วินาทีนี้ ปีโป้หัวนึกย้อนกลับไปเมื่อวานซืนที่พี่ใหญ่ของเขาบังคับให้เขาขอโทษส้มเปรี้ยว
ทั้งๆที่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่เป็นเพราะเธอร้องไห้ออกมา พี่ใหญ่ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนผิด
และในครั้งนั้นก็คล้ายคลึงกับครั้งนี้
ในขณะที่เขากำลังคิด ปีโป้ก็ได้ยินเสียงของเปปเปอร์พูดขึ้นว่า “ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ ไปได้แล้ว”
ปีโป้จึงได้สติกลับคืนมาแล้ววิ่งอุ้มลูกบาสเกตบอลตรงเข้าไป “แล้วนักข่าวพวกนั้นล่ะ?”
“ถูกเปปเปอร์ไล่กลับไปหมดแล้วล่ะ” ส้มเปรี้ยวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ปีโป้มองไปยังเธอด้วยดวงตาอันซับซ้อน ดูเหมือนอยากจะมองเธอให้ทะลุไปทั้งตัว
ส้มเปรี้ยวรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่ถูกเขาจับจ้องมองอย่างนั้น จึงได้ยกมือขึ้นลูบคลำใบหน้าของตนเอง “น้องปีโป้คะ มองฉันทำไมแบบนั้น บนใบหน้ามีอะไรติดอยู่หรือเปล่า?”
“เปล่าครับ” ปีโป้ละสายตากลับมาแล้วส่ายหน้า
ส้มเปรี้ยวยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่ามีอะไรติดหน้าฉันเสียอีก”
“เอาล่ะขึ้นรถกันได้แล้ว ข้างหน้าคงจะมีนักข่าวอยู่อีก” เปปเปอร์เอื้อมมือมาโอบไหล่ของเธอไว้แล้วพูดขึ้น
ส้มเปรี้ยวพยักหน้าและตอบรับเบาๆ
จู่ๆปีโป้ก็พูดขึ้นว่า “พี่ครับ ผมไม่ไปกับพวกพี่แล้วนะ ผมมีที่อื่นต้องไปอีก”
“ไปไหน?” เปปเปอร์มองมาทางเขา
ดวงตาของปีโป้เป็นประกาย “นี่เป็นความลับครับพี่ เอาเป็นว่าเดี๋ยวยังไงผมจะตามกลับไปที่หลังก็แล้วกัน ขอตัวก่อนนะครับ”
เมื่อพูดจบเขาก็ถือลูกบาสเกตบอลวิ่งไปที่ถนนแล้วเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งเดินทางออกจากไป
ส้มเปรี้ยวมองไปทางเปปเปอร์ที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ปีโป้คงจะไปหาผู้หญิงคนที่ชอบรึเปล่าคะ ครั้งที่แล้วฉันเห็นเขาเหมือนอ่านจดหมายอยู่เลย”
จดหมาย?
เปปเปอร์เลิกคิ้วขึ้น เขานึกถึงจดหมายที่เห็นวางอยู่ในห้องปีโป้เมื่อวันก่อน
หรือจะเป็นจดหมายรัก?
“เปปเปอร์คะ คิดอะไรอยู่น่ะ?” ส้มเปรี้ยวใช้ไหล่ของเธอชนไปที่ชายหนุ่มเบาๆ
ชายหนุ่มได้สติกลับคืนมา เขากระแอมออกมาแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรเหรอครับ ไปกันเถอะ”
“ค่ะ” ส้มเปรี้ยวยิ้มตอบรับ
เมื่อขึ้นรถไปแล้วสายตาของเปปเปอร์ก็มองไปยังถนนด้านหน้า จู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ส้มเปรี้ยว เรื่องบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับคุณหรือเปล่า?”
เมื่อส้มเปรี้ยวได้ยินสิ่งนี้ เธอก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันใด ใบหน้าดูโศกเศร้าเล็กน้อย “เปล่านะคะ เปปเปอร์คุณกำลังสงสัยว่าฉันเป็นคนทำเหรอ?”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากเรียวบางของเขา เขาไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธ “ผมเห็นข่าวนั้นบนอินเทอร์เน็ต ด้านล่างเป็นแคปภาพหน้าจอที่ผมและมายมิ้นท์ดูการแข่งขันด้วยกัน ส่วนคุณก็บอกกับผมว่าคุณได้ชมถ่ายทอดสดด้วย”
คำพูดของมายมิ้นท์ไม่ผิด นั่นก็คือส้มเปรี้ยวมีโอกาสที่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาเนื่องจากว่าเธอหึงหวง
เพราะถึงอย่างไรเธอก็เคยทำแบบนั้นมาก่อน
ดวงตาของส้มเปรี้ยวเต็มไปความหม่นหมอง “เปปเปอร์คะทำไมคุณถึงคิดว่าฉันเป็นแบบนั้น? ใช่ค่ะฉันเคยดูถ่ายทอดสด ไม่อย่างนั้นฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณได้รับบาดเจ็บ แต่การที่ฉันได้ชมถ่ายทอดสดก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องทำเรื่องนี้นี่คะ อีกอย่างฉันก็เคยสัญญากับคุณแล้วว่าจะไม่ทำร้ายคุณมายมิ้นท์ ฉันจะกล้าทำให้คุณผิดหวังได้อย่างไร ถ้าคุณไม่เอาฉันแล้วฉันจะทำยังไงล่ะคะ?”
เมื่อพูดจบเธอก็หันหน้าไปอีกทางหนึ่งด้วยความโมโห สายตามองไปทางหน้าต่างโดยไม่สนใจเขา
หางตาของเปปเปอร์เหลือบไปเห็นท่าทางอารมณ์ที่บูดบึ้งของเธอ เขาก็รู้สึกใจอ่อนและเสียใจเล็กน้อย
บางทีเขาอาจจะคิดไปมากจริงๆ
“ขอโทษนะครับส้มเปรี้ยว ผมไม่ควรจะสงสัยคุณง่ายๆ แบบนี้” เปปเปอร์จอดรถที่ข้างทาง จากนั้นปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอนกายไปด้านข้างเพื่อกอดเธอ
ส้มเปรี้ยวซุกอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เธอพูดออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ของฉันและคุณมายมิ้นท์ไม่ดี ดังนั้นเมื่อคุณมายมิ้นท์เกิดเรื่องขึ้น ทุกคนก็จะสงสัยว่าฉันเป็นคนทำ ฉันชินแล้วล่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเปปเปอร์ก็รู้สึกปวดใจมากกว่าเดิม เขาตบลงที่หลังของเธอเบาๆเป็นการปลอบโยน “ผมจะไม่สงสัยคุณอีกต่อไปแล้วครับ”
“จริงเหรอคะ?” ส้มเปรี้ยวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาเปียกชุ่ม
“จริงครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...