ในเมื่อเขาอายุยังน้อย ทนความตกใจไม่ไหวนะ!
ด้านนี้ พอเปปเปอร์วางสายไปแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกนานเท่าไหร่ ก็เก็บโทรศัพท์ไป แล้วลุกขึ้นกลับเข้าไปในห้องนอน
ในห้องนอน หญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่ นอนหลับอย่างสงบสุขอยู่
เปปเปอร์ยืนอยู่ข้างเตียง จ้องมองดูใบหน้าหญิงสาวไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็โค้งตัวลงไป ลูบใบหน้าที่แดงระเรื่ออยู่เล็กน้อยของหญิงสาว แล้วถึงจะเปิดผ้าห่มออกแล้วขึ้นเตียงไป รวบตัวหญิงสาวมากอดไว้ในอก แล้วหลับตาลง
นอนหลับฝันดีไปตลอดคืน พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว
มายมิ้นท์ลืมตาขึ้นมา ก็รู้สึกว่ามีของอะไรวางทับอยู่บนเอวของเธอ กอดรัดเอวเธอไว้แน่น อย่างกับกลัวว่าเธอจะหนีไปยังไงอย่างงั้น
เธอนวดสายตาเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปมองดู ก็เห็นชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิทและยังไม่ตื่น บนใบหน้าเธอก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย
ปกติผู้ชายคนนี้จะตื่นเช้ามาก แล้วออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว
ดังนั้น ปกติพอเธอตื่นมาแล้ว ก็จะไม่เห็นเงาเขาเลย
คิดไม่ถึงว่าวันนี้ เขาจะตื่นสายกว่าเธอซะอีก
หรือว่า เมื่อคืนทำให้เขาเหนื่อยเกินไปเหรอ?
พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในที่สุดใจของมายมิ้นท์ก็สงบนิ่งได้นิดหน่อย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกครั้งหลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ก็จะเป็นเธอที่เหนื่อยอย่างกับหมา ไม่อยากขยับเขยื้อนสักนิด วันที่สองก็จะลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ
ส่วนตัวเขานั้น ก็ดูกระปรี้กระเปร่าอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าจะเล่นทั้งคืนไม่หลับไม่นอน วันที่สองก็ยังสามารถกระโดดโลดเต้นได้เช่นเดิม ไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าเลยสักนิด
ในที่สุดมาวันนี้เธอก็ได้เห็นภาพที่เขายังไม่ตื่นนอนแล้ว ทำให้เธอรู้ว่า ที่แท้เขาก็ไม่ได้ทำมาจากโลหะ ที่จะมีพละกำลังอยู่เต็มเปี่ยม ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย
ยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ มายมิ้นท์จ้องมองดวงตาทั้งคู่ที่หลับสนิทอยู่ของเปปเปอร์ หน้าตาตอนหลับที่สงบนิ่ง ดวงตากลอกไปมาเล็กน้อย ในดวงตาฉายแววเจ้าเลห์ซุกซนออกมาเสี้ยวหนึ่ง
จากนั้น เธอก็เลิกผ้าห่มออกเบา ๆ จากนั้นก็จับข้อมือของชายหนุ่มไว้ แล้วก็ค่อย ๆ เอามือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนเอวของตัวเองออกไป
ในตอนที่ขยับตัวนั้น เธอก็กลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มตื่นขึ้นมา จึงคอยหันไปมองชายหนุ่มที่นอนตะแคงและหันหน้ามาทางเธอตรง ๆ
พอเห็นว่าการกระทำของตัวเองไม่ได้รบกวนการนอนของชายหนุ่มแล้ว ถึงได้วางใจเอามือหนุ่มออกต่อไป แล้วก็เอามือชายหนุ่มออกไปทั้งหมด เอาไปวางลงข้างลำตัวชายหนุ่มเอง เธอถึงได้วางใจได้เปลาะหนึ่ง ใจที่ตื่นเต้นอยู่ก็กลับคืนสู่ที่เดิมสักที
“วู่ว์……” มายมิ้นท์ปาดเหงื่อบนหน้าผากออกเล็กน้อย
แล้วเธอถึงจะรู้ว่า ที่แท้ตอนที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ นั้น จะเหนื่อยมากขนาดนี้
พอส่ายหน้าเล็กน้อยแล้ว มายมิ้นท์ก็ไม่คิดอะไรอีก แล้วก็ยันร่างกายค่อย ๆ ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง จากนั้นก็เอี้ยวตัวไป เปิดลิ้นชักตู้หัวเตียงออก
เธอจำได้ เมื่อหลานวันก่อนเธอเพิ่งซื้อลิปสติกมาแท่งหนึ่ง ก็เอามาเก็บไว้ในลิ้นชักนี่แหละ
ในตอนที่มายมิ้นท์กำลังหาลิปสติกนั้น อยู่ ๆ ผู้ชายด้านหลังเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ดวงตาดำสนิทจ้องมองไปที่เธอที่ยังไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า แผ่นหลังที่ขาวนวลเปลือยเปล่า
จากการเอี้ยวตัวของเธอ แผ่นหลังนั่นก็บิดกันเป็นตัวSที่สวยงามมากตัวหนึ่ง กระดูกสะบักทั้งสองอันตรงแผ่นหลัง ก็นูนขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เกิดมุมที่สวยงามสองมุม ราวกับว่าจะมีปีกสีขาวสวยงามคู่หนึ่งงอกออกมา เห็นแล้วก็ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปแตะสักหน่อย
ฝ่ามือใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มของเปปเปอร์ถูกันทีหนึ่ง เรียวปากก็ค่อย ๆ ขยับขึ้น
แต่ว่าไม่นาน จากที่ร่างกายของหญิงสาวที่เคลื่อนไหวขึ้นมา เขาก็รีบหลับตาลงทันที มือก็ไม่ขยับแล้ว เรียวปากก็ไม่ขยับแล้ว ทั้งตัวกลับคืนสู่สภาพก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาเลย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลยยังไงอย่างงั้น
มายมิ้นท์ไม่รู้เลยว่าตอนที่ตัวเองหาของนั้น ชายหนุ่มด้านหลังได้ทำอะไรไปบ้าง
พอเธอหาลิปสติกของตัวเองเจอแล้ว ก็ชูขึ้นมาด้านหน้าตัวเอง จากนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วก็เปิดฝาลิปสติกออก แล้วหมุนลิปสติกออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...