เย่เซียวตัวสั่นอย่างรุนแรง เขาหอบหายใจหนักๆ หลายครั้งราวกับอาศัยมันมาผ่อนปรนความเจ็บปวดที่เหมือนถูกกรีดกรายที่หัวใจ
“ลูกของผม…ลูกของเรา ถูกเธอฆ่าไปแล้ว…” ในความมืดเสียงของเย่เซียวแหบแห้งถึงขีดสุด คุณแม่เย่ตะลึง กอดลูกชายแน่น ได้ยินแค่เสียงเขาพูดต่อ “แม่ว่า เธอมีใจให้ผม…”
เขาหัวเราะทีคล้ายกำลังเย้ยหยันตัวเองทั้งกำลังหัวเราะอย่างขมขื่น “ถ้าเธอมีใจให้ผมสักนิดจริงๆ เธอจะฆ่าลูกของผมได้ยังไง? จะฆ่าลูกของผมได้ยังไง!นั่นคือลูกของเรา!นั่นคือลูกของเรา!”
เขาพูดย้ำๆ ประโยคสุดท้ายด้วยอารมณ์ที่ใกล้จะพังทลายเต็มที กำปั้นเขาต่อยกำแพงไม่ยั้งจนเนื้อแตกเลือดไหลก็ยังไม่หยุดมือ
เธอใจเหี้ยมขนาดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้?!
“เย่เซียว อย่าทรมานตัวเองอีกเลย!แม่ขอร้องล่ะ อย่าทำร้ายตัวเองอีก!” เย่เซียวปวดใจจนน้ำตาไหลพรั่งพรูไม่หยุด รีบกอดแขนเย่เซียวไว้
เย่เซียวรู้สึกเพียงเจ็บร้าวตรงหัวใจ
ทันใดนั้นทั้งร่างก็ทิ้งตัวลงให้คุณแม่เย่หวีดร้องอย่างตกใจหมายจะยื่นมือไปประคองเขาแต่ไม่ทันเสียแล้ว ได้ยินเพียง ‘ปึง–’ เสียงดังทึบ ร่างหนักอึ้งของเขาได้ล้มลงไปอย่างแรงตามด้วยหมดสติ
“คุณหมอถัง!คุณหมอถัง!” คุณแม่เย่ร้องขึ้นเสียงดัง
ฉับพลันคฤหาสน์ทั้งหลังก็เกิดโกลาหล ถังซ่งพุ่งตัวขึ้นมารวมถึงน่าหลันก็วิ่งเข้าห้องอย่างรีบร้อน
……………………
ยี่สิบวันหลังจากนั้นไป๋ซู่เย่ขอลา
ยี่สิบวันนี้เธอไม่ได้ไปไหนแต่นอนพักที่จงซันถึงยี่สิบวันเต็ม ฮูหยินไป๋อยากจะขุนเธอให้อ้วนกว่านี้หน่อยแต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่อ้วนขึ้นสักที ไป๋เย่ฉิงกลับลากตัวเธอไปวิ่งทุกเช้า เธอไม่ปฏิเสธ การออกกำลังกายจะทำให้คนเราอารมณ์ผ่อนคลายขึ้น
แต่เธอกลับรู้ดี…
ความผ่อนคลายเหล่านั้นเป็นเพียงภาพจอมปลอมที่แสดงให้คนที่เป็นห่วงเธอโดยเฉพาะ
ส่วนที่เหลือไว้ให้ตัวเองกลับเป็นความทรมานทุกวินาทีของกลางดึกทุกคืน
เมื่อเธอกลับมาที่กระทรวงความมั่นคงไป๋หลางกำลังนั่งค้นเอกสารที่หน้าโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าคิ้วขมวด
“ดูอะไร?” ไป๋ซู่เย่เดินผ่านห้องทำงานเขาเลยเคาะประตู
ไป๋หลางเงยหน้า เห็นว่าเป็นเธอก็แทบจะซ่อนเอกสารไว้ทันที
“ซ่อนอะไร?” แวบเดียวไป๋ซู่เย่ก็จับผิดสังเกตเขาได้
“ไม่มีอะไรครับรัฐมนตรี คุณหมดวันพักแล้วเหรอ?”
“อืม”
ไป๋ซู่เย่เดินเข้าไปช้าๆ ไป๋หลางแอบซ่อนเอกสารไว้ชั้นล่างสุดเงียบๆ สุดท้ายไป๋ซู่เย่ที่ดูท่าทีเขาออกยื่นมือเดียวแย่งเอกสารไปถือไว้ทันที
เนื้อหาที่เข้าตาทำให้เธอนิ่งอยู่กับที่
ในยี่สิบวันนี้เย่เซียวได้รับช่วงต่อไฟเรนเซ่ทุกอย่างรวมถึงการเจรจาค้าอาวุธกับสามประเทศเพื่อนบ้านของประเทศ S ที่จะมีเขาเป็นผู้เจรจาเอง
ไป๋หลางแอบสังเกตสีหน้าเธอถึงค่อยๆ เอ่ยปาก “เย่เซียวก้าวขึ้นมาก็เลื่อนการเจรจาเหล่านี้ให้เร็วขึ้น ไม่ถึงสิบวันก็เซ็นสัญญาไปแล้วหนึ่งประเทศ สองประเทศที่เหลือถ้าไม่ผิดจากที่คาดก็น่าจะเสร็จสิ้นภายในสองเดือนนี้ ดังนั้น…ตอนนี้เย่เซียวได้แทนที่ไฟเรนเซ่ กลายเป็นเป้าหมายที่เราต้องกำจัดเป็นอันดับแรก แล้วครั้งนี้ทางกองทัพได้ให้อาวุธที่ดีที่สุด พลังทำลายล้างไม่มีอะไรเทียบได้”
ไป๋ซู่เย่หายใจหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย เหม่อลอยไปครู่หนึ่ง พักใหญ่ถึงถาม “แล้ว…เขาบาดเจ็บมั้ย?”
“หลายวันก่อนดักเจอเขาได้ที่ต่างประเทศ ถึงไม่ได้โจมตีเขาได้โดยตรงแต่ก็โดนลูกน้องของเขา”
“หยูอัน?”
“…ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!