รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 937

แล้วก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มพูดมา ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ไม่มีใครไม่ชอบพวกเสื้อผ้า รองเท้า และพวกเครื่องสำอางที่ผู้หญิงเขาชอบกันหรอก

เธอเองก็เหมือนกัน

แต่สำหรับของที่เปปเปอร์มอบให้คุณป้านั้น เธอกลับไม่ได้รู้สึกไม่พึงพอใจอะไรหรือน้อยใจอะไรทั้งนั้น

ในเมื่อคุณป้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของเธอ เป็นคนที่เธอนับถือเป็นแม่

แล้วของขวัญที่เปปเปอร์มอบให้กับแม่ของ ในฐานะที่เธอเป็นลูกสาว แน่นอนว่าต้องไม่มีทางรู้สึกไม่พอใจอะไรแน่ ในทางกลับกัน ยังรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ

และยิ่งไปกว่านั้น ของพวกนั้น เธอก็ยังเคยเห็นเองกับตามาหมดแล้วด้วย

และที่สำคัญ เธอไม่ได้รู้สึกว่าที่เปปเปอร์มอบของขวัญให้คุณป้า แล้วไม่ได้มอบให้เธอนั้นจะมีปัญหาตรงไหน

และไม่เคยคิดเลยว่าจะให้เปปเปอร์มอบให้เธออีกชุดหนึ่งด้วย

แต่คิดไม่ถึง ว่าตัวเปปเปอร์เองจะรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ดี เพราะฉะนั้นก็เลยแอบเตรียมไว้ให้เธออีกชุดหนึ่งเหมือนกัน ที่สำคัญยังเตรียมของขวัญที่ดีกว่าให้ชุดหนึ่งด้วย

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ในวินาทีนี้ ความภาคภูมิใจของเธอถูกเติมเต็มจนถึงขีดสุดแล้วจริง ๆ

ในส่วนของจิตใจลึก ๆ ก็รู้สึกว่ามีความสุขมากจริง ๆ

เพราะชายหนุ่มสามารถนึกถึงสิ่งเหล่านี่ได้ ก็ยืนยันได้แล้วว่า เขาใส่ใจและจริงใจต่อตัวเองจริง ๆ

คิดแล้ว ปลายจมูกของมายมิ้นท์ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา ดวงตาก็มีความร้อนผ่าวปะทุขึ้นมา

พอเปปเปอร์เห็นขอบตาแดงก่ำของเธอ ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที “ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ?”

เขายื่นมือออกไป เพื่อจะเช็ดน้ำตาให้เธอ

มายมิ้นท์กดมือของชายหนุ่มลงไป แล้วยิ้มทั้งน้ำตาขึ้นมา “ฉันดีใจต่างหากละคะ ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณจะเตรียมของขวัญให้ฉันอีกชุดหนึ่งด้วย”

เปปเปอร์เองก็หัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา “คุณเป็นคนรักของผม จะไปมีหลักการที่ผมมอบของขวัญให้คนอื่น แล้วลืมคุณไปได้ยังไง? ในทางกลับกัน สิ่งที่คนอื่นมี คุณก็ต้องมีด้วย แถมจะต้องมีมากกว่าและดีกว่าด้วย ของคุณนายราศรีเป็นพวกของสินค้าชั้นนำ แต่ของคุณ เป็นพวกของลิมิเต็ดทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคุณชอบไหมครับ?”

มายมิ้นท์จ้องมองไปที่ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม “คุณมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันยังไม่ชอบอีก งั้นก็รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วล่ะ?”

พูดจบ เธอก็เป็นฝ่ายเดินขึ้นหน้า แล้วโอบกอดตัวชายหนุ่มเอาไว้ “ฉันชอบมากค่ะ นี่เป็นของที่คุณตั้งใจเตรียมมาให้ฉัน ฉันดีใจมากค่ะ ขอบคุณค่ะเปปเปอร์”

ชายหนุ่มโอบกอดเธอไว้ แล้วก้มหน้าลงมาจูบลงตรงหน้าผากเธอ “ดีใจก็ดีแล้ว งั้นของขวัญพวกนี้ คุณคงจะไม่ปฏิเสธหรอกใช่ไหม?”

มายมิ้นท์ส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่ปฏิเสธค่ะ นี่เป็นของขวัญที่คุณตั้งใจเตรียมให้ฉัน ถ้าฉันปฏิเสธไป คุณจะไม่เสียใจเหรอคะ?”

เปปเปอร์ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

เขารู้มาตลอด ว่าเธอไม่ชอบให้เขามอบของขวัญที่ราคาแพงมากให้ เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจะมอบของขวัญให้ จึงต้องพยายามอดกลั้นมาตลอด

ไม่งั้น เขาจะมอบของขวัญให้เธอวันละชิ้น และไม่ให้ซ้ำกันสักวันแน่

เพราะฉะนั้น ในตอนที่เขาเตรียมจะมอบของขวัญให้นั้น จึงเป็นกังวลมาตลอด เป็นกังวลว่าเธอจะยอมรับไว้หรือเปล่า

ยังดีที่ครั้งนี้ เธอไม่ได้ปฏิเสธ

“ลองเปิดดูซิ?” พอกอดกันไปพักหนึ่ง เปปเปอร์ก็ค่อย ๆ คลายตัวมายมิ้นท์ออกเบา ๆ

มายมิ้นท์ส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอกค่ะ ตอนนี้ยังไม่แกะ ฉันอยากเอาไปค่อย ๆ แกะดูที่ห้องทำงาน คุณว่าไหมคะ ถ้าฉันหิ้วของขวัญพวกนี้เดินเข้าไปในห้องทำงานตลอดทาง เชื่อว่าจะต้องได้รับสายตาอิจฉาตาร้อนมากมายแน่?”

เข้าใจแล้ว เธอยากจะโอ้อวดนี่เอง

เปปเปอร์หัวเราะเสียงต่ำ แล้วแตะสันจมูกเธอไปเล็กน้อย “ได้ งั้นก็เอาไปค่อย ๆ แกะที่ห้องทำงานละกัน”

“แน่นอนอยู่แล้ว” มายมิ้นท์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย “ฉันก็แค่อยากจะบอกให้คนอื่นรู้ว่านี่เป็นของที่คุณมอบให้ฉัน ทำให้คนอื่นรู้ว่า คุณเป็นคนดีมาก และเป็นผู้ชายที่ดีกับฉันมาก”

“คุณสร้างภาพให้ผมแบบนี้ ไม่กลัวว่าผู้หญิงอื่นจะมาเล็งผมเข้าเหรอ?” เขายักคิ้วเล็กน้อย

มายมิ้นท์ทำเสียงหึทีหนึ่ง “ผู้หญิงที่เล็งคุณไว้มีอยู่เยอะแยะไม่ใช่เหรอคะ? เพราะฉะนั้นจะไปกลัวอะไร ถึงพวกหล่อนจะสนใจคุณยังไง แต่คุณก็ยังมีฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ? หรือคุณจะถูกพวกหล่อนแย่งไปได้เหรอคะ?”

“แย่งไม่ได้!” เปปเปอร์รีบตอบมาทันที

มายมิ้นท์หัวเราะขึ้นมา “นี่ก็ถูกแล้วไงคะ เพราะฉะนั้นฉันจะไปกลัวอะไรคะ”

เธอเชื่อมั่นเช่นนี้

พอเปปเปอร์รู้ว่า เป็นเพราะเธอเชื่อมั่นเขา ในใจก็อ่อนยวบไปหมด

“เอาล่ะ พวกเราไปบริษัทกันก่อนเถอะ” มายมิ้นท์เอาโทรศัพท์ออกมา ถ่ายรูปกระโปรงหลังรถรูปหนึ่งแล้ว ก็พูดกับเปปเปอร์ขึ้น

เปปเปอร์ลูบหัวเธอเล็กน้อย “ได้”

บนรถ มายมิ้นท์เอาแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ตลอด ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วก็คอยหัวเราะขึ้นมาเป็นพัก ๆ ด้วย

“ใช่” มีคนพยักหน้าเห็นด้วย “ประธานใหญ่จะต้องตั้งใจเอาถุงพาดซะสูงขนาดนั้นแน่ ๆ จะต้องตั้งใจโอ้อวดแน่ ๆ ตั้งใจจะให้พวกเราดูกัน”

“ฮา ฮา ฮา ประธานใหญ่นี่เกินไปแล้วจริง ๆ ตัวเธอสละโสดไปแล้วก็ช่างเถอะ แต่กลับยังมาทรมานคนโสดอย่างพวกเราอีก”

“ใช่เลย”

“แต่ว่า ฉันอยากรู้จังเลยว่าประธานเปปเปอร์มอบอะไรให้ประธานใหญ่ ดูซิทำให้ประธานได้ใจซะขนาดนั้น”

“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน หรือว่าพวกเราหาวิธีไปลองสอบถามดูดีไหม?”

“จะให้ใครไปสอบถามดีล่ะ?”

พอคำพูดนี้พูดออกมา ทุกคนก็หมดคำพูดไปเลย

พวกเขาล้วนเป็นแค่พนักงานที่อยู่ชั้นล่าง ถ้าจะให้คนไปสอบถาม ก็ต้องเป็นพวกคนที่อยู่ชั้นบนซิ

มีแต่คนพวกนั้น ที่จะเข้าใกล้ประธานใหญ่ได้

แต่ว่าพวกเขาไม่มีทางไปตีสนิทกับพวกคนที่อยู่ชั้นบนได้เลย

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าพอตัวเองเดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว พวกพนักงานจะพูดถึงตัวเองยังไง แต่เธอรู้ดีว่า พวกเขาจะต้องพูดถึงเธอแน่นอน

ตัวเองจะถูกพูดถึงยังไงนั้น เธอไม่สนใจ

ในเมื่อ เป้าหมายในการโอ้อวดของเธอ ได้สำเร็จแล้ว ก็เพียงพอแล้ว

มายมิ้นท์มาถึงห้องทำงาน แล้ววางของขวัญลงบนโซฟา กะว่าอีกเดียวค่อยแกะดู

ก่อนที่เธอจะแกะของขวัญ จะต้องเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาก่อน แล้วตรวจดูตารางงานวันนี้สักหน่อย ถึงจะวางใจไปแกะของขวัญ

พอดูตารางงานวันนี้แล้วแน่ใจว่าไม่มีอะไรสำคัญแล้ว มายมิ้นท์ถึงได้วางใจเดินออกจากโต๊ะทำงานไป แล้วมาถึงตรงโซฟา

ในตอนที่เธอกำลังจะแกะของขวัญนั้น ประตูห้องทำงานก็ถูกคนเคาะเสียงดังขึ้นมา

มายมิ้นท์หยุดท่วงท่าในมือไปก่อน แล้วเงยหน้ามองไป “เชิญเข้ามาค่ะ”

ไม่นาน ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก แล้วเลขาซินดี้ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก

พอเห็นเธอ มายมินท์ก็อึ้งไปเลยทั้งตัว แล้วลุกขึ้นมาถามอย่างแปลกใจขึ้นว่า “เลขาซินดี้? ทำไมคุณถึงอยู่ที่บริษัทล่ะ? วันนี้คุณจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว