ราวกับถูกหลอกล่อยั่วยวน เธอโน้มหน้าประกบปากชายหนุ่มอย่างงงงวย
เธอจูบเขาแผ่วเบา
ปนด้วยความรักที่ลึกซิ้ซึ้ง ความเจ็บปวดที่แสนเข้มข้น ละทิ้งสติสัมปชัญญะทั้งหมด ปล่อยตัวไปตามอำเภอใจ ไม่กล้าไปพิจารณาว่าการกระทำเช่นนี้ของตนนั้นถูกหรือผิด
แต่ต่อให้ทำตามอำเภอใจขนาดไหนก็เป็นเพียงชั่วคราว ไป๋ซู่เย่คอยหักห้ามใจไว้ คอยอดทนอดกลั้นไว้ไม่กล้าให้ตัวเองจมดิ่งไปมากกว่านี้ แค่แนบริมฝีปากชายหนุ่มอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบีบบังคับให้ตัวเองถอนตัว แต่ขณะที่เธอกำลังจะถอนตัวนั้นแขนยาวของชายหนุ่มกลับยื่นออกมาจากผ้าห่มคว้ามือเธอไว้
เธอสะดุ้งน้อยๆ
เขาตื่นแล้วหรือ?!
เธอลืมตาก้มมองเขา ท่าทางเขาไม่ได้มีสติ ดูจากสีหน้าท่าทางกำลังพยายามหยัดตัวขึ้นมาแต่สุดท้ายก็ล้มเหลว สติพร่ามัวแต่มือยังดื้อดึงจะกุมมือเธอไม่ปล่อย
“เย่เซียว?” เธอขานเรียกชื่อเขาเบาๆ
เพราะพิษไข้ทำให้ฝ่ามือเขาร้อนผ่าว กลีบปากขาวซีดขยับคล้ายกำลังพึมพำบางอย่าง ไป๋ซู่เย่โน้มตัวลงเงี่ยหูชิดปากเขาเพื่อฟังรายละเอียด
“ซู่ซู่…”
เธอตัวสะท้านเฮือก
หัวใจเจ็บปวดรุนแรง หัวใจเหมือนกำลังจะปริแตก
คำนี้…ไม่ได้ยินมานาน…
เธอคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้ยินเขาเรียกตัวเองเช่นนั้นอีก…
“ฉันอยู่นี่” เธอวางแก้วน้ำลงคว้ามือเขากลับ
“…เจ็บมั้ยไหม?” เขาพึมพำเสียงถามด้วยสติที่พร่ามัว
“ไม่เจ็บ ไม่เจ็บเลยสักนิด…” เธอส่ายหัว ขอบตาเริ่มแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะแผลตรงไหล่หรือแผลตรงนิ้ว ชั่ววินาทีนี้เหมือนหายเป็นปลิดทิ้ง
เย่เซียวกึ่งหลับกึ่งตื่น อยู่ๆ แขนยาวโอบตัวเธอให้คร่อมทับบนตัวเขา ไป๋ซู่เย่กลัวจะทับโดนแผลบนตัวเขาเลยชะงักท่าไว้ จากนั้นเลิกผ้าห่มออกมุดเข้าไปในผ้าห่มเขาด้วยตัวเอง ขยับเข้าใกล้เรือนร่างที่ร้อนระอุของเขา เขาแทบจะรั้งตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดด้วยสัญชาตญาณราวกับได้รับกลิ่นที่ทำเขาเป็นบ้าได้
กอดแน่นเกินไปจนเหมือนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด จะล็อกตัวเธอไว้ข้างกายตลอดเวลา ให้หลอมตัวเป็นร่างเดียวกัน
ไป๋ซู่เย่รู้สึกแสบจมูก สองแขนโอบลำคอเขาอย่างรักใคร่ ซุกหน้าตรงซอกคอเขาอย่างหักห้ามใจไม่ไหว หัวใจที่หนาวเหน็บมานานเพิ่งรู้สึกอุ่นขึ้นเล็กน้อยในยามนี้
ได้กอดเธอ จังหวะหายใจของเขาก็เริ่มคล่องขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนทำท่าเหมือนคิดถึงกันและกัน ยิ่งขยับก็ยิ่งใกล้ ยิ่งใกล้ขึ้นเรื่อยๆ…
………………………………
ค่ำคืนนี้เขานอนหลับสนิท เธอเองก็เช่นกัน
ราวกับเป็นคืนแรกในสิบกว่าวันที่ผ่านมา เพียงแต่วันรุ่งขึ้นเช้าตรู่ขณะที่นอกหน้าต่างยังไม่ทันฟ้าสว่างด้วยซ้ำ เธอก็ตื่นแล้ว ตลอดทั้งคืนนี้ความจริงนอนไปแค่ไม่ถึงสี่ชั่วโมงเท่านั้น
เขาไม่ได้ตื่น
ตรงเอวเธอ มือของเขายังคงใช้แรงมหาศาลในการยึดตัวเธอไว้
เธอลูบจับร่างกายของเขาและใช้หน้าผากของตนแนบชิดหน้าผากของเขา มั่นใจว่าอุณหภูมิตัวเขาคงที่ถึงโล่งอก
อาศัยแสงไฟสลัวตรงหัวเตียง เธอซบไหล่เขามองเขาอยู่นานแสนนาน…
เธอต้องไปแล้ว…
การหลับใหลไปพร้อมอ้อมกอดนี้ ไม่คู่ควรกับพวกเขาในยามตื่น
จับมือเขาเลื่อนออกจากเอวอย่างระมัดระวังด้วยความขมขื่น คล้ายความรู้สึกว่างเปล่านั่นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก เดิมทีหัวคิ้วที่ผ่อนคลายเริ่มขมวดคิ้วตึงเพราะการถอนตัวออกของเธอ ไป๋ซู่เย่กลัวเขาตื่นเลยหยิบหมอนใบหนึ่งมาให้เขากอดไว้ เป็นไปตามคาดเมื่อสีหน้าเขาค่อยๆ ผ่อนคลายลง
เห็นท่าทางเขาเช่นนี้ เธอยกยิ้มจางๆ
พลิกตัวลงจากเตียงแล้วจัดผม เข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดของเขาออกก่อนสวมใส่ชุดนอนตัวเดิมของเมื่อคืนของตน ย่องเท้าเดินออกจากห้อง
ถังซ่งเข้ามาก็เห็นการกระทำนี้ของเขาพอดี
“เช้าตรู่ท่านก็เริ่มทะเลาะกับหมอนแล้วเหรอ?” ถังซ่งเดินเข้ามาเพียงลำพัง เก็บหมอนขึ้นมาโยนไว้บนโซฟาข้างๆ
เย่เซียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่งไม่ตอบ
จากนั้นทิ้งสายตาเย็นชาไปนอกหน้าต่าง
“ดูอะไร?” ถังซ่งเองก็มองไปตามสายตาของเขา จากนั้นยกยิ้มมุมปาก “ดูไป๋ซู่เย่ที่อยู่ตรงข้าม?”
“ถังซ่ง ทางที่ดีนายอย่ามายั่วโมโหฉันแต่เช้า” เย่เซียวถอนสายตากลับมา
“เธออยู่ห้องนั้นไง” ถังซ่งพยักพเยิดปลายคางไปยังฝั่งตรงข้าม “นายมองไปนอกหน้าต่างไม่ได้จะดูเธอหรือไง?”
เย่เซียวชะงักนิ่งไปชั่ววูบก่อนจะเบนสายตาไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ครั้งนี้กำลังมองหน้าต่างบานนั้นจริงๆ
เพียงแต่ตรงบริเวณหน้าต่างกลับไร้เงาใดๆ
“เมื่อคืนดูแลนายทั้งคืนเลยไม่ค่อยได้นอน ตอนนี้น่าจะกำลังพักผ่อนอยู่” ถังซ่งพูดไปพลางหยิบเครื่องมือวัดอุณหภูมิง่ายๆ ออกมาจาก**บ
เย่เซียวถลึงตาใส่เขา “ที่นี่ไม่มีคนแล้วหรือไง นี่นายกล้าให้เธอเข้ามาอยู่ในห้องของฉัน!”
“นายสองคนชอบสู้กันไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้มีแผลกระสุนทั้งสองคน ถ้าสู้กันจริงๆ ไม่คนใดก็คนหนึ่งตาย ฉันคิดอยู่ว่าไม่แน่พวกนายสองคนอาจจะสร้างบทละครฉากใหญ่ออกมาได้ สุดท้ายพวกนายสองคนกลับทำให้ฉันผิดหวัง ไม่สิ น่าจะบอกว่าเธอทำให้ฉันผิดหวัง” ถังซ่งมองเขาแวบหนึ่ง “เธอเจ็บหนักเพราะนายขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ได้ฉวยโอกาสแก้แค้นนาย กลับยังดูแลนายทั้งคืน นายว่า มันไม่สนุกเลยใช่มั้ยไหม”
เย่เซียวเขม่นตาใส่เขาวูบหนึ่ง
หน้าบึ้งตึงไม่พูดอะไรอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้กำลังคิดอะไร
ถังซ่งกำลังตรวจร่างกายให้เขา สักพักหนึ่งได้ยินแค่เสียงทุ้มต่ำของเขาถามขึ้น “มือ เป็นอะไรไป?”
……………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!