รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 903

เปปเปอร์ได้ยินคำพูดมายมิ้นท์ ดวงตาก็เบิกกว้าง จากนั้นก็หันหลังกลับไปโดยทันที

ถึงแม้ดวงตาเขายังคงแดงก่ำอยู่ แต่รูม่านตากลับสั่นระริก

เขากำลังตื่นเต้น กำลังปีติยินดี

เพราะคำพูดนั้นของมายมิ้นท์!

เขานึกว่า เธอจะเสียใจว่าทำไมเขาไม่เป็นตัวแทนของเกรียงไกรต่อ ไม่กลับไปเป็นเปปเปอร์ผู้อ่อนโยนในอดีต

ด้วยเหตุผลนี้ ในใจเขาเลยเกิดความโกรธ อยากถามเธอสักหน่อย ว่าเธอชอบเขาในอดีตมากจริงๆ ใช่ไหม?

ถ้าเขาในอดีต เป็นแค่นิสัยที่แม่เลี้ยงดูด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ไม่ได้เลี้ยงดูตามใครคนหนึ่ง ถ้าเธอชอบเขาในอดีต ถึงแม้ในใจเขาจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็จะไม่โกรธ

เพราะนั่นก็เป็นเขาที่แท้จริง

แต่เขาในอดีต ดันถูกเลี้ยงดูตามเกรียงไกร ถ้าเธอยังคิดถึงอยู่ เขาจะทนได้ยังไง?

งั้นก็เหมือนกับว่าเธอไม่เคยรักเขาเลย สิ่งที่รักก็แค่นิสัยที่เป็นภาพลวงตาเท่านั้น

แต่ยังดีที่คำพูดต่อมาของเธอทำให้ความโกรธเขาสงบลงอย่างแท้จริง

ที่แท้ สิ่งที่เธอรักไม่ใช่นิสัยที่เป็นภาพลวงตา แต่เป็นเขาที่แท้จริง

ไม่อย่างนั้น ทำไมเธอถึงพูดว่า ตอนนี้เธอดีใจมากที่เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นแบบเดิม?

เพราะเธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ตัวแทนของเกรียงไกร เขาคือเปปเปอร์ เขาควรมีนิสัยของตัวเอง ไม่ใช่นิสัยที่ติดต่อมาจากคนอื่น

เธอเลยยินดีกับเขา ที่กลับมาเป็นตัวของตัวเอง!

ความปีติยินดีกับความตื่นเต้นในใจยับยั้งไม่ไหวอีกต่อไป เปปเปอร์เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กอดมายมิ้นท์ไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา ออกแรงกระชับ ราวกับว่าจะหลอมร่างตนเข้าไปข้างใน

“มายมิ้นท์ มายมิ้นท์ มายมิ้นท์!” เปปเปอร์พิงข้างหูมายมิ้นท์ เรียกชื่อเธอไม่หยุด

ทุกเสียง เรียกอย่างหนักแน่น ความรู้สึกในนั้นก็หนักแน่นเหมือนน้ำเสียงเขา

มายมิ้นท์มองชายหนุ่มที่ตื่นเต้นแบบนี้ ก็รู้ว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้น

เพราะคำพูดนั้นของเธอ

เธอรู้ดีคำพูดนั้นของตัวเอง จะสร้างอิทธิพลอะไรกับชายหนุ่ม

เมื่อชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองคือตัวแทนที่แม่เลี้ยงดูมา จะยับยั้งการมีอยู่ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองไม่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้หรือเปล่า

เขาเกิดมาบนโลกใบนี้ แต่ไม่สามารถเป็นตัวเองอย่างแท้จริงได้ ก็แค่ตัวแทนของใครคนหนึ่งเท่านั้น

เขาจึงเกิดความรู้สึกขยะแขยงกับตัวเอง รู้สึกปฏิเสธตัวเอง

แต่คำพูดเธอ คือการยอมรับเขา คือการบอกเขาว่า การมีอยู่ของเขานั้นมีความหมาย เขาไม่ใช่ตัวแทนของใคร

เขาก็คือเขา เขาคือเปปเปอร์

เปปเปอร์จึงรู้สึกตื่นเต้นโดยธรรมชาติ จะเข้ามากอดเธอ แสดงความรู้สึกดีใจมีความสุขของตัวเองในขณะนี้

“พอแล้ว” มายมิ้นท์ยิ้มขณะลูบแผ่นหลังเปปเปอร์ พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “คุณปล่อยฉันก่อน คุณกอดแน่นเกินไป ฉันหายใจไม่ค่อยออก”

เปปเปอร์ผ่อนแรงเล็กน้อย แต่ยังไม่ปล่อยเธอไป ยังคงกอดเธออยู่

ในเวลานี้ เขาไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ เพราะตราบใดที่กอดเธออยู่ เขาถึงยืนยันได้ว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่ใช่ของปลอม

มายมิ้นท์รู้สึกถึงความอาลัยอาวรณ์จากตัวเปปเปอร์ ในใจก็เอือมระอาและขำขัน

ผู้ชายเย็นชามีอิสระตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ไม่คิดว่าตอนนี้จะติดเธอเหมือนกับเด็ก แตกต่างมากจนน่าขำจริงๆ

ช่างเถอะ ถ้าเขาอยากกอดแบบนี้ ก็ให้เขากอดไปเถอะ

มายมิ้นท์ก็ไม่ให้ชายหนุ่มปล่อยตนไปอีกแล้ว ปล่อยให้ชายหนุ่มกอดตัวเองแน่นๆ จากนั้นก็ลูบแผ่นหลังเขาต่อแล้วเอ่ยปลอบ “ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ว่ายังไง คุณก็ยังมีฉัน มีท่าย่า มีพิสมัยและปีโป้ เรารู้กันหมดว่าคุณคือคุณ ไม่ใช่ตัวแทนของใคร”

ถึงแม้เธอจะไม่อยากพูดถึงพิศมัยก็ตาม

แต่ตอนนี้เพื่อปลอบโยนชายหนุ่ม เธอจำเป็นต้องฝืนทนความเกลียดชังที่มีต่อพิสมัย เอ่ยชื่อพิศมัยออกมา

เปปเปอร์เอาศีรษะฝังต้นคอมายมิ้นท์ ไม่พูดอะไร แค่ตอบอืม แสดงออกว่าตัวเองได้ยินแล้ว และจำคำพูดเธอไว้ในใจ

ภายหลังมายมิ้นท์จึงไม่พูดอะไรอีก ทั้งสองคนก็กอดกันเงียบๆ แบบนี้

รู้ว่าโทรศัพท์มายมิ้นท์ดังขึ้น เปปเปอร์จึงปล่อยเธอไปอย่างอิดออด

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เห็นเบอร์ที่โชว์ก็ยิ้ม “คุณป้าน่ะ เดาว่าคงโทรมาถามว่าคุณชอบกินอะไร จะได้เตรียมอาหารเย็นคืนนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว