มือที่ตกอยู่ข้างลำตัวกำแน่นจนเริ่มสั่นเทาเผยให้เห็นเส้นเลือดปูดโปนตรงช่วงลำแขน
ทุกอย่างนี้กำลังแสดงให้เห็นถึงอารมณ์คุกรุ่นที่เขาระงับไว้ในขณะนี้
“แท้งไปแล้ว…” ครู่ใหญ่ไป๋ซู่เย่ถึงพูดออกมาเสียงลอยๆ จรดสายตามองพื้นอย่างไร้แสงประกาย เสียงนั่นเหมือนหมอกควันที่พร้อมจะสลายทุกเมื่อที่ลมพัดมา
แต่กลับเป็นเหมือนมีดคมที่ปักแทงลงกลางอกของเย่เซียว เขาตัวสะท้านรุนแรง “คุณ…คุณพูดอีกที!”
“แท้งไปแล้ว!ทำแท้งไปแล้ว!ลูกไม่อยู่แล้ว!คุณพอใจหรือยัง?” เธอเริ่มควบคุมไม่ได้ พูดถึงประโยคท้ายเสียงแหบแห้งและแทบจะเป็นการตวาด เสมือนได้ปลดปล่อยทุกหยาดอารมณ์ที่ระงับไว้อย่างยากลำบากให้วินาทีนี้ระเบิดออกมาทั้งหมดยามเผชิญหน้ากับเสียงคำถามของเย่เซียว “เย่เซียว คุณไปแต่งงานตามสบาย ฉันไม่มีทางรบกวนพวกคุณ…ไม่มีทางตลอดชีวิต…”
‘แท้งไปแล้ว’ คำนี้ทิ่มแทงหัวใจเธอไม่หยุดหย่อน ไม่ได้เบาไปกว่าความเศร้าเสียใจเมื่อสูญเสียลูกไปเท่าไร…
เย่เซียวตาแดงก่ำใช้มือใหญ่บีบคอระหงส์เธอไว้ทีเดียว จับตัวเธอโยนให้กระแทกกำแพงแรงๆ เส้นเลือดตรงหน้าผากเขาเต้นตุบๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะแรงโกรธเกรี้ยว “คุณเชื่อมั้ยว่าตอนนี้ผมฆ่าคุณได้?”
เขาโกรธจนเสียงยังสั่น มือยิ่งไม่ได้ผ่อนแรงลงสักนิด ผู้หญิงคนนี้กล้าฆ่าลูกของเขา!ฆ่าลูกของพวกเขาสองคนได้อย่างใจเย็นเช่นนี้!ลูกคนแรก!
ไป๋ซู่เย่รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะตายด้วยน้ำมือเขาเพราะใบหน้าดวงเล็กที่ขาดอากาศหายใจจนเริ่มเปลี่ยนสี แต่เธอไม่ได้ขัดขืนเพียงแค่ปล่อยให้เขาบีบคอตัวเองต่อไปอย่างตายใจ
คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาเห็นฉากนี้ล้วนไม่กล้าส่งเสียง กระทั่งเห็นถังซ่งวิ่งมาจับมือเขา “เย่เซียว รีบปล่อย อยากให้คนตายหรือไง?!”
เย่เซียวกลับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ดวงตาแดงก่ำจ้องไป๋ซู่เย่ไม่ห่าง เริ่มรื้นด้วยน้ำใสช้าๆ ช้าๆ
ไป๋ซู่เย่เห็นภาพนั้นเองกับตารู้สึกเหมือนโดนอาวุธหนักๆ กระแทกที่หัวใจอย่างฉับพลัน แรงสะเทือนที่ทำเอาเธอเจ็บสะท้านไปทั้งอวัยวะภายใน
น้ำตากลิ้งลงจากตาตามโดยไม่รู้ตัว
“ไป๋ซู่เย่…ผมเย่เซียวนี่มันบ้าจริงๆ ถึงได้ควักหัวใจมาไว้ในมือคุณครั้งแล้วครั้งแล้ว ปล่อยให้คุณย่ำยี ปล่อยให้คุณทำลายมัน!” เสียงของเขาราวกับหัวใจแตกสลาย เขาที่เคยชินกับการมองคนราวกับอยู่เหนือกว่าและเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง ครั้งนี้กลับรู้สึกท้อแท้พ่ายแพ้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ปากของเขาแทบจะชิดติดปลายจมูกเธอ เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจเย็นเข้ากระดูกของเขา ปากบางกำลังสั่น เสียงก็สั่นอย่างรุนแรง “คุณทำให้ผมแพ้อีกแล้ว…แพ้ไม่เหลือชิ้นดี!”
มือของเขาคลายจากลำคอเธอช้าๆ เจ้าตัวก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวและยืนทรงตัวแทบไม่ไหว
เธอได้หายใจเต็มปอดเสียทีแต่สองขากลับอ่อนแรงหลังแนบกำแพงแต่ก็ยังยืนไม่มั่นคง
แค่หายใจทีเดียวเจ้าตัวก็ทรุดตัวลงตามกำแพงล้มนั่งอยู่บนพื้นเย็น
น้ำใสในตาเย่เซียวได้หายไปแล้ว เหลือเพียงความเย็นชา เขาก้มมองเธอด้วยสีหน้าที่เย็นชาไร้ความปราณียิ่งกว่าครั้งไหนๆ “ตั้งแต่วันนี้ไประหว่างคุณกับผมตัดขาดกัน!จากนี้ไม่ว่าคุณไป๋ซู่เย่จะเป็นจะตาย ก็ไม่เกี่ยวข้องกับผมเย่เซียวอีก!”
ไป๋ซู่เย่หอบหายใจ น้ำตาเอ่อล้นมองเย่เซียวอย่างน่าสงสาร อยากจะพูดบางอย่างแต่หัวใจเหมือนมีก้อนสำลีอุดไว้พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เย่เซียวมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นหันหลังเหลือเพียงแผ่นหลัง
“เย่เซียว!” ถังซ่งเรียกเขาทีหนึ่งแล้วมองไป๋ซู่เย่ที่นั่งล้มกับพื้นแวบหนึ่ง
โน้มตัวประคองตัวเธอขึ้น มองเธอนิ่งๆ แวบหนึ่ง“ถึงจะไม่สนเรื่องพวกคุณว่าจะทำอะไรกันบ้าง แต่ว่า…ครั้งนี้ คุณทำร้ายเย่เซียวเข้าแล้วจริงๆ”
ไป๋ซู่เย่หลังแนบกำแพงพลางรู้สึกเพียงวิงเวียนศีรษะ เธอไม่ได้ฟังคำพูดของถังซ่งเลย มีแค่ประโยคของเย่เซียวที่ว่า ‘ตัดขาดกัน’ก้องกังวานในหัวไปมา …
เขาเคยบอกว่า
–ถ้าคุณกล้าตาย ผมจะไปพลิกนรก!
ตอนนี้เขากลับพูดว่า
–ต่อจากนี้ไม่ว่าคุณไป๋ซู่เย่จะเป็นจะตาย ก็ไม่เกี่ยวข้องกับผมเย่เซียวอีก!
ไม่เกี่ยวข้องอีก…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!