สรุปเนื้อหา ตอนที่ 672 – อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! โดย Internet
บท ตอนที่ 672 ของ อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! ในหมวดนิยายRomantic เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“เปลี่ยนคนที่ไหนกันล่ะ? เธอมาใหม่ไม่รู้ล่ะสิ วันนี้คุณน่าหลันที่มาพร้อมกับเขา เมื่อก่อนผู้อำนวยการตอนล้อเล่นเรียกเธอว่า ‘พี่สะใภ้’ บ่อยเชียวล่ะ! คุณเย่เซียวได้ยินก็ไม่ปฏิเสธ พวกเขาสองคนคู่กันมาตั้งแต่แรกแล้ว”
เธอหายใจติดขัด
“หมายความว่าคุณไป๋ต่างหากที่มาทีหลัง?” เหล่าพยาบาลยังคงพูดต่อ
“แน่นอนสิ! เธอไม่สังเกตเห็นเหรอว่าคุณไป๋กับคุณน่าหลันหน้าตาคล้ายๆ กัน ฉันว่าที่คุณเย่เซียวดีกับคุณไป๋ขนาดนี้ก็น่าจะเพราะหน้าที่แอบคล้ายคลึงกับคุณน่าหลันมากกว่าเลยเผลอรักไปด้วยน่ะสิ”
ไป๋ซู่เย่คอยฟังทีละประโยคๆ ขณะเคลื่อนตัวเข้าไปในลิฟต์ช้าๆ ลงไปชั้นล่างโดยที่เจ้าตัวทำหน้าเรียบนิ่งไม่ให้คนอื่นจับอารมณ์ที่ผิดปกติได้ แต่เจ้าตัวกลับเย็นชาผิดแปลกไปจากเดิม เย็นชาจนน่ากลัวคล้ายว่าเป็นร่างว่างเปล่า ไร้วิญญาณ
…………………………
จากนั้นไป๋ซู่เย่ไม่ได้กลับไปที่ห้องทำงานของถังซ่งอีก
ผลตรวจออกมาก็มีคุณหมอท่านอื่นคอยดูให้ ยังดีที่ไม่มีอะไรหนักหนา
ทำการตรวจทุกอย่างเสร็จก็ใกล้เวลาเลิกงานของโรงพยาบาล ตอนออกมาอากาศค่อนข้างดี แต่ตอนนี้กลับฝนตก
วันนี้ไม่ได้ขับรถออกมาเพราะที่จริงแล้วหลายวันนี้เธอพยายามหลีกเลี่ยงไม่ขับรถ ด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่จึงไม่อยากล้อเล่นกับชีวิต เธอยืนโบกรถเมล์ด้านนอก
แต่ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ คนเลิกงานก็มากขึ้นเรื่อยๆ ยังคงไม่มีรถแท็กซี่ที่ว่าง เธอยกแขนไว้เหนือศีรษะเพื่อบังฝนแม้จะไม่ได้ผลอะไร…เริ่มเสียใจที่ตนไม่ได้ขับรถมา
รอพักใหญ่มีรถคันหนึ่งฝ่าฝนมาจากด้านหลัง เห็นได้ชัดว่ากำลังจะขวางทางที่เธอจะไปและรถคันนั้นกดแตรเสียงดังรัวๆ ไป๋ซู่เย่เผลอหันกลับไปมองก็เห็นป้ายรถทะเบียนที่แสนคุ้นตา รถคันที่คุ้นเคย…
มีหยาดน้ำฝนกับหน้าต่างบานหนากั้นไว้ เธอยังเห็นสายตาเย็นชาเรียบนิ่งของเย่เซียวคู่นั้นที่กำลังจดจ้องเธอนิ่งได้ชัดเจน น่าหลันนั่งอยู่ตรงข้างคนขับ สายตาของเธอแฝงด้วยความไม่สบายใจปนระแวงเช่นเคย
ไป๋ซู่เย่เบี่ยงตัวหลบโดยการที่เหยียบขึ้นไปยืนทางเท้าเดินข้างๆ
เดิมทีหลงคิดว่าพวกเขาน่าจะไปได้แล้ว กลับไม่คิดว่าเพิ่งออกมา
ขณะที่รถยนต์เคลื่อนผ่านข้างกายเธอไปกลับชะลอจอด กระจกรถเลื่อนลงช้าๆ ถังซ่งโผล่ครึ่งใบหน้ามาเชื้อเชิญเธอ “ขึ้นรถสิ ฝนหนักเกินไปแล้ว”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เราไม่ได้ไปทางเดียวกัน” เธอไม่ได้ซื่อขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าคนในตำแหน่งคนขับกับข้างคนขับไม่ต้อนรับเธอ เย่เซียวยังคงเหยียดหลังตรงไม่หันข้างสักนิด น่าหลันกลับเบนหน้ามามองเธอแวบหนึ่งด้วยสายตาที่สื่อความหมายชัดเจน
“หัวคุณตากฝนไม่ได้ กลับไปถ้าติดเชื้อจะสาหัสมากเลยนะ!” ถังซ่งตักเตือนตามหน้าที่ในมุมของคุณหมอ
“อืม ฉันจะไปนั่งรถไฟใต้ดินเดี๋ยวนี้”
เพิ่งสิ้นคำของเธอไม่รอถังซ่งเลื่อนกระจกขึ้นรถยนต์ก็ถูกเหยียบคันเร่งจนพุ่งทะยานออกไปไกล น้ำกระเด็นไปรอบข้าง
…………………………
รอพวกเขาจากไปไป๋ซู่เย่ยืนรอข้างถนนอยู่ราวสิบนาทีจนเจ้าตัวเหมือนลูกหมาตกน้ำ แต่ก็ไม่มีรถมาสักที เธอได้แต่เดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน ท่าทางวันนี้จะเรียกแท็กซี่ไม่ได้เสียแล้ว ถึงจะเรียกแท็กซี่ได้จริงๆ จากสถานการณ์รถติดแทบไม่เขยื้อนตัวในขณะนี้เกรงว่าถึงบ้านอีกทีน่าจะสามทุ่มกว่า
ปากทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินยังห่างจากโรงพยาบาลอยู่ระยะหนึ่ง อีกทั้งฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ นี่มันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ! แต่จะทำอย่างไรได้? เดินต่อไปเถอะ!
เธอตัดสินใจไม่ใช้มือบังฝนอีก เหยียบรองเท้าส้นสูง เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงสีเขียวเข้มเดินท่ามกลางสายฝนไปช้าๆ
ตอนนี้ไม่ใช่ว่าควรอยู่กับน่าหลันและถังซ่งหรือ?
ความรู้สึกอยากร้องไห้ตีตื้นขึ้นมา ความเฉยชาที่เสแสร้งมาก่อนหน้าเริ่มประคองต่อไม่ไหว “คุณปล่อยฉัน”
น้ำเสียงของเธอไม่ได้ดีมาก แม้แต่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงโกรธ รู้แค่มีไฟนิรนามลุกโชนในใจและมันถูกกดทับไว้สองวันเต็มๆ
ตั้งแต่โทรศัพท์ในคืนนั้นมาถึงเวยป๋อของน่าหลัน แล้วก็เมื่อครู่…
น่าขำสิ้นดี
ตัวเองเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือว่าอย่าโกรธ อย่าไปสนใจ ลืมไปแล้วหรือ? แล้วไหง…ถึงได้ลากน่าหลันมาเข้าเกี่ยว เธอไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีกแล้ว? นี่มันสวนทางกับคุณสมบัติอาชีพเธออย่างสิ้นเชิง
“เพิ่งสองวัน คุณก็สูงส่งจนผมแตะต้องไม่ได้เชียวเหรอ?” เย่เซียวประชด กวาดสายตาดูถูกผ่านตัวเธออย่างไม่เกรงใจ “ทุกที่บนตัวคุณ มีตรงไหนที่ผมยังไม่เคยสัมผัสบ้าง?”
“…” มือคู่นั้นของเขาที่เคยสัมผัสเธอ ก็เคยใช้สัมผัสทุกตารางนิ้วบนตัวน่าหลันเช่นกัน
เพราะความคิดนี้ไป๋ซู่เย่เริ่มหายใจหนักอึ้งขึ้นกว่าเดิมมาก
“เย่เซียว ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณกลางถนน คุณไปทางของคุณ ฉันไปตามทางของฉันเถอะ ลาก่อน” เธอไม่อยากคุยกับเย่เซียวไปมากกว่านี้ หันหลังเดินไปยืนใต้ร่มของชายแปลกหน้านั่นอีกครั้งแล้วบอกอีกฝ่าย “ต้องยืมร่มคุณอีกสักหน่อยนะ ขอโทษที”
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!