แต่วันนี้เนื่องจากเป็นงานวันเกิดของท่านดยุคมู่ซือ ฉะนั้นภายในงานเลยครึกครื้นก่อนแล้ว
ไป๋หลางหยิบบัตรเชิญออกมาเดินเข้างานอย่างราบรื่นไปพร้อมกับไป๋ซู่เย่ ก่อนที่ไป๋ซู่เย่จะเข้าไปได้กวาดมองทั้งงานแต่ไม่เห็นกลุ่มคนของเย่เซียว
“ตอนนี้ยังเร็วไปหน่อย คิดว่าพวกเย่เซียวยังมาไม่ถึง” ไป๋หลางกระซิบ
“คนของเราล่ะ?”
“ตั้งการ์ดรอข้างนอกแล้ว ขอแค่มีการเคลื่อนไหวจากข้างในจะรีบพุ่งเข้าไปทันที”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้า ตวัดตามองไป๋หลางอย่างจริงจังแวบหนึ่ง “เรื่องที่นายเคยรับปากไว้ อย่าลืมล่ะ”
“ครับ ผมจำได้ดี–ไม่ว่ายังไงก็ห้ามทำร้ายเย่เซียว” ไป๋หลางพูดย้ำอีกทีก่อนกล่าว “คุณยังเป็นห่วงเย่เซียวอยู่อีก เขาน่ะ ไม่ทำร้ายเราสองคนก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว”
“นายวางใจได้ ขอแค่พวกนายไม่ประจันหน้าโดยตรงกับพวกเขา เย่เซียวไม่มีวันทำร้ายนาย”
“หวังว่านะครับ” ไป๋หลางไม่ได้มั่นใจอย่างเธอ
ทั้งคู่เดินควงแขนเข้างานไป พวกเขาไม่ใช่คนประเทศ T ดังนั้นผู้คนภายในงานตอนนี้ไม่มีคนที่พวกเขารู้จักสักคน แต่คิดว่าบุคคลที่ถูกกลุ่มคนห้อมล้อมอยู่ตรงกลางนั่นคงจะเป็นท่านดยุคมู่ซือ
ไป๋ซู่เย่กับไป๋หลางไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจคนอื่น ได้แต่สังเกตตำแหน่งจุดภายในงาน
ไป๋หลางเข้าห้องน้ำ สักพักหยิบแก้วไวน์กลับมาสองแก้วพลางกระซิบชิดหูเธอ “ในห้อง 701 ทางมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ น่าจะเป็นห้องที่พวกเย่เซียวจะทำสัญญา เมื่อกี้ผมแอบมองไกลๆ เห็นคนของสองประเทศรออยู่บนนั้นแล้ว ปิดมิดชิดมาก”
ไป๋หลางกล่าว “แค่เราสองคน น่าจะไม่มีโอกาสหลุดเข้าไปได้”
“ใช่ว่าจะต้องเข้าไป” ไป๋ซู่เย่พูดเสียงเรียบ
“ยังไงครับ?”
“เดี๋ยวเย่เซียวจะมาไม่ใช่เหรอ? คุยกันข้างนอกก็พอ”
ไป๋หลางมองเธอด้วยความสงสัย “คุณคิดว่าเย่เซียวยังเชื่อคุณอยู่อีกเหรอ? ถึงได้ล้มเลิกความคิดได้ในไม่กี่ประโยค”
ถ้อยคำของเขาทำเอาไป๋ซู่เย่เสียหน้าไปชั่วขณะ
เชื่อ?
ความจริงเขาไม่เคยมั่นใจในความรักที่เธอมีต่อเขา และไม่กล้าจะเชื่อเธอ…
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่คิดจะลองใจเธอ ให้เธอรู้ถึงการมีอยู่ของอีเมลฉบับนั้น
คำนี้สุดท้ายไป๋ซู่เย่ไม่ได้พูดต่อหน้าไป๋หลางแค่แย้มปาก “อืม นายไม่ต้องสนใจ ให้เป็นเรื่องของฉันก็พอ”
เรื่องมาถึงจุดนี้คิดว่าเขาน่าจะอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะเอาปืนฆ่าเขาจริงๆ หรือไม่…
นี่เป็นเรื่องที่เขาเก็บเป็นความสงสัยไว้ก้นบึ้งของหัวใจมาโดยตลอด
“ฉะนั้นเดี๋ยวเย่เซียวเข้ามา เราไม่ต้องหลบซ่อน?” เพิ่งสิ้นเสียงคำถามของไป๋หลางก็ได้ยินเสียงฮือฮาจากรอบข้าง
แอบได้ยินเสียงคนที่เดินเข้ามาบอกท่านดยุคมู่ซือ “ท่านดยุค คุณเย่เซียวมาถึงแล้วครับ!”
ชื่อนี้เรียกให้หัวใจไป๋ซู่เย่สั่นไหวทีหนึ่ง ไป๋หลางแทบจะดึงเธอเข้าไปหลบมุมโดยอัตโนมัติ ก้มมองเธอแวบหนึ่งเห็นถึงความอาวรณ์บนใบหน้าเธอ สายตามองไปยังประตูทางเข้านิ่ง
แสงไฟรวมเป็นจุดเดียวกันตรงประตูในทันที ประตูบานใหญ่แสนโอ่อ่าปนน่าเกรงขามค่อยๆ ถูกคนผลักเข้ามาจากข้างนอก
ผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวแทบจะทำเอาแสงไฟภายในงานหม่นหมอง แต่ก็ทำให้งานที่ครึกครื้นอบอุ่นอุณหภูมิต่ำลงหลายองศาทีเดียว
เย็นชาเกินไป
เป็นความเย็นชาที่มีมาแต่กำเนิด
ต่อให้เป็นงานสังคมแบบนี้เขาก็ไม่คิดจะไว้หน้าใคร การที่ต้องเผชิญกับการประจบประแจงของคนที่เข้าหา เขาคงสีหน้าเรียบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีรอยยิ้มให้เห็น
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้หญิงสาวมากมายนับไม่ถ้วนภายในงานต่างยอมศิโรราบต่อบุคลิกที่เย็นชาของเขา อีกทั้งความมีมาด รูปร่างสรีระ ความน่าเกรงขามนั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกอุ่นใจปลอดภัยเหลือเกิน
ราวกับว่าขอแค่มีเขาอยู่ ฟ้าจะถล่มทลายก็ไม่หวาดหวั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!