มือที่โอบเอวเธอไว้ชักกลับมากะทันหัน ลูกกระเดือกเขาขยับ ถามเสียงที่เจือความหนักอึ้งไว้ “คุณได้ตอบไปไหม?”
“ห้ะ?” มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขาปราดหนึ่ง“อะไรนะ?”
“ผมบอกว่า คุณได้บอกที่มาของรอยแผลเป็นนี่ไหม?และได้บอกหรือเปล่าว่าก่อนจะมีรอยแผลเคยมีอะไร?”เปปเปอร์หลุบตา น้ำเสียงไม่ชอบมาพากลอย่างฉายชัด
มายมิ้นท์ส่ายหัว“ไม่ได้บอกค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถามด้วยเจตนาอะไร ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นกับดักหรือเปล่า ดังนั้นฉันจึงบอกเธอไม่ได้ ฉันก็หาเหตุผลพูดสุ่ม ๆ ไปอย่างนั้น”
เปปเปอร์จ้องเธออยู่สักพักหนึ่ง หลังจากที่ดูออกว่าเธอไม่ได้พูดปดมดเท็จ เขาจึงรู้สึกโล่งอก สีหน้ากลับมาเป็นปกติ
“งั้นก็ดี” เปปเปอร์โอบเอวเธอพูด
มายมิ้นท์หรี่ตา“ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณเครียดจัดเลย คุณกลัวฉันบอกคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เหรอ?”
เธอจ้องมองเขา
เปปเปอร์กะพริบตาปริบ ๆ กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว สีหน้าเป็นธรรมชาติยิ่ง ตอบแบบไม่เห็นความผิดปกติว่า “เปล่านี่ เมื่อกี้คุณก็พูดว่าคุณไม่บอกเพราะกลัวคุณนายเขาจะมีแผนร้าย ผมก็กลัวเหมือนกัน ดังนั้นผมเลยไม่อยากให้คุณโง่จนบอกทุกอย่างกับอีกฝ่าย ถ้าคุณนายเขามีแผนร้ายจริง ๆ แล้วผมไม่ได้อยู่ข้างกายคุณ ผมก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ทันท่วงทีสิ”
ระหว่างที่พูด เขาก็ดีดหน้าผากเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...