ตอน บทที่ 859 พัดชาที่ไม่ธรรมดา จาก รักหวานอมเปรี้ยว – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 859 พัดชาที่ไม่ธรรมดา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ รักหวานอมเปรี้ยว ที่เขียนโดย สายฝน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พวกเขามีเวลาทั้งหมดแค่สิบนาที ตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบห้านาทีแล้ว
ถ้ายังยืดเยื้อต่อไปอีก เกรงว่าจะยังไม่ทันได้พูดอะไร เวลาก็หมดไปแล้ว
ชายหนุ่มมองความเบื่อหน่ายบนหน้ามายมิ้นท์ออก และไม่กล้าที่จะถ่วงเวลาต่อไปอีก จึงรีบเปิดปากพูดขึ้นว่า “ครับ ครับ ครับ ผมบอก ผมบอก คนที่มาหาผมเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจ่ายเงินมาหนึ่งแสน ให้ผมไปรอที่หน้าประตูห้าง แล้วถ้าผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินไปที่รถเบนซ์สีแดงคันนั้น ก็ให้แย่งของที่อยู่ในมือผู้หญิงคนนั้นไป”
“ผู้หญิงเหรอ?” เปปเปอร์พึมพำเสียงเย็นถึงคนสองคนนี้ไปรอบหนึ่ง จากนั้นก็มองสบตากับมายมิ้นท์ทีหนึ่ง
มายมิ้นท์พยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นพัดชาเข้าไปอีก
“ผู้หญิงคนนั้น นั่งรถเข็นอยู่ใช่ไหม?” มายมิ้นท์จ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มแล้วก็ถามขึ้นมา
ชายหนุ่มพยักหน้าขึ้นมาติด ๆ “ใช่ครับ ใช่ครับ นั่งรถเข็นอยู่เลยครับ”
“คือพัดชาแน่ ๆ” คราวนี้ มายมิ้นท์มั่นใจในการคาดเดาของตัวเองเต็มที่แล้วจริง ๆ
เปปเปอร์กำหมัดไว้แน่น “ผู้หญิงคนนั้นนี่ช่างมีความกล้าจริงๆ ถึงได้กล้าเปิดเผยตัวเองออกมาต่อหน้าเขาเลย”
“นั่นก็หมายความว่าเธอมีความมั่นใจมากว่าคนคนนี้จะไม่มีทางเปิดเผยตัวเธอออกมา” มายมิ้นท์ชี้ไปที่ชายหนุ่มที่อยู่บนเก้าอี้นักโทษ จากนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า “พัดชามาหานายได้ยังไง”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองมายมิ้นท์อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไปทีหนึ่ง “หาจากอินเทอร์เน็ตครับ”
“อินเทอร์เน็ตเหรอ?” มายมิ้นท์รู้สึกสงสัยขึ้นมาครู่หนึ่ง
เปปเปอร์กลับเข้าใจอะไรขึ้นมา แล้วเปิดปากพูดอธิบายขึ้นมา “ทุก ๆ วงการ ต่างก็มีช่องทางการติดต่อของแต่ละวงการ คนคนนี้เป็นนักโทษคดีขโมยของ แต่ว่านักโทษคดีขโมยของในเมืองเดอะซีจะต้องไม่มีทางมีแค่เขาคนเดียวแน่ พวกเขาจะต้องมีองค์กรอยู่ แล้วในเมื่อมีองค์กร งั้นการติดต่อกันของพวกเขา ก็จะต้องมีกรุปคุยส่วนตัวของพวกเขาเอง หรือว่าเว็บไซต์”
“ใช่ ถูกต้อง คุณผู้ชายท่านนี้พูดถูก” ชายหนุ่มรีบให้ความเห็นด้วย “พวกเราไม่ได้แค่ดำรงชีวิตด้วยการขโมยของเท่านั้น ปกติแล้วก็จะคอยรับงานส่วนหนึ่ง อย่างเช่นเวลามีคนทะเลาะต่อยตีกัน แต่ว่ากำลังคนไม่พอ ก็จะสามารถมาว่าจ้างในเว็บของเราได้ จะให้พวกเราไปช่วยต่อสู้ หรือว่าขโมยของอะไรก็ได้ พวกผู้นำระดับสูงในบริษัทอย่างพวกคุณก็มักจะมาว่าจ้าง ให้พวกเราไปสืบข่าวกรองของคู่แข่ง หรือว่าไปขโมยเอกสารของคู่แข่ง”
“เอ่อ……มันมีแบบนี้ด้วยเหรอ” มุมปากของมายมิ้นท์กระตุกขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้ว่ามีการว่าจ้างคนอื่นให้ไปต่อสู้หรือว่าขโมยของมาก่อนเลยจริง ๆ
เปปเปอร์จ้องมองท่าทางที่ผิดปกติของมายมิ้นท์ ก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ คำหนึ่ง “มีอยู่จริง ๆ เขาพูดถูก ผู้นำระดับสูงในบริษัทบางคน ตัวเองไม่สะดวกที่จะไปลงมือเอง เพราะจะทำให้คนอื่นจับพิรุธได้ง่าย ก็เลยต้องไปว่าจ้างคนพวกนี้ ให้คนพวกนี้ไปลงมือให้ คนพวกนี้มีวิถีทางเป็นของตัวเอง และทำงานได้มากมาตลอด เพราะฉะนั้นบริษัทบางแห่ง จึงมักจะชอบให้คนพวกนี้ไปช่วยทำเรื่องที่เป็นความลับบางอย่างให้จริง ๆ”
“งั้นคุณเคยไปว่าจ้างบ้างไหมคะ?” มายมิ้นท์จ้องมองไปที่เปปเปอร์
เปปเปอร์ส่ายหน้าเล็กน้อย “ผมไม่ต้องหรอก ในมือผมมีลูกน้องที่มีความสามารถมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้คนพวกนี้หรอก”
มายมิ้นท์พยักหน้าขึ้นมา แล้วก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพียงแต่ขมวดคิ้วไว้แล้วรู้สึกสงสัยขึ้นว่า “พัดชาคนนั้น ยังรู้จักกับองค์กรแบบนี้ด้วย แถมยังว่าจ้างอย่างชัดเจนขนาดนี้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่”
แม้แต่เธอยังไม่รู้จัก ดูออกได้เลยว่าคนทั่วไปก็น่าจะรู้จักกับองค์กรแบบนี้น้อยมาก
แต่พัดชากลับรู้จัก เรื่องนี้ช่างทำให้คนรู้สึกแปลกใจจริง ๆ
แต่ว่ามายมิ้นท์เองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ในเมื่อตำรวจก็ได้ส่งคนไปเรียกตัวพัดชามาแล้ว
พัดชารู้จักได้ยังไง ก็ให้ตัวพัดชาพูดออกมาเองก็พอแล้ว
“ในเมื่อพัดชาเสียเงินจ้างนายมาแสนหนึ่ง งั้นระหว่างนายกับเธอ ก็แค่มีความสัมพันธ์เป็นแค่ว่าจ้างธรรมดา แล้วทำไมก่อนหน้านี้นายถึงไม่ยอมเปิดโปงเธอออกมาซะทีล่ะ?” มายมิ้นท์จ้องมองไปที่ชายหนุ่ม แล้วถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
ความสัมพันธ์แค่ว่าจ้างกันธรรมดา ซึ่งก็หมายความว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยพัดชาปิดบังเลยนี่
ในเมื่อ พัดชาไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย ช่วยพัดชาปิดบัง ก็ไม่ได้มีผลดีอะไรเลยนี่
แต่ผู้ชายคนนี้ ก็กัดฟันไว้แน่นไม่ยอมเปิดปากออก คิดว่าถ้าเกิดเปปเปอร์ไม่มาสอบสวนเขาล่ะก็ คนคนนี้ก็คงจะปิดบังต่อไปอีกแน่ ๆ
และที่สำคัญ เธอก็ไม่เชื่อว่าคนแบบนี้จะไปมีสปิริตในการว่าจ้างอะไร จนไม่ยอมเปิดโปงผู้ว่าจ้างออกมาหรอก
ในนี้ จะต้องมีเหตุผลอื่นอะไรอยู่แน่
พอเปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์ คิดจุดที่น่าสงสัยออกได้เร็วขนาดนี้ เรียวปากบางก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มขึ้นมา บนใบหน้าก็แววภาคภูมิใจอย่างเปิดเผยปรากฏขึ้นมา
สมกับที่เป็นคนรักของเขาจริง ๆ ฉลาดขนาดนี้
ในเมื่อไม่มีเวลามากขนาดนั้นให้ไปตรวจสอบ
และที่สำคัญถ้าจะไปตรวจสอบประวัติของคนคนหนึ่ง ถ้าตัวเองไม่มีแบล็คที่แข็งแกร่งละก็ ไม่มีทางที่จะตรวจสอบได้ง่าย ๆ หรอก
แต่พัดชากลับตรวจสอบได้ แถมยังอยู่ในระยะเวลาแค่สั้น ๆ แบบนี้
นี่จึงบอกได้แต่ว่าเบื้องหลังพัดชานั้นมีคนที่มีอำนาจที่ไม่มีใครรู้จักอยู่คนหนึ่ง
ในจุดนี้ เปปเปอร์เองก็นึกออกแล้ว และตอนนี้สีหน้าก็ดูย่ำแย่มาก
ก่อนหน้านี้เขาเคยให้เหมันตร์ไปสืบประวัติเบื้องหลังของพัดชามาก่อน ก็แค่เป็นคนธรรมดาที่มีเงินหน่อยก็เท่านั้น
แต่ตอนนี้ การแสดงออกแต่ละอย่างของพัดชา กลับบอกได้ว่าพัดชาไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดา และนี่ก็ได้ผลักข้อมูลที่เขาสืบได้มาก่อนหน้าออกไปหมดเลย
เขาเชื่อว่าลูกน้องในมือตัวเองไม่ได้มีปัญหา ไม่มีทางที่จะเอาข้อมูลปลอมมาหลอกเขาแน่
งั้นคำอธิบายเดียวก็คือ ตัวพัดชาเองที่มีปัญหา เธอปิดบังสถานะที่แท้จริงของตัวเองไว้ แล้วสถานะคนธรรมดาทั่วไปนั้นก็ตั้งใจเอาออกมาให้คนอื่นดู
ดี ดีมากจริง ๆ
ตอนแรกนึกว่ามีแค่บทบาทเล็ก ๆ อย่างกับมดงานตัวหนึ่ง
แต่คิดไม่ถึงว่า จะแอบซ่อนได้ลึกขนาดนี้!
“เดี๋ยวผมออกไปโทรศัพท์หน่อยนะ” เปปเปอร์ปล่อยมือออกจากหลังคอของผู้ชายคนนั้น แล้วเอาโทรศัพท์ออกมาพูดกับมายมิ้นท์
มายมิ้นท์รู้ว่าเขาจะต้องไปติดต่อคนให้ไปตรวจสอบพัดชาแน่ แล้วก็พยักหน้าขึ้นมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม “ได้ค่ะ คุณไปเถอะ”
เปปเปอร์ลูบหัวเธอเล็กน้อย แล้วก็เดินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...