สิ่งของทุกอย่างของเขาถูกย้ายออกทั้งหมดไม่เหลือร่องรอยเพียงนิด เหมือนกับว่า…คนคนนี้ไม่เคยปรากฎตัวมาก่อน…
ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาของเธอเท่านั้น…
……
หัวเตียงมีตั๋วเครื่องบินใบหนึ่งวางอยู่ เป็นตั๋วเครื่องบินไปประเทศ S ที่ชื่อบนนั้นเป็นชื่อเธอ
เวลาเดินทางคือคืนนี้
ไป๋ซู่เย่มองตั๋วเครื่องบินใบนั้นนิ่ง น้ำตาทำให้ภาพทุกอย่างพร่ามัวในทันที
ฉะนั้น…
นี่เขากำลังไว้ชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายให้เธอหรือ?
เธอแย้มปากยิ้มขมขื่นแล้วเก็บตั๋วเครื่องบิน ความจริงสิ่งที่เขาไม่เคยรู้ เธอหมดทางหนีรอดตั้งนานแล้ว…
ไป๋ซู่เย่หยิบโทรศัพท์โทรหาไป๋หลาง
“รัฐมนตรี สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับ?”
ไป๋ซู่เย่หยัดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างลำบาก ลูบหน้าที่เศร้าโศกครู่ใหญ่ถึงเปล่งเสียงออกมาได้ “ฉันจะให้รหัสลับนายอันหนึ่ง รีบแกะมาให้ฉัน อย่าเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว”
“ครับ ส่งมาให้ผมก็พอ แต่ว่า…” ไป๋หลางชะงักไปครู่ “น้ำเสียงของคุณฟังดูแย่มากเลย หรือว่า…เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉันวางสายก่อนล่ะ”
ไป๋ซู่เย่ไม่ตอบแต่วางสายแทน เธอทิ้งตัวนอนแผ่บนเตียงอย่างหมดแรงอีกครั้ง ดวงตาจ้องเพดานห้องอย่างไร้จุดหมาย
เย่เซียววางกับดักเธอเป็นการลองเชิงเธอและระแวงเธอ ส่วนที่เขาไม่รู้คือ เธอที่ไม่มีทางให้ถอยหลังอีกต่อไปนั้นเหลือเพียงต้องกระโดดเข้าบ่วงกับดักนี้อย่างไม่ลังเลใจ…
เพียงแค่เกรงว่าต้องปฏิเสธความปราณีที่เขามอบให้กับตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายนี้อีกแล้ว…
เธอไม่มีทางเลือกอื่น…
เธอมองตั๋วเครื่องบินใบนั้นแวบหนึ่ง ดวงตารื้นด้วยน้ำใสชั้นบางๆ อีกหน
เย่เซียว…
ในอนาคตที่แสนไกล สักวัน ขอแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น เขาจะยังนึกถึงเธอคนนี้ที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ไหม…
ต่อให้เป็นความกลียดชังที่ฝังลึก…
——
ไม่นานไป๋หลางก็ส่งข้อความมา
เวลาคือสองทุ่มครึ่งพรุ่งนี้ ส่วนที่อยู่คือคฤหาสน์ของท่านดยุคมู่ซือที่อยู่ทางเหนือสุดของเมืองเยียว
“พรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของดยุคมู่ซือ ถึงตอนนั้นจะมีสุภาพบุรุษมีชื่อเสียงมากมายปรากฏตัว พวกเขาน่าจะเลือกเซ็นสัญญาในงานเพื่อหลบสายตาผู้คน” ไป๋หลางวิเคราะห์
ไป๋หลางตอบ “หาบัตรเชิญให้ฉันใบหนึ่ง อย่ากระโตกกระตากไป”
“คุณ…คิดจะออกปฏิบัติภารกิจคนเดียว?”
“อืม”
“ไม่ได้ครับ!พวกนั้นเป็นกลุ่มติดอาวุธทั้งนั้น คุณคนเดียว…”
“นี่เป็นคำสั่ง คืนนี้ให้คนเอาบัตรเชิญมาส่งที่โรงแรม” ไป๋ซู่เย่พูดขัดไป๋หลาง
ไป๋หลางเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นถามเสียงเรียบ “ผมอยากรู้แผนของคุณ”
ไป๋ซู่เย่ไม่ได้ตอบพักหนึ่ง เสียงหายใจทั้งหนักอึ้งทั้งหน่วง ไป๋หลางเกิดลนขึ้นมาอย่างน่าแปลก อยากจะถามอะไรอีกแต่ไม่รอให้อ้าปากถามเธอก็วางสายไปเสียก่อน
ไป๋ซู่เย่สูดหายใจลึก รอสงบสติอารมณ์ได้ก็ลงจากเตียงเปลี่ยนเสื้อ
โทรศัพท์แผดเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
เธอคว้ามาดูเบอร์บนนั้นจนนิ่งเพราะความแปลกใจไปชั่วอึดใจ
ไฟเรนเซ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!