“ไม่ได้บาดเจ็บเยอะอะไร ตอนนี้ยังเดินได้”
“กลับไปนอนพักดีๆ” เย่เซียวปรายตาไปที่พยาบาลที่ตามหลังเธอ “พาเธอกลับห้อง”
น้ำเสียงของเขาไม่อนุญาตให้ปฏิเสธโดยเสมอมา ทำให้คนไม่กล้าพูดคำว่า ‘ไม่’ บวกกับสีหน้าเย็นชาที่เขามีต่อผู้คนเป็นปกตินั่นพยาบาลเลยค่อนข้างเกรงกลัวเขา
“คุณไป๋ งั้นเรากลับไปฉีดยาที่ห้องเถอะ” พยาบาลมองเธอด้วยสายตาคาดคั้น
“ไม่ต้อง ฉีดที่นี่ก็พอ” พยาบาลกลัวเขาแต่เธอไม่กลัว เดินอ้อมมาอีกฝั่งจู่ๆ ก็เลิกผ้าห่มขึ้นซุกตัวลงบนเตียงเขา เตียงห้องพักผู้ป่วยเฉพาะมีขนาดความกว้างสองเมตรกว่า กว้างมาก มีที่เพียงพอสำหรับเธอแน่
เย่เซียวชะงักไปชั่วขณะ ใต้ผ้าห่มมือเย็นเฉียบถูกมือนุ่มของเธอกุมไว้
เธอไม่ได้เข้าใกล้เขาเพราะกลัวแตะโดนแผลของเขา เลยกุมมือเขาโดยที่เว้นระยะห่างอยู่เล็กน้อย
เขาชอบแบบนี้ ไม่ได้ไล่เธอไปกลับกระชับกุมมือเธอแน่นพลางบอกพยาบาลว่า “ฉีดยาให้เธอเถอะ”
“ได้ค่ะ”
พยาบาลคอยมองฉากอบอุ่นนี้พาลรู้สึกอ่อนยวบไปทั้งใจ เมื่อก่อนเคยเจอเย่เซียวเป็นบางครั้งแค่รู้สึกว่าเขาเย็นชาถึงขีดสุด แต่ไม่คิดว่าต่อหน้าหญิงสาวคนพิเศษนี้เขาก็มีมุมนี้เหมือนกัน
พยาบาลฉีดยาให้เธอเสร็จก็ออกไป
ในห้องเหลือเพียงสองคน เธอตะแคงตัวมองเขา เย่เซียวพูดเตือน “มืออย่าขยับ ระวังโดนเข็ม”
“ไม่เป็นไร ฉันระวังอยู่” เธอวางมือไว้บนหมอนพื้นราบ พยายามไม่แตะโดนมัน
เขาถึงค่อยวางใจหน่อย
“เย่เซียว”
“หืม?”
“แหวนแต่งงานเป็นคู่ไม่ใช่เหรอ? อีกวงหนึ่งล่ะ?”
เย่เซียวล้วงกล่องหนึ่งจากใต้หมอนมาเนื่องจากก่อนหน้านี้เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ถูกพยาบาลเก็บได้ก่อนจะนำมาให้เพราะตกจากเสื้อขณะที่เปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วย เขายื่นกล่องให้เธอ เธอเปิดมันด้วยมือข้างเดียวมองแหวนสำหรับผู้ชายวงนั้นแล้วมองเขาด้วยแววตาล้ำลึกแวบหนึ่ง จากนั้นหยิบแหวนจากกล่อง
ความรู้สึกร้อนระอุบางอย่างกำลังพลุ่งพล่านในอกของไป๋ซู่เย่ “เอามือคุณให้ฉัน”
เย่เซียวยื่นมือไป
เธอสวมแหวนใส่นิ้วนางของเขาเบาๆ ด้วยความจริงใจและเงียบสงบ ทั้งที่เป็นการแลกเปลี่ยนแหวนที่เรียบง่ายแต่กลับดูจริงจังยิ่งกว่าพิธีแต่งงาน
สายตาเย่เซียวลึกซึ้งกว่าเดิม จับมือเธอมากุมไว้ในมือแน่น แน่นเสียจนไม่มีวันแยกจากกันอีกตลอดชีวิต…
“รอเราแข็งแรงดีแล้วก็จัดงานแต่งงาน คุณอยากจัดที่ประเทศ S หรือเมืองเยียวก็ได้ทั้งนั้น” เย่เซียวพร้อมจะเคารพการตัดสินใจของเธอเสมอ
เธอส่ายหน้า
“ส่ายหน้าหมายความว่ายังไง?”
เธอประสานสายตากับเขา “เราไปจดทะเบียนที่สำนักงานเขตก็พอ ส่วนงานแต่งงานไม่จัดแล้วได้มั้ย?”
“ไหนว่ากันว่างานแต่งงานเป็นสิ่งที่ผู้หญิงรอคอยกันมากที่สุดไม่ใช่เหรอ?”
ไป๋ซู่เย่ค่อยๆ เอียงศีรษะไปทางเขา ขณะที่ใกล้จะซบตัวเขาหยุดชะงัก ไม่กล้าสัมผัสตามอำเภอใจกลับถูกเขาจับศีรษะให้พิงไหล่ตัวเองเบาๆ เขาก้มจูบศีรษะเธอ “ในที่สุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันสักที ทำไมถึงไม่จัดล่ะ?”
“ฉันรู้สึกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้กำลังดี จะทำให้มันวุ่นวายอีกทำไม?”
ผ่านการทรมานมานับสิบปี การจากลาเพราะความอยู่ความตาย พิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนล้วนกลายเป็นส่วนเกินสำหรับพวกเขาไปแล้ว
หัวใจที่หลอมรวมเป็นดวงเดียวกันนั้นได้เอาชนะคำสาบานต่อหน้าไม้กางเขนนั่นตั้งนานแล้ว
บัดนี้เธอหวังแค่ว่าจะใช้ชีวิตสงบสุขกับเขาเช่นนี้ต่อไป ไม่มีสิ่งรังควาน ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ อีก
————————
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!