ไป๋ซู่เย่ตอบรับแล้วเดินตามคุณแม่เย่ไป
ในห้องโถงจึงเหลือเพียงสองพ่อลูกกำลังประจันหน้ากันอยู่
ไป๋ซู่เย่ที่อยู่ในห้องครัวเองก็ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลัวไฟเรนเซ่จะทำมิดีมิร้ายต่อเย่เซียว ในเมื่อในร่างกายเขายังมีกระสุนฝังอยู่ และเป็นฝีมือไฟเรนเซ่เองด้วย
“ถ้าหนูไม่วางใจก็แอบไปนั่งในห้องโถงข้างๆ” คุณแม่เย่ดูออกถึงความเป็นห่วงของเธอ
“แต่ หนูยังต้องทำอาหาร…”
“คิดว่าจะให้หนูทำอาหารจริงเหรอ? ไม่ต้องหรอก หนูไปเถอะ!”
“ค่ะ คุณป้า งั้นหนูไปก่อนนะคะ” ไป๋ซู่เย่เดินออกมาจากห้องครัวค่อยๆ ย่างกรายไปยังห้องโถงข้างๆ ห้องโถงข้างๆ กับห้องโถงใหญ่มีเพียงกำแพงกั้น ทำให้เธอพอจะได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเขาได้บ้าง
………………
ไฟเรนเซ่พูดด้วยน้ำเสียงห้วน “อย่าคิดว่าฉันอยู่ต่างประเทศแล้วจะไม่รู้เรื่องของพวกแก ฉันแค่ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แค่คิดว่าแกจะมีขอบเขต แต่ตอนนี้แกกลับพาเธอมาทำท่าได้ใตตรงหน้าฉัน!”
“ผมไม่ได้ทำท่าได้ใจ” ต่อหน้าความเข้มงวดของไฟเรนเซ่นั้นน้ำเสียงของเย่เซียวยังคงราบเรียบเช่นเดิม ไร้ความตื่นตระหนกราวกับกำลังอธิบายความจริงสักอย่างแบบปกติ “เธอเป็นผู้หญิงของผม ท่านเป็นพ่อบุญธรรมของผม ไม่ช้าก็เร็วที่ท่านกับเธอต้องเจอกัน และบังเอิญว่าเป็นวันนี้เท่านั้นเอง”
“ผู้หญิงของแก? ตลกสิ้นดี!” ไฟเรนเซ่แค่นเสียง “ทำไม? ตอนนี้คิดจะทำลายสัญญาฉบับนี้เพื่อผู้หญิงของแกอีกแล้วงั้นเหรอ?!”
“ไม่หรอกครับ” เย่เซียวตอบ “ท่านสบายใจได้ ในเมื่อผมเคยสัญญากับท่านก็ไม่มีวันยกเลิกสัญญาครั้งนี้เองเด็ดขาด อะไรที่ผมพูดไปผมจะทำมันให้ได้”
“ดี งั้นฉันถามแก—จุดประสงค์ที่เธอเข้าใกล้แก เพราะสัญญาพวกนี้ใช่มั้ย?”
เย่เซียวเงียบไปชั่วขณะ
ไฟเรนเซ่โกรธจนคว้าหมอนข้างกายโยนใส่เขา “น้ำเข้าสมองแกหรือไง!รู้ทั้งรู้ว่าเธอมาปั่นหัวแกเพราะมีจุดประสงค์บางอย่างแกยังกล้าเล่นกับเธอ!จะเล่นให้ตัวตายถึงจะพอใจใช่มั้ย? แกมั่นใจในตัวเธอเหรอ? แกมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ยว่าสุดท้ายเธอจะไม่ฆ่าแกจริงๆ?!”
ไฟเรนเซ่โกรธจนเสียงสั่นเครือ
เย่เซียวจับหมอนไว้แม่น ถ้อยคำยาวพรืดของพ่อบุญธรรมทำให้เขาตอบไม่ได้สักอย่าง
เขาไม่มั่นใจจริงๆ กับเธอ สุดท้ายแล้วหากไม่ถึงวินาทีสุดท้ายก็เดาใจเธอไม่ถูกอยู่ดี เธอมีสติแยกแยะที่ดีเกินไป ทุกความรู้สึกบางทีอาจไม่มีค่าอะไรเลยยามเทียบกับหน้าที่ภาระของเธอ
“ชีวิตแกฉันเป็นคนให้!แกกลับปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งเอาชีวิตแกไปครั้งแล้วครั้งเล่า เย่เซียว แกนี่มัน—หมดทางจะช่วยแล้ว!”
“อย่างน้อยตอนนี้เธอยังไม่เอาชีวิตผม” เทียบกับไฟเรนเซ่ เขาในฐานะตัวการกลับคงความใจเย็นเสมอต้นเสมอปลาย
“ได้ งั้นฉันถามแก—ถ้าสุดท้ายเธอคิดจะฆ่าแกจริงๆ เป้าหมายของเธอคิดจะฆ่าแก แกจะทำยังไง?”
เย่เซียวเงียบไปชั่วครู่ถึงเอ่ยปากตอบช้าๆ ด้วยเสียงขรึม “หวังว่าเธอจะไม่เลือกทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้น…เท่ากับรนหาที่ตาย”
ประโยคสุดท้ายเขาพูดเสียงแผ่วแต่กัดฟันพูดหนักแน่น มือที่วางบนที่วางแขนโซฟาเริ่มเกร็ง
“ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เธอรนหาที่ตาย แม้แต่แก–” ไฟเรนเซ่ชี้นิ้วใส่เย่เซียว “แม้แต่แกก็อย่าคิดจะมีชีวิตต่อ!”
เย่เซียวกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว เพียงถาม“ถ้าหากความจริงพิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้จะฆ่าผม ไม่ได้เข้าใกล้ผมเพราะหนังสือสัญญา พ่อก็จะยอมตอบตกลงผมเรื่องหนึ่งใช่มั้ยครับ?”
ไฟเรนเซ่แค่นเสียงเย็นชา “แกอย่าคิดจะได้ใจเชียว”
“ถือว่าเราพนันกันก็ได้ครับ”
“พนัน? แกแพ้ไปตั้งนานแล้ว!”
“ท่านไม่กล้าพนัน?”
“อย่าคิดจะใช้วิธีกระตุ้นฉัน มันไม่ได้ผลกับฉันหรอก!” ไฟเรนเซ่มองเย่เซียววูบหนึ่ง สักพักน้ำเสียงก็อ่อนลง “แกว่ามา!”
“ลองเปิดใจยอมรับเธอ”
ไฟเรนเซ่มองเย่เซียว “ยอมรับเธอ? ก่อนที่จะถามฉันเกรงว่าแกต้องถามลูกน้องพวกนั้นของแกก่อน ยี่สิบห้าชีวิตไม่ใช่เรื่องตลก”
“ท่านเป็นพ่อของผม เป็นผู้อาวุโสของผม ผมก็ต้องถามท่านก่อน ส่วนคนอื่นผมจะลองหาทางคุยอีกที”
“ฉันว่าแกมันโดนของเข้าแล้วจริงๆ!” ไฟเรนเซ่กัดฟันกรอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!