หลังเสียงหนึ่งดังขึ้นร่างคุ้นตาได้ปรากฏในร้านขายภาพวาด กำแพงกระจกหนาคอยกั้นทำให้หยูอันเห็นเพียงแผ่นหลัง
แต่แผ่นหลังนั่นได้สร้างความสะเทือนแก่เขาอย่างแรง
นี่…แม้แต่แผ่นหลังยังเหมือนขนาดนี้เชียว?!
“เจ้านาย วันนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”
“ก็จัดการได้ราบรื่นดีไม่ใช่เหรอ?” น้ำเสียงหญิงสาวไม่ได้ตำหนิ จู่ๆ เธอหันหน้ามาก้มหน้าจัดภาพวาดข้างๆ
หยูอันจ้องใบหน้าดวงนั้นเขม็งคล้ายกลัวว่าตนจะมองผิดไป เลยหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา
ให้ตาย!
นี่มันคล้ายน่าหลันอะไรกัน? นี่ไป๋ซู่เย่ชัดๆ!วิญญาณกลับคืนร่างหรือ?
มองอยู่พักใหญ่สุดท้ายหยูอันเก็บกล้องส่องทางไกลแล้วรีบขับรถกลับงานฉลองวันเกิดอย่างรวดเร็ว ดีเหลือเกิน!ขอแค่มีไป๋ซู่เย่อยู่ก็ไม่กลัวเย่เซียวไม่ยอมผ่าตัดแล้ว
……………………
“เจ้านาย ในรถเมื่อกี้เหมือนมีคนจ้องคุณตลอดเลย แล้วยังเอากล้องส่องทางไกลมาด้วยนะ” พนักงานร้านยืดคอมองไปนอกร้านก่อนจะแจ้งเจ้านาย
ไป๋ซู่เย่มองไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง เห็นเพียงไฟท้ายรถสีแดงสองจุดของรถที่ทิ้งท้ายก่อนหายเข้าไปในความมืด เธออมยิ้ม “อืม ฉันก็เห็นแล้ว ไม่เป็นไร เพื่อนเก่าทั้งนั้น”
“เพื่อนเก่าทำไมไม่เข้ามานั่งเล่นสักหน่อยล่ะคะ?”
“มาแน่ ไม่ช้าก็เร็ว”
พนักงานร้านไม่เข้าใจคำพูดเธอเช่นกันแต่ไม่ได้ถามอะไรมาก แค่เก็บกวาดภายในร้านง่ายๆ แล้วหยิบกระเป๋ากลับไป
ไฟของร้านขายภาพวาดค่อยๆ ดับลง ไป๋ซู่เย่ล็อกประตูย่ำเท้าเข้าสู่ความมืด
เมืองนี้กำลังอุ่นขึ้นช้าๆ
กิ่งไม้ข้างทางเริ่มมีต้นอ่อนสีเขียวผุดขึ้นประปราย เธอดื่มด่ำไปกับการเดินใต้ต้นไม้ สูดรับอากาศสดชื่นลึกๆ เต็มปอดก่อนจะรู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
เมืองที่มีเขาอยู่ แม้แต่อากาศยังดีได้ถึงเพียงนี้…
เย่เซียว…
ฉันกลับมาอีกแล้ว…
ครั้งนี้ จะไม่มีวันไปจากคุณอีก…
——————
สองวันหลังจากนั้น
คาบเรียนศิลปะแสนจะคึกคัก
สิบปีที่ผ่านไปไป๋ซู่เย่แทบจะหลงลืมทุกอย่างเกี่ยวกับการวาดไปจนหมดสิ้น พอตอนนี้มาเริ่มจับดินสอใหม่แล้วร่ำเรียน ซึมซับความงดงามของศิลปะและความสงบสุข เธอรู้สึกว่าสภาพจิตใจของตัวเองเปิดกว้างและผ่อนเบาสบายอย่างไร้เทียบเทียม
“ซู่ซู่ คืนนี้ทานข้าวด้วยกันสิ” เพื่อนนามว่าชิงอิ๋งที่นั่งข้างเธอเชื้อเชิญอย่างอบอุ่น
ไป๋ซู่เย่ยังไม่ทันตอบกลับชิงอิ๋งก็พูดเสียงเบา “เธอยังไม่มีแฟนใช่มั้ย?”
“ทำไม?”
สายตาอีกฝ่ายเหลือบมองไปด้านหลังของไป๋ซู่เย่ “หนุ่มน้อยด้านหลังเธอคนนั้น เธอรู้จักใช่มั้ย? เขาอายที่จะเชิญชวนเธอเลยให้ฉันมาช่วยพูดกับเธอ ยังไงเธอก็ไม่มีแฟน ก็ไปด้วยกันสิ ฉันจะไปกับเธอด้วย”
ไป๋ซู่เย่ทั้งอยากร้องไห้ทั้งอยากขำ “คุณชิงอิ๋ง เธอก็รู้ว่าเขาเป็นหนุ่มน้อย เขาเพิ่งอายุยี่สิบสอง เธอว่าเขากับฉันเหมาะสมกันเหรอ?”
“ก็เหมาะสมกันดีนะ เธอก็เพิ่งยี่สิบสี่ยี่สิบห้าไม่ใช่เหรอ ไม่ได้โตกว่าขนาดนั้นสักหน่อย”
ไป๋ซู่เย่ดันกรอบแว่นสีดำบนสันจมูก “ถึงฉันจะดีใจที่เธอพูดแบบนี้ แต่เธอเชื่อฉันเถอะว่าฉันโตกว่าเขามาก”
อีกฝ่ายเบ้ปากใส่ที “ล้อฉันเล่นสินะ!โตกว่ามาก คิดว่าหลอกใครอยู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!