แค่ฟังก็คล้ายจะมีลมพายุลูกใหญ่ใกล้เข้ามา
ไป๋ซู่เย่รู้ว่าเขาไม่ชอบใจอวิ๋นช่วนมาก คนคนนี้นิสัยเอาแต่ใจเหมือนเมื่อสิบปีก่อนแทบไม่เปลี่ยน ต่อให้เขาไม่ชอบเธอมากขนาดไหน ต่อให้เขาเกลียดชังเธออย่างไร แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงสัญญากับเขา จึงไม่อนุญาตให้เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนอื่น
“เดี๋ยวฉันจะไปทานข้าวเย็นกับแม่ฉัน” ไป๋ซู่เย่เปิดตู้เสื้อผ้าค้นหากระโปรงไปคุยกับเขาไป “ตอนเย็นคุณทำกับข้าวเอง หรือจะให้ฉันห่อกลับมาให้คุณ?”
“มีแฟนของคุณอยู่ รัฐมนตรีไป๋ยังนึกถึงผมอยู่เหรอ?” เย่เซียวเงยหน้าใช้สายตาเย็นชาจ้องเธอโดยที่มีเตียงขวางกั้น
เธอไม่ได้หันกลับไปมองยังสัมผัสได้ถึงสายตาเยือกเย็นของเขา คล้ายจะมองเธอให้ทะลุ เธอเลือกกระโปรงสักตัวออกมาแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ ไม่ได้ตอบกลับเขา พูดเพียง “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เปลี่ยนเสร็จค่อยออกมาคุย”
สักพักเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมา
เย่เซียวเห็นเธอตั้งใจแต่งตัวมาอย่างดี ไฟนิรนามที่สุมในอกก็ลุกพรวดขึ้นมาฉับพลัน
เขาดันเธอเข้าไปในห้องน้ำ ดูดดังกัดทึ้งตามลำคอเธอ ทั้งที่ร่องรอยก่อนหน้าที่ทิ้งไว้บนลำคอจางลงไปบ้างแล้วแต่ตอนนี้กลับถูกเขาประทับใหม่
“เย่เซียว คุณหยุดบ้าได้แล้ว!” ไป๋ซู่เย่ผลักเขาแล้วทุบไหล่เขา “ถ้าคุณทำอย่างนี้ฉันจะออกไปยังไง?”
เย่เซียวหายใจหอบหนักผละห่างจากลำคอเธอ สายตาขึงขังจ้องเธอ “คุณต้องไปให้ได้ใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันต้องไปให้ได้” คุณหญิงไป๋มาเองแล้วเธอไม่มีทางปฏิเสธที่จะทานอาหารเย็นกับท่าน ถูกเขาระบายอารมณ์ใส่อย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ แถมยังกัดเธอจนเจ็บ เธอก็เริ่มอารมณ์เสียแล้วเหมือนกัน
“ได้ งั้นก็ไสหัวไป!” เย่เซียวปล่อยเธอ เขารู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองเริ่มอยู่เหนือการควบคุมบ้างแล้ว ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้มันแย่มาก! ตลอดช่วงบ่ายนั่งรอในห้องนี้จนความอดทนแทบจะร่อยหรอ!
ทุกนาทีช่างทรมาน ทุกนาทีมัวแต่คิดว่าเธอกำลังคุยอะไรกับผู้ชายคนนั้น กำลังทำอะไร แล้วทำไมถึงต้องใช้เวลาตลอดทั้งบ่าย?!
ส่วนเขากลับถูกเธอทิ้งไว้ในห้องนี้เหมือนโจร ไม่สนใจใดๆ! ความรู้สึกที่ต้องหลบซ่อนไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้อย่างนี้ มันแย่มากจริงๆ!
ไป๋ซู่เย่ไม่ให้เย่เซียวส่งผลกระทบต่ออารมณ์ตัวเองจนทำใจให้เย็นลงได้ สำรวจดูรอยจูบบนคอตัวเองที ยังดีที่ปล่อยผมลงแล้วไม่เห็น เธอจัดผมเล็กน้อย ก่อนออกไปหันกลับมามองเย่เซียวที่ยืนสูบบุหรี่ตรงระเบียงแวบหนึ่ง “ตอนค่ำฉันจะเอาข้าวกลับมาให้คุณ คุณรอหน่อย ฉันจะพยายามรีบกลับ”
ว่าแล้วปิดประตูออกไปโดยไม่สนใจเย่เซียวอีก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งที่เป็นแค่การร่วมมื้ออาหารธรรมดา อีกทั้งนอกจากความสัมพันธ์อย่างนั้นกับเย่เซียวมันไม่มีชื่อเรียกด้วยซ้ำ แต่พอถูกเขาซักถามกลับรู้สึกผิดในใจแปลกๆ
เขาล่ะ? ที่โกรธหนักขนาดนี้เพราะอะไร? เพียงเพราะความแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของตัวเองหรือ?
……………………………………
เธอใส่กระโปรงยาวสีแดงเข้มเป็นที่ตะลึงเพราะความสวยงามเย้ายวน แต่มีผ้าพันแผลบนศีรษะจึงค่อนข้างส่งผลต่อความงามเล็กน้อย ก่อนออกจากบ้านคุณหญิงไป๋เลือกหมวกใส่ให้เธอ อวิ๋นช่วนมองเธอด้วยแววตาที่สื่อความหลงใหลอย่างชัดเจน เธอกลับไม่มีอารมณ์ร่วม
ร้านอาหารที่เขาจองอยู่ไม่ไกลจากเซียงเซี่ยกู่ที่เธอพักอาศัย พอพวกเขาปรากฏตัวคนในร้านอาหารก็ถลาเข้ามาต้อนรับ
มื้ออาหารนี้ไป๋ซู่เย่ทานอย่างไม่สบายใจนัก เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะและเหลือบมองเป็นพักๆ แต่…จนทานข้าวเสร็จเย่เซียวไม่โทรหาเธอแม้แต่สายเดียวหรือแม้แต่จะส่งข้อความสักข้อความ
รอออกจากร้านอาหารกำลังจะกลับ ไป๋ซู่เย่ถึงโล่งอกผ่อนคลายลง
“ผมไปส่งคุณก่อนค่อยส่งคุณหญิง” อวิ๋นช่วนออกจากร้านอาหารแล้วพูดขึ้น
คุณหญิงไป๋ตอบ “ไม่ต้องหรอก ไปส่งฉันก่อนค่อยส่งซู่ซู่เถอะ”
ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าคุณหญิงไป๋กำลังสร้างโอกาสให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน จงซันอยู่ห่างจากตรงนี้ตั้งไกล ไปๆ มาๆ ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมง
ไป๋ซู่เย่มีเรื่องติดค้างในใจเลยไม่มีใจจะยืดเยื้อกับคุณหญิงไป๋ต่อ จึงตอบกลับว่า “ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจฉันหรอก ฉันเรียกรถกลับเองได้ ไม่ไกลมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!