เมื่อกี้เจอเขาที่ห้างสรรพสินค้าก็นับว่าบังเอิญแล้ว ตอนนี้อยู่ที่นี่…บนถนนใหญ่ กลับเจอเขาอีก ก็นับว่าบังเอิญได้ไหม? หรือว่า…
หัวใจสั่นไหว ไม่กล้าคิดไปไกล
แต่ชายหนุ่มที่เหยียบเบรกตรงหน้าไฟจราจรขึ้นสีแดงคนนั้นจู่ๆ ก็หันหน้ามา ภายใต้แสงหลากสีของเมืองใหญ่ เธอยืนอยู่ริมถนน เขานั่งอยู่ในรถ ทั้งสองคนประสานสายตา
แววตาของเขาเรียบเย็น
เย็นเสียจนคนมองเห็นใจสั่นเทา
พักใหญ่…
เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ครู่นานที่ไม่สามารถถอนสายตาจากแววตาของเขาได้
ตอนที่โทรศัพท์ดังขึ้นเธอถึงได้สติกลับมา หยิบออกมาดูแวบหนึ่งพบว่าบนหน้าจอเป็นเบอร์รหัสแปลก เย่เซียวได้หันหน้าไปทางอื่นโดยแนบโทรศัพท์ชิดหู
ไป๋ซู่เย่ได้สติทันที กำโทรศัพท์ไว้ไม่กล้ารับ
เธอเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ โทรศัพท์ก็ดังไม่หยุดหย่อน ไม่รู้ว่าดังเป็นครั้งที่เท่าไรเธอกดรับในที่สุด
“เย่เซียว ฉันไม่กล้ารับประกันว่าโทรศัพท์ฉันจะถูกกระทรวงความมั่นคงดักฟังมั้ยไหม ฉะนั้น…”
“ขึ้นรถ ผมจะรอคุณอยู่ในอีกหนึ่งร้อยเมตรข้างหน้า” เขาวางสายเธอไปทันใด
“คุณไม่ต้องรอฉัน ฉันไม่ไปหรอก” เธอปรับเสียงตัวเองให้ฟังดูใจร้ายเด็ดขาดเสียบ้าง
“ผมจะรอคุณแค่สองนาที สองนาทีคุณไม่ขึ้นรถ พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณที่กระทรวงความมั่นคงโดยตรง”
“เย่เซียว!”
ไป๋ซู่เย่เน้นเสียงหนักแต่เย่เซียวได้วางสายไปแล้ว จากนั้นรถคันที่คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้นตานั่นได้ขับผ่านไฟเขียวไปจอดข้างถนนนิ่ง เธอยืนอยู่ตรงนั้นคอยมองอยู่ห่างออกไปนิ่ง เขายื่นมือออกนอกหน้าต่างโดยคีบบุหรี่ที่ถูกจุดเผาให้เห็นประกายไฟท่ามกลางความมืดยามราตรี
ร่างกายของเขาในตอนนี้สูบบุหรี่ รับไหวหรือ?
เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่พลางเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนเดินไปหาเย่เซียว หน้าต่างรถลดลง เธอไม่ได้ขึ้นไปแค่โน้มตัวตรงฝั่งข้างคนขับพูดกับเขาโดยรักษาระยะห่างไว้ “ถ้ามีเรื่องอะไร เราคุยกันแบบนี้เถอะ”
“พรุ่งนี้ไปคุยกันที่กระทรวงความมั่นคงแล้วกัน” เย่เซียวพูดจบก็เลื่อนหน้าต่างขึ้นบดบังใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั่นไว้ในรถ วินาทีถัดมารถถูกสตาร์ท
ไป๋ซู่เย่กังวลว่าเขาจะไปหาตนที่กระทรวงความมั่นคงจริงๆ หากเป็นเช่นนี้จะยิ่งทำให้ปลัดกระทรวงเกิดความคิดมากกว่านี้ เธอถอนหายใจเปิดประตูชิงขึ้นรถก่อนที่เย่เซียวจะขับรถไปก่อน
ภายในรถตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่
แสบจมูกนัก
เธอก้มมองดูพบว่าที่เขี่ยบุหรี่ในรถนั้นมีก้นบุหรี่กว่าสิบมวนแล้ว
ในมือเขายังคีบอีกหนึ่งมวน
ไป๋ซู่เย่นั่งข้างๆ ยังรู้สึกสำลักจนปวดไปทั้งปอด ยากจะคิดว่าชายหนุ่มที่สูบบุหรี่มากขนาดนี้จะรับไหวได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นสุขภาพเขายังอาการแย่ขนาดนั้น จนบัดนี้แผลกระสุนยังคงไม่หายดีหรือเปล่า!
เธอลดกระจกลงเบนหน้าหันไปทางนอกหน้าต่าง แสร้งเอ่ยปากพูดเสียงเย็น “กลิ่นในรถเหม็นมากพอแล้ว คุณช่วยดับบุหรี่ทีได้มั้ยไหม?”
เย่เซียวสูบแรงๆ หนึ่งทีถึงบดขยี้หัวบุหรี่แรงๆ จากนั้นไม่รอไป๋ซู่เย่ไหวตัวทันตัวรถก็พุ่งทะยานไปราวกับกระสุน ทั้งเร็วทั้งแรงจนเกิดแรงดันให้ตัวเธอพุ่งไปข้างหน้าอย่างแรง หากไม่ใช่เพราะสองมือที่ยันข้างหน้าไว้ หน้าผากท่าจะชนกับกระจกหน้ารถนานแล้ว เกรงว่าคงจะชนจนหัวแตกเลือดออกทีเดียว
“รัดเข็มขัด”
เย่เซียวกล่าว
สังเกตแล้วพบว่าเขาเรียบเฉยดังตอนแรก
ไป๋ซู่เย่ดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด รถของเขายังเคลื่อนตัวด้วยความแรงเช่นเดิมแต่ขับนิ่มมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!