พอมองเห็นความห่วงใยบนใบหน้าเปปเปอร์ รวมทั้งท่าทีที่อยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้เธอ ในของมายมิ้นท์ก็รู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก
เธอสูดจมูกเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดเล็กน้อยว่า “ขอโทษค่ะ ฉันทำชุดออกงานของเราหายไปแล้ว”
“อะไรนะ?” เปปเปอร์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “ชุดออกงานหายไปแล้ว?”
พูดอย่างนี้ก็หมายความว่า มีคนรังแกเธอนะซิ?
ท่าทางของเธอเมื่อกี้ แค่เสียใจและเป็นกังวล ที่ทำเสื้อผ้าราคาไม่กี่ล้านหายไปเหรอ?
พอคิดได้แบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้
ถึงแม้ว่าไม่กี่ล้านสำหรับเขาแล้วก็ไม่มีอะไร และไม่ต่างอะไรกับเศษเงินไม่กี่บาท ถ้าตกพื้นไป เขาก็ไม่มีทางที่จะงอตัวลงไปเก็บขึ้นมาหรอก
แต่ว่าสำหรับเธอนั้น กลับเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย
ถึงว่าล่ะ เธอถึงได้เป็นแบบนี้
เปปเปอร์ตบไหล่มายมิ้นท์ไปเบา ๆ อย่างรู้สึกขำ “ทำหายไปแล้วก็ช่างมันเถอะ เดี๋ยวพวกเราค่อยไปซื้อกันใหม่ก็ได้ ผู้ชายของคุณมีเงินอยู่แล้ว”
และที่สำคัญ เขาก็คิดมาตลอดว่า เงินของเขาก็เป็นเงินของเธอเหมือนกัน และเขาก็ได้ผูกโทรศัพท์ของเธอไว้กับบัตรสำรองของเขาไปตั้งนานแล้ว
ขอแค่เธอยินยอม เธอก็จะสามารถรูดบัตรของเขาได้ทุกเมื่อ แล้วก็เป็นแบบไม่จำกัดวงเงินด้วย
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เขาแอบทำขึ้นมาคนเดียวเท่านั้น และไม่กล้าที่จะบอกกับเธอ
ถ้าบอกกับเธอไป คิดว่าเธอคงจะไปยกเลิกการผูกบัตรที่ธนาคารแน่
พอได้ยินคำพูดของเปปเปอร์ ที่พูดว่าเขามีเงิน มายมิ้นท์ที่ยังรู้สึกผิดอยู่ในตอนแรก วินาทีต่อมา ก็อดไม่ได้ที่หัวเราะเสียงดังออกมาคำหนึ่ง
แต่ว่าพอหัวเราะไปแล้ว เธอก็สงบสติลงมา แล้วเงยหน้ามองไปที่เขา “ที่จริง ที่ฉันบอกว่าทำชุดหายไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ระวังแล้วลืมชุดไว้ที่ไหน และหาไม่เจอหรอกนะคะ แต่ว่า ชุดถูกคนขโมยไปค่ะ”
“อะไรนะ?” พอได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเปปเปอร์ก็เปลี่ยนไปทันที แล้วก็กอดเธอแน่นยิ่งขึ้นไปอีก จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปมองสำรวจตัวเธออย่างละเอียดรอบคอบรอบหนึ่ง “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เขาไม่ได้รีบร้อนถามว่าชุดถูกแย่งไปได้ยังไง
เขาเป็นห่วงแค่ว่า เธอได้รับบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า
มายมิ้นท์จ้องมองท่าทางที่ร้อนใจของชายหนุ่ม ก็ส่ายหน้าขึ้นอย่างซาบซึ้ง “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
เปปเปอร์ยังคงไม่ค่อยไว้วางใจ ยกแขนของเธอขึ้นมา แล้วบีบแขนและไหล่ของเธอดูเล็กน้อย อยากจะดูว่าเธอได้โกหกเพราะว่าไม่อยากให้เขาเป็นห่วงหรือเปล่า
ในเมื่อถ้าเกิดว่าบาดเจ็บจริง ๆ ละก็ การบีบแบบนี้ จะต้องทำให้เธอหลุดพิรุธออกมาแน่
แต่ว่ามายมิ้นท์นั้นไม่ได้บาดเจ็บจริง ๆ ดังนั้นไม่ว่าเปปเปอร์จะตรวจสอบยังไง เธอก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไรหลุดออกมา
ไม่นาน เปปเปอร์ก็ค่อย ๆ เชื่อขึ้นมาแล้วจริง ๆ ว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ใจที่แกว่งอยู่ ก็ค่อย ๆ กลับสู่ที่เดิมไป “ไม่ได้รับบาดเจ็บก็ดีแล้ว ตอนนี้บอกผมมาได้ไหม ชุดโดนขโมยไปนี่มันเรื่องเป็นยังไงกันแน่?”
มายมิ้นท์โดนเขาดึงมือไปนั่งลง ทำเสียงอืมออกมาคำหนึ่ง แล้วเปิดปากตอบกลับมาว่า “เมื่อช่วงบ่ายตอนที่ฉันออกมาจากห้างและกำลังจะกลับบ้านนั้น ก็ปรากฏว่าในตอนที่ฉันกำลังจะขึ้นรถ จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งผ่านมาข้าง ๆ ฉัน แล้วก็แย่งถุงชุดออกงานทั้งสองใบที่อยู่ในมือฉันไปเลย จากนั้นฉันก็ไล่ตามไป……”
“คุณว่าอะไรนะ? คุณตามไปเหรอ?” สีหน้าของเปปเปอร์เคร่งขรึมลงทันที เรี่ยวแรงของมือที่จับมือเธออยู่ก็กระชับแน่นขึ้นมาก เห็นได้ชัดเลยว่า เขารู้สึกโกรธขึ้นมานิดหน่อยแล้ว “คุณรู้หรือเปล่าว่าสถานการณ์แบบนั้น มันอันตรายมากแค่ไหน? แต่คุณกลับยังกล้าไล่ตามโจรคนหนึ่งไปอีก? คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคุณอาจจะเจอกับอะไรบ้าง?”
เขาจ้องมองไปที่เธอ ในดวงตาเต็มไปด้วยไฟโกรธ แต่ที่มีมากยิ่งกว่าก็คือ ความห่วงใยกับความร้อนใจ
เขาจะไม่เป็นห่วงได้ยังไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...