เย่เซียวใช้มือเดียวกดบั้นท้ายเธอไว้อย่างไม่แคล้วใจ “คุณ…ไม่รู้สึกอะไรกับผมสักนิดเลยเหรอ?”
“…”แพขนตาเธอสั่นกึก ค่อยๆ เปิดเปลือกตามองเขา “ปกติคุณกับน่าหลัน…ก็ดุดันแข็งกร้าวแบบนี้ ไม่สนใจความอยู่ความตายของคนอย่างนี้เหรอ?”
“!” เย่เซียวหน้าเย็นชา “เรื่องของเรา อย่าลากเธอเข้ามาเกี่ยว”
เธอหัวเราะน้อยๆ “นั่นสิ…เธอดูอ่อนแอขนาดนี้ เกรงว่าจะทนการกระทำป่าเถื่อนของคุณแบบนี้ไม่ไหว งั้น…คุณจะทำต่อไหม? ถ้าทำฉันจะทนไว้ ถ้าไม่ทำ…ฉันจะเข้าไปทายา…”
“ทำบ้าอะไร!”
เขาตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ
ทนไว้?
มีอะไรกับเขา สำหรับเธอแล้วมันเป็นเรื่องที่ต้องทนขนาดนั้นเชียวหรือ?
เย่เซียวถอนตัวออกมากะทันหันเรียกเสียงครางอย่างเจ็บปวดจากไป๋ซู่เย่ สองขายืนไม่นิ่งจนแทบทรุดลงพื้นแต่ถูกเย่เซียวช้อนตัวขึ้นมาก่อน
บนเรียวขาขาวเนียนของเธอมีรอยหยดเลือดชวนให้ปวดขมับตุบๆ ทั้งที่อยากเห็นเธอโดนทรมาน แต่ตอนนี้พอเห็นเธอเลือดไหลกลับไม่รู้สึกดีใจสักนิด!
ไป๋ซู่เย่เจ็บจริงๆ ไม่คิดขัดขืนได้แต่ปล่อยให้เขาอุ้มตัวเองกลับห้องไป
เขาเปิดไฟค้นหาของบางอย่างบนหัวเตียงเธอ
“คุณหาอะไร?”
“ยาที่ซื้อคืนนั้นล่ะ?”
ไป๋ซู่เย่ชะงักงัน ลืมตามองเขา “คุณหมายความว่า…ยานั่น คุณออกไปซื้อคืนนั้นเหรอ?”
เย่เซียวชะงักมือที่กำลังพลิกหาของอยู่และเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อครู่หลุดปากพูดไปเพราะความร้อนใจ
ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น
สักพักหันข้างแค่นหัวเราะเย้ยเธอ “ทำไม? คิดว่าผมซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะเหรอ?”
“…”หัวใจของไป๋ซู่เย่ดิ่งลงอีกครั้ง เรื่องที่คิดไปเองจะยิ่งทำให้ดูเป็นตัวตลก เธอซุกหน้ากับหมอนกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง “คุณไม่ต้องหาแล้ว ยาฉันลืมไว้ที่บ้าน…แล้วก็…”
เธอหยุดไปช่วงหนึ่งพร้อมยกหน้าขึ้นหน้าจากหมอน
“คราวหลัง…คุณช่วยฝึกเทคนิคตัวเองให้ดีแล้วค่อยมาทำกับฉันได้ไหม? ฝีมือแย่ขนาดนี้ จะทำให้ฉันรู้สึกสงสารน่าหลันที่คอยอดทนกับคุณมานานขนาดนี้”
สีหน้าเย่เซียวถมึงทึง กัดฟันกรอด “…ไป๋ซู่เย่ อยากตายหรือไง!”
เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้จะฝีปากกล้าขนาดนี้
ไป๋ซู่เย่ไม่สนใจเขาอีก
เกิดเสียงดัง ‘ปัง!’ประตูถูกกระแทกปิดก่อนเจ้าตัวจะออกไป
เธอนอนคว่ำหน้ากับหมอนปล่อยให้น้ำตาไหลทะลักจากดวงตาจนเปื้อนปลอกหมอนอย่างไม่รู้ตัว
เดิมทีอยากลุกไปอาบน้ำสักหน่อยแต่ลองขยับตัวดูแล้วยังรู้สึกเจ็บอย่างมาก จึงตัดสินใจนอนคว่ำแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น
…………………………
ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะหลับไปทั้งอย่างนี้จนถึงเช้าอีกวัน แต่สามสิบนาทีหลังจากนี้ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง
เธอแค่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้แล้วว่าเย่เซียวกลับมาแล้ว เธอกลัวว่าเขาจะเป็นบ้าอารมณ์คลั่งแล้วทรมานเธอ เลยหลับตาแกล้งหลับอยู่บนหมอน
ดีที่เขาไม่ได้เปิดไฟ ความมืดช่วยให้เธอพรางตัวได้ ไม่ให้เขามองเธอออกได้ง่ายขนาดนั้น
“หลับแล้วเหรอ?” เย่เซียวเดินมาข้างเตียงถามหยั่งเชิง
เธอไม่ตอบ เขาคงไม่ถึงกับฝืนทำกับเธอในตอนที่เธอยังหลับอยู่หรอกนะ
ขณะที่คิดอยู่ชั่วครู่ต่อมาผ้าห่มบนตัวถูกเลิกออก
ความเย็นถาโถมเข้ามาเรียกให้เธอย่นคิ้วน้อยๆ ไม่ทันตั้งตัวที่ว่างข้างกายก็ยวบลง ร่างที่ร้อนดังไฟเพลิงขยับเข้าใกล้เธอ
หมายความว่า…
เธอเข้าใจเขาผิดไป?
อื้อ
ความรู้สึกสบายที่ทำเอาเธอรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาจนเธอแทบหลุดเสียงคราง เธอกัดปากแน่นห้ามตัวเองไม่ให้ขายหน้า กลับรู้สึกได้ถึงชายหนุ่มข้างๆ ที่ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจก็หอบหนักขึ้นเรื่อยๆ…
“อยากได้เหรอ?” เย่เซียวอ้าปาก เสียงแหบจนน่าใจเต้น
“ใครอยากได้?”ไป๋ซู่เย่สูดหายใจลึก กัดปากล่างไว้อย่างดื้อดึง “คนอยากได้คือคุณหรือเปล่า?”
“…”เย่เซียวไม่ได้ปฏิเสธ ดวงตาร้อนระอุเหมือนมีไฟลุกโชนจ้องเธอเขม็ง สายตานั่นคล้ายว่าต้องการกลืนกินเธอหมดทั้งตัวไม่เหลือซาก ต่อให้อยู่ในความมืดไป๋ซู่เย่ก็รู้สึกถึงมันได้ดี ทั้งที่เป็นวันอากาศหนาวเย็นแต่กลับรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว บนจมูกรั้นเล็กๆ ชื้นด้วยเหงื่อชั้นบางๆ
“เย่เซียว พอแล้ว…” ในที่สุดก็ทนต่อไม่ไหว เธอคู้ตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อหลบมือเขา หายใจแผ่วน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่เจ็บแล้ว…”
เย่เซียวไม่ได้ตามตื๊อเธออีก
ไป๋ซู่เย่เดิมทีอยากถามเขาว่ายานี่ได้มาจากไหนแต่เขากลับพลิกตัวออกไปจากกองผ้าห่มอย่างฉับไว
ลงจากเตียงเสร็จโยนหลอดยาใส่หัวเตียง “ในเมื่อไม่เจ็บแล้วก็พักผ่อนไวๆ ยานี่ ทาตามเวลาด้วย”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไปอย่างไม่ลังเล
ไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ
ไป๋ซู่เย่โผล่หัวออกมามองเขานิ่งกระทั่งประตูถูกปิดลงเธอถึงถอนสายตาออกอย่างผิดหวัง
เขาจากไปอย่างไม่ลังเลขนาดนั้น ไม่เหลือเยื่อใยเพียงนิดคล้ายว่า…ภาพที่เขาทายาให้เธอเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาของเธอ
เธอกอดผ้าห่มค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง เปิดไฟหัวเตียงก็เห็นว่าหลอดยานั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนหัวเตียง
……………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!