อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! นิยาย บท 739

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! – ตอนที่ 739 หลับไปพร้อมอ้อมกอด (2)

เธอแย้มปากยิ้มจางๆ หางตากลับมีน้ำตาซึมออกมา

ในเวลาที่ยาวนานของอนาคต เธอกลัวเพียงตัวเองจะเป็นร่างไร้วิญญาณที่ต้องพึ่งพายาพวกนั้นอีก…

ชีวิตแบบนั้นแค่คิดก็ทุกข์แล้ว

ไป๋ซู่เย่หลับไปแล้ว

ได้ฝันที่นานมากๆ

ในฝันย้อนเวลากลับไปเมื่อสิบปีก่อน

แสงสดใสกระจ่าง มีโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งตระหง่าน

เย่เซียวใส่ชุดเจ้าบ่าวยืนอยู่ข้างบาทหลวง

เธอสวมชุดแต่งงานมือถือช่อดอกไม้ย่างเข้าไปหาทีละก้าวๆ ภายใต้เสียงดนตรีบรรเลงคลอ

“เย่เซียว…”

เธอยิ้ม เรียกชื่อเขาเบาๆ

ใต้ผ้าห่มเย่เซียวจูบปากเธอ จูบลำคอของเธอ ไหปราร้า ได้ยินเสียงเธอเรียกตัวเองจึงเงยหน้ามอง

เธอมองเขาในสภาพที่กึ่งหลับกึ่งตื่น “ตอนที่คุณใส่ชุดเจ้าบ่าว ดูดีจังเลย…”

หัวใจบีบรัด

เย่เซียวหายใจหนักอึ้งน้อยๆ ก้มหน้าลงประทับจูบปากเธอ

เธอไร้หัวใจมากขนาดไหนกันที่เวลานี้แล้วยังพูดแบบนี้ออกมาได้อยู่อีก!

เดิมทีไป๋ซู่เย่อยากบอกว่าตอนที่ตัวเองใส่ชุดเจ้าสาวก็สวยมาก งดงามไปทั้งโบสถ์…

แต่ความเจ็บตรงริมฝีปากปลุกเธอตื่นในทันที

ชายหนุ่มที่ทับอยู่บนตัวตนเองไม่ได้ใส่ชุดเจ้าบ่าว ส่วนตัวเอง…ก็ไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาว

พวกเขาไม่ได้อยู่ที่โบสถ์…

เมื่อรับรู้ว่าความดีงามทุกอย่างที่สัมผัสเมื่อกี้เป็นเพียงความฝันนั้น ความรู้สึกนั่นมันช่างแย่ยิ่งกว่าโดนน้ำเย็นหนึ่งถังราดหัว คล้ายถูกจับโยนใส่บ่อน้ำเย็นยะเยือกอย่างไร้ความปราณีมากกว่า ถูกสูบเรี่ยวแรงไปทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่แรงจะหายใจ…

เธออยากร้องไห้จังเลย

แต่ความรู้สึกอัดอั้นตรงหน้าอกทำให้ร้องไห้ไม่ออก…

รู้สึกเพียงว่าทรมานไปยันทุกอณูของร่างกาย…

เย่เซียวไม่รับรู้ว่าเธอฝันเช่นไร เห็นเธอตื่นแล้วกลับประกบจูบเธอหนักหน่วง จูบที่ปะทะเข้ามาของชายหนุ่มทำให้เธอเชิดหน้าตอบรับจูบของเขาด้วยอัตโนมัติ

เย่เซียวต้องการเธอ มากเสียจนรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว คราวก่อนในห้องนี้ความเจ็บตรงหัวใจสามารถบรรเทาความต้องการที่เขาต้องการเธอจนแทบบ้าได้ แต่วินาทีนี้เขาไม่อาจทนไหวอีกต่อไป

เลิกผ้าห่มกระชากชุดนอนบนตัวเธออย่างรวดเร็ว ช้อนตัวเธอขึ้นพลางแยกขาของเธอให้นั่งควบอยู่บนร่างกายตัวเอง ยกบั้นท้ายเธอขึ้นก่อนจะสอดกายเข้าหาอย่างรุนแรงและหนักหน่วง

เจ็บ

เมื่อครู่เพิ่งลืมตารวมทั้งร่างกายของเธอที่ยังไม่ตื่นเต็มที่ ขนาดของเย่เซียวทำให้เธอยากจะรับไหวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วบวกกับในเรื่องนี้เขาไม่เคยรู้จักคำว่า ‘อ่อนโยน’

เธอเจ็บจนหลุดเสียงครางฮึมเบาๆ หรี่ตามองเขา ท่าทางอย่างนั้นเย้ายวนสุดหัวใจ กระตุ้นให้เขาเกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่าเดิม

เย่เซียวหยุดการกระทำถามเสียงแหบ “เจ็บใช่มั้ย?”

แต่ ณ ตอนนี้ต่อให้เจ็บ…เขาก็ไม่อาจถอนตัว เขาต้องการเธอ ต้องการเธอมากๆ…ความคิดนี้ขอแค่ได้ผุดขึ้นมาก็หักห้ามไม่ได้

ไป๋ซู่เย่ส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไร”

“ผมจะลองเบาแรงลง แต่ถอนตัวออกไปไม่ได้”

ความจริงเธอไม่ได้อยากให้เขาถอนตัวออกไปเช่นกัน…

ไม่อยากเลยสักนิดเดียว…

ต่อให้เจ็บ เธอก็ยอมรับทุกอย่างนี้อย่างยินยอมพร้อมใจ…

ไป๋ซู่เย่กอดลำคอเขาก่อน จูบปากเขา เดิมทีเย่เซียวก็แทบหักห้ามใจไม่ไหวพอถูกเธอยั่วยวนเข้าแบบนี้ก็ยิ่งควบคุมยากเข้าไปกันใหญ่

…………

นอกหน้าต่าง

‘ปัง–’ เสียงหนึ่งดังขึ้น แสงพลุหลากหลายสีสันราวกับสายรุ้งทะยานสู่ท้องฟ้าเหนือทะเล แทบจะจุดความสว่างให้กับเมืองทั้งเมือง ด้านนอกแสงไฟระยิบระยับ ข้างในร้อนแรงไม่มีที่สิ้นสุด

บนเตียง

ชายหนุ่มและหญิงสาวตระกองกอดพัวพันอย่างกระตือรือร้น

เธอปรับร่างกายให้ชินได้แล้ว ความเจ็บในยามแรกได้หายไปท่ามกลางความเสียวซ่านที่ทำเอาเธอแทบบ้า แรงกระแทกรุนแรงของเย่เซียวทำให้เธอที่หมอบคลานอยู่ใต้ร่างเขาความคิดประติดประต่อไม่ได้ มือกำผ้าปูเตียงข้างใต้แน่น

รอพลุดอกไม้ไฟนอกหน้าต่างปรากฏขึ้นเธอถึงฝืนลืมตาดู

“เย่เซียว…”

“หืม?” เขาที่กำลังรุกรานภายในร่างกายเธอนั้นเสียงแหบพร่าเซ็กซี่ถึงที่สุด

“…คุณไม่ได้พาฉันมาดูพลุดอกไม้ไฟหรอกเหรอ?” เสียงของเธอเย้ายวนกระเส้า

“คุณอยากดูพลุดอกไม้ไฟ?”

“อืม…”

“ได้ งั้นเราไปดูพลุดอกไม้ไฟ”

ขณะที่เขาคิดจะอุ้มเธอไปดูพลุดอกไม้ไฟจริงๆ นั้นไป๋ซู่เย่ก็รู้สึกคิดผิด

“เย่เซียว คุณอย่าอยู่นี่…” เธอคลานกับพื้นติดหน้าต่างตั้งพื้นในร่างเปลือยเปล่า เย่เซียวรุกล้ำเข้ามาจากด้านหลัง พลุดอกไม้ไฟข้างนอกพาแสงเข้ามาสาดส่องเรือนร่างกันและกัน

แสงไฟที่ห่างไกลออกไปแพรวพราวน่าหลงใหล ทั้งเมืองเยียวอยู่ใต้เท้าพวกเขา

แต่ว่า…

นี่มันหน้าต่างติดพื้นเชียวนะ นี่มัน…ชักจะกล้าเกินไปหรือเปล่า?

เย่เซียวประคองเอวคอดกิ่วของเธอ พละกำลังที่กระแทกกระทั้นเข้ามาไม่ได้ผ่อนเบาลงสักนิด “คุณอยากดูพลุดอกไม้ไฟไม่ใช่เหรอ? ดูดีๆ ตั้งใจหน่อย…”

“…” แบบนี้แล้วใครจะมีอารมณ์ดูพลุดอกไม้ไฟอีก? จะตั้งใจได้อย่างไรไหว?

ยังดีที่พวกเขาอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมและเป็นตึกที่สูงที่สุด ตรงข้ามไม่มีใครเห็นพวกเขาได้

ผลสุดท้าย…

ทั้งคุ่ไม่ได้ดูพลุดอกไม้ไฟเลย เพราะในตาต่างมีเพียงกันและกัน เป็นประกายทอแสงและน่าหลงใหลยิ่งกว่าพลุดอกไม้เหล่านั้น…

ภายใต้ท้องฟ้าแสงเจิดจรัส ร่างกายของชายหนุ่มและหญิงสาวเกี่ยวกระหวัดแนบแน่น

ไป๋ซู่เย่กำลังคิด…

ในอนาคตวันใดวันหนึ่งหญิงสาวที่จะถูกเย่เซียวเพรียกพร้ำต้องการอยู่ภายใต้ร่างเขาแบบนี้จะไม่มีวันเป็นเธออีกต่อไป…

……………………

ตลอดคืนนี้ทั้งคู่แทบไม่ได้นอน

กระทั่งฟ้าสว่างทั้งคู่ถึงได้หลับตาสักที

เมื่อเย่เซียวตื่นมาอีกทีเธอได้เตรียมตัวนั่งหันหลังให้เขาอยู่ริมหน้าต่างเงียบๆ เขามองไม่เห็นสีหน้าของเธอ

พักใหญ่เธอหันกลับมามองเขา “เย่เซียว ส่งฉันไปที่สนามบินเถอะ ฉันควรกลับไปแล้ว…”

นัยน์ตาเธอรื้นด้วยน้ำใสจางๆ ภาพทุกอย่างตรงหน้าเริ่มพร่ามัว

เขานอนอยู่บนเตียงจดจ้องเธอนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ เขายังคาดหวังให้เธอพูดอย่างอื่นบ้างแต่จนท้ายที่สุดเธอมีเพียงความเงียบ

กลับไปเถอะ…

ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปเถอะ…

เขาเลิกผ้าห่มออกลุกจากเตียง “รอผมก่อน ผมจะไปอาบน้ำ”

…………………

ไป๋ซู่เย่ถูกคนของประเทศ S รับกลับไปจากเมืองเยียวโดยตรง

เครื่องบินทะยานสู่ท้องฟ้าจวบจนหายไปจากสายตาเย่เซียวถึงสั่งให้คนขับรถออกรถ

ตลอดทางไร้คำพูดใดๆ

สายตาเย่เซียวมองไปนอกหน้าต่างตั้งแต่ขึ้นรถ บรรยากาศภายในรถอึดอัดแทบหายใจไม่ออก

รถยนต์ขับตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลไฟ

“ลุงหมิง ผมจะพบพ่อบุญธรรมผม” เย่เซียวเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ถอดเสื้อกันหนาวออกส่งให้คนขับใช้ข้างๆ

เฉิงหมิงหยักหน้ารับ “นายน้อย ไปห้องหนังสือเถอะ คุณไฟรออยู่ตรงนั้นนานแล้ว”

……

ในห้องหนังสือไฟเรนเซ่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข็นและกำลังใช้พู่กันจีนเขียนบางอย่างอยู่–无欲则刚 คำว่า ‘刚’ยังเขียนไม่เสร็จดี

“ส่งกลับไปแล้วเหรอ?” ไฟเรนเซ่ได้ยินเสียงฝีเท้าไม่แม้แต่จะเชยตามอง กล่าวเพียง “นั่งสิ”

เย่เซียวรู้ว่าไม่มีเรื่องใดปิดบังเขาได้ เขานั่งลงตรงหน้าโต๊ะหนังสือ “ท่านให้ผมแต่งงาน ได้ แต่ช่วยส่งคืนแม่ผมให้ผมด้วย”

…………………………….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!